“จตุพร” ชี้ชัด 309 เสียง ยังไม่จบตั้งรัฐบาล เตือนมีอีกหลายด่านหิน เอ็มโอยู “เพื่อไทย” ไม่พอ ต้องจับสาบานไม่ทิ้งกัน

"จตุพร" ชี้ชัด 309 เสียง ยังไม่จบตั้งรัฐบาล เตือนมีอีกหลายด่านหิน เอ็มโอยู "เพื่อไทย" ไม่พอ ต้องจับสาบานไม่ทิ้งกัน

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 66 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “นับจากนี้ไป คือ?” โดยเสนอให้พรรคก้าวไกลลากพรรคร่วมตั้งรัฐบาลรวม 309 เสียงกางเอ็มโอยูสาบานปฎิญาณตัว ลับหลังไม่ทิ้งหนี หรือแปรพักตร์ไปอยู่อีกฝ่ายให้ฉิบหายหมดสิ้น พร้อมเตือนการเมืองไทยเกิดอะไรขึ้นได้เสมอ เพราะหน้าฉากกับหลังฉากแตกต่างกันสิ้นเชิง

นายจตุพร กล่าวถึงผลเลือกตั้งปี 2566 ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อธิบายได้หลายอย่าง อีกทั้งมีบทเรียนมากมาย รวมถึงทักษิณ ชินวัตร ได้ถึงเวลาพูดในวันที่ 16 พ.ค.นี้ คงต้องจับตาดู ส่วนการเมืองเชิงตัวเลขแล้ว มีผู้มาใช้สิทธิ 39 ล้านคน คิดเป็น 75% ของทั้งหมด 52 ล้านคน ผลออกมาล่าสุดใน 6 อันดับแรกคือ พรรคก้าวไกลได้ 152 เพื่อไทย 141 ภูมิใจไทย 70 พลังประชารัฐ (พปชร.) 39 รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) 36 และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 25 เสียง

นอกจากนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกฯ แถลงตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก 309 เสียง ด้วยรวบรวมจากพรรคฝ่ายค้านเดิมประกอบด้วย ก้าวไกล 152 เสียง เพื่อไทย 141 ประชาชาติ 9 ไทยสร้างไทย 6 เสรีรวมไทย 1 และพรรคเป็นธรรม 1 เสียง

อย่างไรก็ตาม ถ้า รธน.ที่ปฏิบัติกันตามปกติแล้ว นายพิธา ต้องได้เป็นนายกฯ แต่ รธน. 2560 บังคับให้ ส.ว. 250 ร่วมลงมติเลือกนายกฯ ด้วยเหตุนี้เสียงรัฐบาลใหม่ 309 จึงไม่พอให้ชนะการเลือกนายกฯ ซึ่งใช้เสียง 376 จากทั้งหมด 750 เสียง จึงจะได้เป็นนายกฯ ดังนั้น ด่านแรกจึงสำคัญ พรรคร่วมรัฐบาลใหม่ต้องหาเสียงเพิ่มประมาณ 70 เสียง หากนำพรรคภูมิใจไทยที่มีเสียง 70 มาร่วมย่อมชนะขาดทันที แต่คงเป็นไปยาก สิ่งนี้จึงเป็นด่านแรกที่ต้องฝ่าฟัน

ส่วนท่าทีของ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกฯ ล่าสุด ส.ว.บางคนเสนอให้ ส.ส.ไปรวมเสียงให้เกิน 375 ก่อน แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมที่มาตั้งรัฐบาลใหม่คงหามารวมได้ยาก เพราะติดขัดจุดยืนทางการเมืองที่สัญญากับประชาชนไว้ ดังนั้น การตั้งรัฐบาลจึงเป็นศิลปะของผู้นำที่ต้องผสมส่วนรัฐบาลไปนำพาการบริหารประเทศ

นายจตุพร กล่าวว่า การเลือกตั้งยกแรกพรรคก้าวไกลชนะด้วยเสียงอันดับหนึ่งจำนวน 152 เสียง ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ 141 และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ 25 เสียง ย่อมได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน โดย ปชป. ไม่สามารถรักษา 52 เสียงเดิมเมื่อปี 2562 ไว้ได้ เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยในปี 2566 ได้ 141 เสียงในจำนวนนี้เป็น ส.ส.เขต 112 เสียง ซึ่งลดลงจากปี 2562 ที่ได้ ส.ส.เขต 136 เสียง

อีกทั้ง เห็นว่า ตัวเลขทางการเมืองยกแรกนั้น หลังจากนี้จะมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นตัวแปรอย่างมากโดยยังไม่รวมบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า การพิจารณารับรองหรือไม่รับรองผลเลือกตั้ง ขณะที่การแจกใบเหลือง แดง ย่อมมีผลการลดทอนและปรับเปลี่ยนตัวเลขของแต่ละพรรคได้อีกด้วย ที่สำคัญยังมีคำร้องเรียนอีกหลากหลายที่ต้องพิจารณาชี้ขาดทางกฎหมาย ซึ่ง กกต.เป็นผู้ดำเนินการทั้งสิ้น

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายจตุพร กล่าวว่า หลังเลือกตั้งผ่านยกแรกมาแล้ว ผลการเลือกตั้งจึงเป็นตัวแปรเชิงบังคับให้ทุกพรรคต้องยอมรับกติกาให้พรรคอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาล แต่จะตั้งรัฐบาลได้หรือไม่? เมื่อ สว. ยังยืนขาตายไม่เลือกใครสักคนเป็นนายกฯ ดังนั้นเสียงรัฐบาลร่วม 309 เสียงจึงแสดงถึงการดำรงความมุ่งหมายร่วมกันตั้งรัฐบาลเท่านั้น

พร้อมย้ำว่า เอ็มโอยู ของนายพิธา อาจจะหมายถึงอย่าทิ้งกันนะ หากจะมีพรรคแหกโค้งไป โดยมีเพียงพรรคเพื่อไทยที่จะทำได้ เมื่อเสียง 309 เป็นตัวเลขรวม แต่ กกต.หลังจากนี้จะทำอะไรในคำร้องมากมาย ดังนั้น ท่ามกลางอารมณ์ประชาชนบ่งสะท้อนถึงชนะแล้ว แต่ภายใต้กติกาของ รธน. 2560 ไม่ได้เป็นอย่างนั้น”

อีกทั้งสงสัยว่า การเลือกตั้งเป็นเพียงด่านแรกเท่านั้น ถ้า กกต.แจกใบเหลือง แดง หรือยุบพรรค จะว่าอย่างไร กกต.จะทำอย่างไร และหาก 309 ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เสียงนอกสภาจะดังขึ้น แล้วฝ่ายความมั่นคงที่ผ่านมาข้อมูลมากมายจะทำอย่างไร

“ถ้าวันนี้ ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าประชาธิปไตยจะจำเป็นต้องสาบานปฏิญาณแล้ว นายพิธา ควรลากมาสาบานตัวร่วมตั้งรัฐบาลและไม่ทิ้งกันไว้ก่อน ใครแยกตัวออกไปต้องถูกสาปแช่งให้มีอันเป็นไป แม้ผมไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมาพรรคที่หนึ่งยังเป็นฝ่ายค้านได้ เพราะการเมืองของไทยไม่มีอะไรแน่นอน” นายจตุพร เสนอ

รวมทั้ง ระบุว่า เมื่อครั้งที่แล้วในปี 2562 พรรคได้เสียงที่หนึ่งก็แถลงตั้งรัฐบาลเช่นกัน แต่เจอ กกต.เล่นเกมปัดเศษ เสียงจึงพลิกเปลี่ยนไปอีกฝ่าย แล้วตามมาด้วยการยุบพรรคจึงทำให้เสียงตั้งรัฐบาลได้อย่างขาดลอย แล้วในช่วงนั้น พรรคเพื่อไทย ก็มาเป็นฝ่ายค้าน ดังนั้น การเมืองไทยจึงไม่ง่ายอย่างที่เห็น แต่พวกเรามีหน้าที่ให้กำลังใจให้ได้เป็นไปตามที่หวังไว้

นายจตุพร กล่าวว่า ในปีนี้ หากพรรคอันดับหนึ่งยังเจออิทธิฤทธิ์ของ กกต.อีก อารมณ์ประชาชนไม่พอใจมารวมตัวลงถนน สถานการณ์ฺจะไปสู่ความวุ่นวาย เพราะมองมิติไหนก็วิกฤตทั้งนั้น ทั้ง ส.ว.เฉยไม่ลงมติเลือกนายกฯ ก็ผ่านไม่ได้ และตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะกติกา รธน. 2560 บังคับไว้ แล้วจะนำสู่ความขัดแย้ง เหนือกว่านนั้น ถ้า กกต.ลงดาบตามคำร้องเรียน สถานการณ์ยิ่งเละไปใหญ่อีก

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 เดือนถัดจากเลือกตั้งไป เป็นช่วงการรับรองผลเลือกตั้ง ย่อมมีจุดหักเหทางการเมืองได้เสมอ แม้วันนี้ไม่มีใครแสดงตัวเป็นอื่น และยังต้องเห็นด้วยกับนายพิธา แต่เอ็มโอยูนั้นพูดได้ ส่วนในทางการเมืองหน้าฉากกับหลังฉากไม่เหมือนกัน อีกทั้งมีด่าน กกต. รอคอยสำแดงเดชอยู่ในเบื้องหน้าอีก

“แม้การเลือกตั้งจบแล้ว แต่ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้น ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ไม่เป็นตามหวัง ขอให้เตรียมรับมือเผชิญกับกับดักของ กกต.ที่คนไม่รู้จัก เพราะการเมืองไทยไม่เคยมีอะไรเป็นไปไม่ได้ โดยสิ่งที่ยากกว่านี้ก็เกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น และในปัจจุบันก็ไม่มีอะไรแตกต่างเลย”

นายจตุพร ประเมินการเลือกตั้งว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ อารมณ์ของประชาชนถูกสร้างขึ้นด้วยการดีเบตที่มีพรรคดำรงความมุ่งหมาย เน้นความชัดเจน แล้วยังกลบนโยบายประชานิยมให้หายไปในโค้งสุดท้าย

“ผลการเลือกตั้งเป็นเรื่องจุดยืน การชัดเจนทางการเมืองเป็นความเชื่อทางการเมือง จึงเกิดปรากฎการณ์เปลี่ยนความเชื่อที่ชัดเจนกว่าพวกเดิมคือ พรรคเพื่อไทย ดังนั้นชัยชนะของพรรคก้าวไกลจึงเป็นบทเรียนให้พรรคเพื่อไทยต้องจดจำ”

 

นายจตุพร กล่าวว่า แต่การเลือกตั้งด้วยความเชื่อตามอุดมการณ์ หากผิดหวังครั้งเดียวจะไปเลย โดยผลเลือกตั้งช่วงหนึ่งประชาชนศรัทธาพรรคพลังธรรม และ ปชป. ดังนั้น การเมืองไทยไม่จีรังยั่งยืน ส่วนการแพ้ของบ้านใหญ่หลายพื้นที่จึงต้องมีการปรับตัวต่อสู้ในครั้งหน้าเช่นกัน เพื่อไม่ให้ถูกกวาดเรียบเหมือนครั้งนี้

“เมื่อการเมืองอยู่ที่ศรัทธาแล้ว แต่ความศรัทธา ไม่ได้คงที่เสมอไป ดูอย่างพรรคเพื่อไทยและปชป. ก็เปลี่ยนไป แล้วพรรคก้าวไกล ใครจะคิดว่าจะมีวันนี้ได้ ดังนั้นการเมืองไทยวันนี้อยู่ที่ความชัดเจนทางการเมือง ถ้าไม่ชัดเจนย่อมถูกล้มศรัทธาเก่าๆ ไปได้ โดยพรรคเพื่อไทยได้บทเรียนกับอาการรวนเร อย่างสุดเจ็บแสบ”

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เคาะวันแล้ว กกต. เปิดแผนงานเลือกตั้งนายก-สมาชิกอบจ.
"เคนโด้" นำ "กลุ่มผู้เสียหาย" ค้านประกันตัว "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" หวั่นคุกคามเหยื่อ
วัดพิบูลสัณหธรรม เตรียมจัดงานวันลอยกระทงเพื่อสมทบทุนบูรณะต่อเติมศาลาการเปรียญให้แล้วเสร็จ เพื่อใช้ประโยชน์ ในการประกอบศาสนกิจของวัด ใช้ประกอบพิธีในพระพุทธศาสนา
ชื่นชม หนุ่มใหญ่จิตอาสาชาวชะอำ จ.เพชรบุรี เดินลุยฝนเก็บขยะอุดตันตามท่อ เพื่อช่วยระบายน้ำท่วม
สุดเสียวกลางดึกช้างป่าบุกใจกลางชุมชนบ้านเกาะลอยซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่ โฉบบ้านนักข่าวก่อนเข้าพังรั้วค่ายทหารพรานที่1306 เสียหาย ทำชาวบ้านผวาหวั่นอันตราย
หมูเด้ง เสี่ยงทายเลือกตั้งสหรัฐฯ ประธานาธิบดีอเมริกาคนต่อไป คือคนนี้ รอลุ้นจะใช่หรือไม่
"ทนายสมชาติ" พา "เจ๊อ้อย" เข้าให้ปากคำ "ตำรวจกองปราบฯ" เพิ่ม ปมเงิน 71 ล้านบาท
“ทนายตั้ม” โผล่พบตํารวจกองปราบฯ ชี้แจงปมเงิน 71 ล้านบาท
"ภูมิธรรม" มอง MOU44 กลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อน พปชร.ไปถาม "บิ๊กป้อม" เคยนำเจรจากัมพูชา ก่อนมาคัดค้าน
"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น