นักวิทยาศาสตร์ UN ชี้ อีก 5 ปีข้างหน้า "โลกร้อน" จะทุบสถิติร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา
ข่าวที่น่าสนใจ
องค์การสหประชาชาติ เตือนว่า ในปี 2023-2027 จะเป็นช่วงที่ “โลกร้อน” มีอุณหภูมิสูงสุด เท่าที่เคยมีการบันทึกมา โดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ของสหประชาชาติระบุว่า
มีความเป็นไปได้ 66% ที่ภายใน 5 ปีนี้ อุณหภูมิพื้นผิวโลกประจำปีจะสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่ถูกกำหนดไว้ในข้อตกลงปารีสปี 2015 ว่าด้วย การจำกัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมีความเป็นไปได้ถึง 98% ที่ภายใน 5 ปีนี้ โลกจะมีอุณหภูมิสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา
โดยขณะนี้อุณหภูมิผิวโลกที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2022 อยู่ที่ 1.15 องศา สูงกว่าค่าเฉลี่ยปี 1850-1900 แต่คาดว่าอุณหภูมิในช่วง 5 ปีนี้ จะอยู่ระหว่าง 1.1-1.8 องศา และช่วงปีที่ร้อนที่สุดที่ถูกบันทึกขณะนี้คือช่วงปี 2015-2022 โดยปี 2016 เป็นปีที่ร้อนที่สุดแต่คาดว่าอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเร่งตัวขึ้น
นาย เพตเตอร์รี ทาลาส หัวหน้า WMO กล่าวว่า เราต้องการส่งสัญญาณเตือนว่า อุณหภูมิกำลังจะเกิน 1.5 องศา โดยสาเหตุมาจาก ปรากฏการณ์เอลนีโญที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รวมกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งมันจะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อ
- สุขภาพ
- ความมั่นคงทางอาหาร น้ำ
- สิ่งแวดล้อม
ดังนั้น ทุกคนต้องเตรียมพร้อม
ทั้งนี้ เอลนีโญ เป็นรูปแบบสภาพอากาศที่เกิดขึ้นตลอดมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน ที่ทำให้อุณหภูมิผิวน้ำทะเลอุ่นขึ้นโดยปกติจะเกิดขึ้นเฉลี่ยทุก 2- 7 ปี ซึ่งหลังจากเกิดเอลนีโญ จะทำให้อุณหภูมิโลกในปีต่อไปสูงขึ้น โดยรอบนี้จะเป็นปี 2024
ทาลาส ยังระบุด้วยว่า เรายังไม่สามารถลดอุณหภูมิโลกได้ และยังคงเดินไปในทิศทางที่ผิด และกว่าเราจะหยุดภาวะ “โลกร้อน” ได้อาจจะต้องรอจนถึงปี 2060 และกว่าโลกจะกลับคืนสู่อุณหภูมิระดับปกติ อาจต้องใช้เวลาหลายพันปี ดังนั้น จึงเรียกร้องให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลดผลกระทบที่รุนแรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง