วันนี้ ( 18 พ.ค.66 ) ที่ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม ( จัน-ทะ-เขม) อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการฝึก ชมการสาธิตสนธิกำลังดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2566 โดยมีพลเรือโท เผดิมชัย สุคนธมัต ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน,นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ตลอดจนข้าราชการระดับสูงในพื้นที่ให้การต้อนรับ
เมื่อคณะเดินทางมาถึงได้เข้าร่วมกิจกรรม กองทัพเรือเพื่อสังคม (CSR) เนื่องในโอกาสครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อยากขึ้นโดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กองทัพเรือ บริการมอบถุงยังชีพและ เยี่ยมหน่วยงานแพทย์ ที่ให้การรักษาประชาชนในพื้นที่ แล้วอย่างนี้ทหารช่างคอยให้บริการซ่อมรถจักรยานยนต์เครื่องใช้ไฟฟ้าและบริการตัดผมฟรี จากนั้นได้เดินทางไปยังสนามฝึก
เพื่อเป็นการตรวจเยี่ยม การฝึกของผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะในวันนี้ นอกจากจะทำให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือได้รับทราบรายละเอียดการปฏิบัติในการฝึก และทราบถึงขีดความสามารถ ตลอดจนความพร้อมในการปฏิบัติการของหน่วยต่าง ๆ ที่เข้ารับการฝึกแล้ว ยังเป็นแนวทางที่เปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ใกล้ชิดผู้บังคับบัญชาชั้นสูง อันจะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่เข้ารับการฝึกกองทัพเรือ ได้ตระหนักในหน้าที่หลัก ด้านการเตรียมความพร้อมของกำลังรบทางเรือเพื่อการป้องกันประเทศ โดยการพัฒนากำลังพลและระบบยุทโธปกรณ์ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติการทางทหาร ในฐานะหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงทางทะเลของประเทศไทย ในการเตรียมกำลังให้เกิดความพร้อม เพื่อปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศผ่านการฝึก ทั้งนี้ กองทัพเรือได้กำหนดให้หน่วยกำลังรบในทุกระดับ ดำเนินการเตรียมความพร้อมในระดับหน่วยตามความเชี่ยวชาญเฉพาะของกิจที่ได้รับ จนถึงการบูรณาการกำลังขนาดใหญ่เข้าด้วยกัน เพื่อฝึกการปฏิบัติการภายใต้สถานการณ์การฝึกตามแผนป้องกันประเทศในแต่ละด้านโดยกำหนดแนวคิดหลักอ้างอิงจากสถานการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดไว้ในการฝึกกองทัพเรือประจำปี ซึ่งนอกจากจะเป็นการเตรียมความพร้อมของกำลังรบในการปฏิบัติการแล้ว การฝึกกองทัพเรือยังเป็นการทดสอบแผนการปฏิบัติระบบการควบคุมการบังคับบัญชา ระบบการสื่อสารและระบบการส่งกำลังบำรุงในภาพรวม ตลอดจนเป็นการทดสอบการปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพอีกด้วย รวมทั้งเพิ่มประสบการณ์ในเรื่องการจัดทำแผนการฝึกปัญหาที่บังคับการ การดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง และการควบคุมบังคับบัญชา การประสานการยิงสนับสนุนอากาศ – พื้นดิน การติดต่อสื่อสาร การต่อต้านข่าวกรองของข้าศึก และการประสานการปฏิบัติร่วมกันให้มีความเข้าใจในหน้าที่ของกันและกัน โดยมีหัวข้อการฝึกที่สำคัญ คือ การฝึกแลกเปลี่ยน/ปรับมาตรฐาน (ปืนใหญ่) การฝึกแลกเปลี่ยน/ปรับมาตรฐาน (ทหารราบ) การฝึกยิงจรวดนำวิถี TOW การสนับสนุนทางอากาศ การส่งกลับสายแพทย์ และการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง
ซึ่งกำลังที่เข้าร่วมฝึกจัดจาก กองพันทหารราบที่ 1 กองพันทหารราบที่ 6 กองพันรถถัง กองพันรถสะเทินน้ำสะเทินบก และกองพันลาดตระเวน ในสังกัดกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ประกอบด้วย กำลังทหารนาวิกโยธิน พร้อมยุทโธปกรณ์ อาทิ ปืนใหญ่ ขนาด 155 มม. ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. ปืนต่อสู้อากาศยาน ขนาด 40/60 มม. ยานเกราะล้อยาง แบบ BRT รถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) และรถฮัมวี่ติดจรวดนำวิถี TOW กำลังจากกองพันรักษาฝั่งที่ 12กรมรักษาฝั่งที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมยุทโธปกรณ์ คือ ปืนใหญ่รักษาฝั่ง ขนาด 155 มม. รวมถึงกำลังและยุทโธปกรณ์จากกองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ และกรมแพทย์ทหารเรือ นอกจากนั้นยังมีกำลังของกองทัพบกเข้ารวมทำการฝึกในครั้งนี้ ซึ่งจัดจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ประกอบด้วยรถถังและยานเกราะล้อยาง อีกจำนวนหนึ่ง การฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล ในการฝึกกองทัพเรือ ได้มีการเชิญกองทัพบกและกองทัพอากาศจัดกำลังเข้าร่วมการฝึกตามรายการต่าง ๆ ซึ่งกองทัพเรือได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกเหล่าทัพในทุกครั้ง ซึ่งจะทำให้ทราบถึงคุณลักษณะและขีดความสามารถของกำลังรบจากเหล่าทัพต่าง ๆ อันจะนำไปสู่การวางแผนการใช้กำลังทางทหารและการปฏิบัติการรบร่วมที่มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผลในการป้องกันประเทศในอนาคต ตามวิสัยทัศน์กองทัพไทยที่ “เป็นกองทัพชั้นนำในภูมิภาคมีนวัตกรรมทันสมัย ปฏิบัติการร่วมอย่างมีประสิทธิภาพทุกมิติ” และสร้างความสมัครสมานสามัคคี อันจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของกองทัพไทยในภาพรวม ตา มคำขวัญของกองทัพเรือที่ว่า “พลังสามัคคี พลังราชนาวี”
สมเศียร โชติสนิท ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดจันทบุรี