ยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองสำหรับการแถลงข่าวรวม 8 พรรคการเมือง 313 เสียงของนำโดย “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยการแถลงในวันนั้นมีการพูดถึงการประกาศจับขั้วรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคก้าวไกล รวมถึงการทำเอ็มโอยูเพื่อลงสัตยาบรรณร่วมกันระหว่าง 8 พรรคการเมืองในการร่วมเสียงจัดตั้งรัฐบาล
ที่น่าสนใจคือในประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 “พิธา” เลี่ยงที่จะให้ความชัดเจนเมื่อถูกผู้สื่อข่าวยิงคำถามใส่ เรื่องมาตรา 112 ว่า พรรคก้าวไกลได้แสดงเจตจำนงไปก่อนนี้หลายครั้งแล้ว โดยเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 112 ทุกพรรคตกผลึกแล้ว ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ
การแถลงข่าวของ “พิธา” แม้จะไม่ได้เคลียร์ในประเด็นที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งว่าจะแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่ที่แน่ ๆ คือธงของก้าวไกลคือการแก้ไข มาตรา 112 อย่างแน่นอนแม้กระทั่งย้อนไปถึงต้นกำเนิดจากพรรคอนาคตใหม่จะทราบว่า ทั้งก้าวไกล และอนาคตใหม่มีแนวคิดเป็นลบกับสถาบันหรือไม่
การถกเถียงในประเด็นมาตรา 112 ในช่วงการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลนั้น “พิธา” รู้ดีว่าเรื่องนี้หากพูดมากไปอาจเป็นสิ่งที่น็อกให้ก้าวไกลตายในทุกเวลา แต่เมื่อย้อนดูคำพูดของ “พิธา” ที่มีต่อสถาบันนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสุ่มเสี่ยง และร้ายแรง ซึ่งคำพูดดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย
“นี่คือเจตจำนงที่ต้องการจากเปลี่ยนระบอบการเมือง จากระบอบเจ้าชีวิตมาสู่ระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ สร้างสถาบันการเมืองที่ยึดโยงอำนาจสูงสุดของราษฎร หาใช่อำนาจที่ทำนาบนหลังราษฏร”
เมื่อย้อนดูแนวคิดของพรรคก้าวไกลมีรากเหง้ามาจากพรรคอนาคตใหม่นั้นจะทราบว่า อนาคตใหม่ต้องการสานต่อเจตจำนงของคณะราษฏร 2475 ที่กลุ่มคนเหล่านี้เคยเข้ามายึดอำนาจทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงการปกครองส่งผลให้สถาบันสั่นคลอนเมื่อ 90 ปีที่ผ่านมา
จุดเริ่มต้นที่เห็นภาพ ไพร่หมื่นล้านมาจากชาย 3 คน คือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ , ชัยธวัช ตุลาธน และ ศรายุทธ ใจหลัก ซึ่งเพื่อนร่วมอุดมการณ์เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาหัวก้าวหน้าทำกิจกรรมนอกรั้วมหาวิทยาลัย โดยธนาธร เป็นอุปนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2542 และรองเลขาธิการสหพันธ์นักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) ปี 2543 ขณะที่ชัยธวัช เป็นนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สนนท. ปี 2541 ปัจจุบันนั่งเป็นเลขาธิการพรรคก้าวไกล ส่วนศรายุทธ เป็น เลขาธิการ สนนท. ปี 2543 ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการพรรคอนาคตใหม่ และที่พรรคก้าวไกล
ต่อมาหลังจากทั้ง 3 คนจบจากรั้วมหาวิทยาลัยต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปทำงาน แต่แนวคิดหัวก้าวหน้าที่ต้องการสานต่อเจตนารมย์ของคณะราษฎร 2475 ไม่ได้จบไปกับรั้วมหาวิทยาลัย เพราะธนาธร ชัยธวัช และศรายุทธ ยังคงมุ่งมั่นจะทำให้งานของคณะราษฎรให้สำเร็จลุล่วง ดังนั้นทั้ง 3 คน จึงมีความคิดก่อตั้งหนังสือพิมพ์เพื่อเป็นสื่อกลางในการขยายแนวทางดังกล่าวออกสู่สังคม และนั่นเป็นการได้พบกับหนึ่งในแนวร่วมที่มีอุดมการณ์เดียวกัน คือ ธนาพล อิ๋วสกุล รุ่นพี่ของนายธนาธร และ นายชัยธวัช ซึ่งทั้งหมดได้ร่วมก่อตั้งสำนักพิมพ์ “ฟ้าเดียวกัน” เมื่อปี 2544 ซึ่งเป็นหนังสือที่ผลิตนั้นจะมีหนังสือเกี่ยวกับบทบาทสถาบันกษัตริย์ สำหรับคนที่เป็นคอลัมนิสต์ อย่างสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล