เตือนภัย "นกพิราบ" อันตรายใกล้ตัวที่หลายคนไม่เคยรู้ แพทย์เผย พาหะนำสารพัดโรค เต็มไปด้วยเชื้อราและแบคทีเรีย เสี่ยงลุกลามถึงสมอง อันตรายถึงชีวิต
ข่าวที่น่าสนใจ
ปัจจุบันิ “นกพิราบ” กลายเป็นสัตว์ที่อยู่แทบทุกที่ในประเทศไทย มักจะอาศัยอยู่ตาม ศาสนสถาน ตามอาคารบ้านเรือนของประชาชน กระจายพันธุ์และใช้ชีวิตกันแบบที่เรียกว่าไม่เกรงใจใคร จนสร้างความน่ารำคาญให้กับหลายคน
รู้หรือไม่ นก พิราบ (Rock pigeon หรือ Rock dove) ถึงจะมีจำนวนมากจนแทบจะครองประเทศ แต่เจ้านกเหล่านี้กลับไม่ใช่นกดั้งเดิมของบ้านเรา แต่เป็นนกที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ใน
- ทวีปยุโรป
- เอเชียตะวันตก
- แอฟริกาเหนือ
แต่ปัจจุบันพบแพร่กระจายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในแหล่งเมืองหรือชุมชน
โรคที่มากับนก พิราบ
โดย อ. นพ.นพพร อภิวัฒนากุล ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า มูลของนก พิราบ
- มีเชื้อราชนิดหนึ่งเรียกว่า เชื้อคริปโตคอคคัส สาเหตุของโรคหลายชนิด
มักเกิดกับผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ สามารถติดเชื้อในคนได้โดยการสัมผัสมูลนก พิราบ หรือจากการหายใจและสูดดมเชื้อ
- ทำให้เกิดการติดเชื้อที่บริเวณปอด และลุกลามไปยังสมอง ส่งผลให้เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
- นอกจากนี้ ในนก พิราบยังมีแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เรียกว่า คลามัยเดีย ที่ทำให้เกิดอาการปอดบวมได้ด้วย
และด้วยจำนวนประชากรที่มีมากทำให้เกิดการรุกรานนกอื่น ๆ ในพื้นที่เดิม รวมถึงมูลของพวกมันยังสร้างความรำคาญให้กับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของมนุษย์ หลายพื้นที่จึงมีการจัดการ “นกพิราบ” อย่างเข้มงวด
โดยการออกประกาศ ห้ามให้อาหารนก พิราบในพื้นที่สาธารณะ เพื่อควบคุมจำนวนนก พิราบ หากฝ่าฝืนจะเข้าข่ายความผิดหลายมาตราตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข มีสิทธิถูกจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ปรับเพิ่มได้อีก 2,000 บาท
ดังนั้น จะให้อาหารนกพวกนี้สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่าสถานที่ตรงนั้นขอความร่วมมืองดให้อาหารหรือไม่ เพราะหากโดนค่าปรับมาที คงทำให้กระเป๋าเบากันได้เลย หรือเผลอ ๆ อาจจะได้เข้าไปนอนก่ายหน้าผากในคุกแบบไม่รู้ตัว
ข้อมูล : สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า Wildlife Conservation Office, Thailand และ Rama Channel
ข่าวที่เกี่ยวข้อง