เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 66 นายโรจ งามแม้น หรือ “เปลว สีเงิน” ประธานกรรมการบริหารบริหารหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ได้ให้สัมภาษณ์ในช่องยูทูป “Director Silapachai” หัวข้อ “คุยกับป๋าเปลว คนรักสถาบันอย่าซึมเศร้า” โดยเปลว สีเงิน ได้กล่าวว่า คุณพิธาเขาประกาศแล้วว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของคนไทยทั้งประเทศ โดยแนวโน้มตอนนี้ก็ต้องเคารพเสียงของคน 14 ล้านคนที่เลือกตั้งมา เขาได้อันดับ 1 ได้สิทธิเป็นคนจัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้ก็ฟอร์มเห็นแถลง 8 พรรค 313 เสียง แต่ถ้าสังเกตุดู 313 ถ้าเปรียบเป็นบ้าน ก็เป็นเสาก้านไม้ขีด 6-7 ต้น เป็นเสาซุงแค่ต้นเดียว คือ เพื่อไทย ถ้าเพื่อไทยขยับออกมานิดเดียว บ้านพังเลย เพราะฉะนั้นต้องระวัง เพราะของเขา 141 เสียง นี่ความสำคัญจุดน้ำหนัก จุดแข็ง ไม่ได้อยู่ที่ก้าวไกล ตั้งรัฐบาลได้ไม่ได้อยู่ที่เพื่อไทย ตอนนี้ไม่ต้องมองอะไรมาก เรื่องเดียวที่ต้องมอง เปิดสภาจะตั้งประธานสภาได้หรือไม่ ต้องมองนี้ก่อน อย่าเพิ่งไปมองถึงตัวนายกฯ ตัวประธานสภาพรรคไหนเขาจะได้ เพราะต้องไปคุมเกม ตนก็เอาใจช่วย คนเขาก็อยากลองอะไรกันใหม่ๆ และสังคมก็ต้องประชาธิปไตย ว่ากันไป แต่ตนเกรงว่าสิ่งที่หาเสียงเอาไว้หลายๆอย่าง ถามว่าคุณจะทำได้ไหม แล้วคุณจะเอาเงินที่ไหนมา คุณขึ้นเงินเดือนค่าจ้างวันละ 450 บาท แล้วธุรกิจเขารับได้ไหม แล้ววันนี้เห็นหุ้นตกมาตั้ง3-4 วันแล้ว แล้วต่างชาติลงทุนเทไปหมื่นกว่าล้านแล้ว ขนเงินออก นี่คือความเชื่อมั่นมันไม่มี อะไรก็ตามทุกอย่างมันอยู่ที่ความเชื่อมั่น คนเราถ้าไม่มีความเชื่อมั่นอะไรสักอย่าง มันลำบาก ที่นี้ต้องระวัง แล้วที่คุณต้องไปแจกสารพัด แม้กระทั่งผ้าอนามัย จะต้องแจกฟรี ถามว่ามันจำเป็นไหม คุณมาหาเสียงเอาใจกัน หรือมันจำเป็น คุณต้องมองแล้วงบประมาณมาจากไหน คุณเคยพูดสักคำไหมว่าคุณจะไปหารายได้เข้าประเทศมาจากตรงไหน รัฐบาลที่แล้ว นายกฯประยุทธ์ เขาก็สะสมไว้ให้ทั้งเงินทั้งทอง หรือสร้างความมั่นคงในฐานรากของสังคมไว้ให้เยอะแยะ เป็นฐานกินไปได้สักพักนึง ก็เหมือนตอนคุณทักษิณมาเริ่มปี 44 อาศัยฐานที่คุณชวน รัฐบาลประชาธิปัตย์เขาเริ่มมาตอนนั้น เขาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 2540 ต้มยำกุ้ง ก็เข้ามาทำให้เสถียร คุณก็อาศัยบุญนั้นมาต่อยอดไป สุดท้ายมันก็ไม่ไหว
แล้วที่นี้ประเด็นสำคัญ หัวใจคือเรื่องปัญหา 112 คุณก็พลิกไปพลิกมา เลิกก็คือเลิก หรือแก้ไข มันก็อันเดียวกัน วันนี้ก็เห็นแถลงแล้วว่าต้องลดลงมาเอาจากหมวดความมั่นคง ออกไปอยู่หมวดสิทธิเสรีภาพ คือใครก็ได้ ใครจะวิพากษ์วิจารณ์สถาบันก็ได้ แล้วใครจะไปฟ้องร้องให้ไม่ได้ ต้องให้สถาบันมาฟ้องร้องเอง ให้สถาบัน ในหลวงมาทะเลาะกับประชาชน แล้วมันเป็นไปได้ไหม แล้วให้ลดโทษ ให้ยอมความกันได้ไม่ได้ อยู่ที่ศาลพิจารณา แบบนี้ใครก็ได้ด่า เสียดสี เหยียดหยาม ทำอะไรสถาบันกันได้ตามใจชอบ เพราะมันอยู่ในหมวดสิทธิเสรีภาพ คุณก็อ้างเป็นสิทธิเสรีภาพ ผมมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ วันนี้คุณยืนยันเองเพิ่งแถลง เพราะคุณรับปากหาเสียงไว้แล้ว ยืนยันที่จะไม่เลิกแต่จะแก้ แล้วจะไปไว้ใจคุณได้หรอ และอีกอย่างทุกวันนี้ คุณจะเป็นเสนาบดีก็แล้ว เป็นผู้นำขุนนาง กระทรวงคุณจองกันใหญ่ แต่คุณทำตัวให้มันเป็นผู้หลักผู้ใหญ่หน่อย แล้วก็ต้องบอกลูกน้องคุณเที่ยวไปกดดัน เหิมเกริมกันใหญ่ คุณเอาให้มันสงบๆ พับเพียบไว้ก่อน อย่าเพิ่งทำให้มันเสีย