“มัลลิกา” แฉร่างฉบับ “ก้าวไกล” ยิ่งสะท้อนชัด ๆ เจตนาอยาก “ยกเลิก” มาตรา 112

“มัลลิกา” แฉร่างฉบับ “ก้าวไกล” ยิ่งสะท้อนชัด ๆ เจตนาอยาก “ยกเลิก” มาตรา 112

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2566 นางมัลลิกา บุญมีตระะกูล มหาสุข อดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน www.mallikafoundation.net เปิดเผยว่า กรณีการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลและการหาเสียงต่อว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาเพื่อโหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้นดูจะไม่ราบรื่นหา นายพิธาและพรรคก้าวไกลไม่ถอดนโยบายเรื่องการปฏิรูปสถาบันโดยผ่านการแก้ไขและยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 อันเป็นการรักษาความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร โดยการคุ้มครององค์พระประมุขของประเทศออกไป

 

 

“เพราะจากการที่สอบถามสมาชิกวุฒิสภาบางคนทราบว่าเงื่อนไขสำคัญคือติดขัดเรื่องนี้เป็นสาระสำคัญหากนายพิธาและคณะปลดล็อคเรื่องนี้ออกไปก็เชื่อว่าสว.หรือสมาชิกวุฒิสภาจะโหวตให้แล้วไปเดินหน้าเป็นนายกรัฐมนตรีจัดบุคคลเป็นคณะรัฐมนตรีเข้ากุมอำนาจบริหารประเทศได้” นางมัลลิกา กล่าว

นางมัลลิกา กล่าวด้วยว่า ในฐานะเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทราบว่านายพิธาและคณะจะไปผลักดันการแก้ไขมาตรา 112 ในสภาฯหลังจากที่ได้เสนอค้างไว้ในสมัยที่แล้วซึ่งไม่สามารถบรรจุเป็นวาระได้เพราะประธานสภานายชวน หลีกภัย เห็นว่ายังมีข้อโต้แย้งว่าขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจทานเอกสารร่างกฏหมายโดยละเอียดจะเห็นชัดว่าการแก้ไขของพรรคก้าวไกลที่เสนอร่างฯไว้นั้นเป็นการยกเลิกการคุ้มครองสถาบันหลักของชาติโดยสิ้นเชิง มาตราที่เคยคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ว่าด้วยมาตรา 112 ที่ระบุว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการฯมีโทษจำคุก 3-15 ปี ไม่มีปรับตรงนี้จะไม่มีอีกต่อไป แต่เขาจะเปลี่ยนเป็นมาตรา 135/5 หมิ่นในหลวงมีโทษเพียงจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 3 แสนบาท และมาตรา135/6 หมิ่นพระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนและปรับไม่เกิน 2 แสน

ข่าวที่น่าสนใจ

“นัยยะสำคัญของกฎหมายหากโทษน้อยก็จะเหมือนกับบุคคลทั่วไป คือในกฎหมายอาญานั้นที่สุดของคดีสามารถเป็นเพียงการรอลงอาญาซึ่งก็ไม่ต้องติดคุกจริงหรือเป็นเพียงการปรับเท่านั้น แปลตรง ๆ คือกฎหมายของคณะเขาเปิดกว้างให้หมิ่นในหลวง พระราชินี องค์รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการได้โดยอาจไม่มีโทษ และในมาตรา 135/7 สามารถอ้างได้ คือ ถ้าวิจารณ์โดยสุจริตเพื่อประโยชน์สาธารณะจะไม่มีความผิด มาตรา 135/8 ถ้าทำผิดหรือได้ดูหมิ่นไปแล้วแต่พิสูจน์ได้ว่าข้อมูลนั้นเป็นความจริงหรืออ้างได้ว่าเป็นความจริงและไม่ใช่เรื่องส่วนตัวก็ได้อันนี้ก็ไม่ต้องรับโทษ

มาตรา 135/9 เป็นความผิดอันยอมความได้ คือนำกฎหมายพิทักษ์องค์ประมุขออกจากหมวดความมั่นคงออกจากอาญาแผ่นดิน และผู้เสียหายก็ไม่ใช่ ในหลวง พระราชินี แต่ให้ถือว่าสำนักพระราชวังเป็นผู้เสียหายก็ให้ร้องทุกข์และเป็นคู่ความ แต่ในมาตรานี้ห้ามมีพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย(ห้ามลงชื่อ) ในฐานะคู่ความ คือตัดสิทธิไม่ให้ในหลวง พระราชินีซึ่งคือผู้เสียหายที่แท้จริงสู้คดี และมาตรา 198 ผู้ใดหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการตัดสิน คดีหรือการขัดขวางการพิจารณาคดีของศาลให้มีโทษปรับ 2 หมื่น-1.4 แสนบาท

ร่างฉบับแก้ไขของพวกเขาคือการให้พระมหากษัตริย์มีสถานะทางกฎหมายเป็นเพียงบุคคลธรรมดา ดูหมิ่นไปแล้ว ไม่เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ไม่เป็นความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการ และไม่เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ขณะที่รัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับกำหนดไว้ชัดเจนว่าพระมหากษัตริย์ทรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ แล้วถ้าละเมิดได้เช่นนี้จะแปลว่าอะไร ” นางมัลลิกากล่าว

อย่างไรก็ตาม นางมัลลิกา อธิบายว่าสาเหตุที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากอาจจะไม่โหวตให้หรือโหวตโน Vote No เพราะอำนาจหน้าที่ในการเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ตามรัฐธรรมนูญที่สำคัญๆคือ การกลั่นกรองกฎหมาย การพิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งตรงนี้คือหน้าที่หลักของเขาและนี่ยังไม่นับกรณีคุณสมบัติเรื่องการถือหุ้นสื่อด้วย แล้วถ้ารวมถึงหน้าที่ในฐานะปวงชนชาวไทยมีหน้าที่ตามมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ คือ องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้ มาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญดังเช่นต้อง พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิผลประโยชน์ของชาติและสาธารณสมบัติของแผ่นดิน รวมทั้งให้ความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำคัญยิ่งคือมาตรา 1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น