การเมืองช่วงนี้ต้องจับตากับแบบห้ามกระพริบ โดยเฉพาะการแถลงข่าวของพรรคก้าวไกลในวันที่ 22 พ.ค. ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล จะนำ 8 พรรคการเมืองประกอบไปด้วย พรรคก้าวไกล (152 ที่นั่ง), พรรคเพื่อไทย (141 ที่นั่ง), พรรคประชาชาติ (9 ที่นั่ง), พรรคไทยสร้างไทย (6 ที่นั่ง), พรรคเพื่อไทรวมพลัง (2 ที่นั่ง), พรรคเสรีรวมไทย (1 ที่นั่ง), พรรคเป็นธรรม (1 ที่นั่ง) และพรรคพลังสังคมใหม่ (1 ที่นั่ง) ร่วมเซ็นเอ็มโอยูประกาศจัดตั้งรัฐบาล 313 เสียง
น่าสนใจยิ่งนักว่าเอ็มโอยูที่ทั้ง 8 พรรคร่วมกันลงนามจะมีหน้าตาออกมาอย่างไร โดยเฉพาะการแก้ไขมาตรา 112 ที่พรรคก้าวไกลประกาศไว้อย่างเป็นมั่นเหมาะจะถูกบรรจุไว้ในเอ็มโอยูดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าการแถลงข่าวในวันที่ 22 พ.ค.นี้พรรคก้าวไกลน่าจะไม่หาญกล้าพอที่จะบรรจุเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เอ็มโอยูดังกล่าวอย่างแน่นอน แต่ในภายภาคหน้าใครจะรู้หากก้าวไกลถึงฝั่งฝันจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ เชื่อว่าวาระการแก้ไขมาตรา 112 อาจจะถูดสอดไส้เข้ามาในสภาวันใดวันหนึ่งก็เป็นไปได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมทุกพรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาลก้าวไกลควรมีจุดยืนในเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ให้ชัดเจนเช่นกัน
ขณะเดียวกันในฟากฝั่งของ ส.ว. 250 คนควรมีจุดยืนที่แน่วแน่เกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 ให้ชัด แต่จากการหยั่งเสียงของ ส.ว.ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาพบว่า ส่วนใหญ่ทุกคนจะมีความเห็นไปแนวทางเดียวกันว่า หากหัวหน้าพรรคก้าวไกลต้องการให้ ส.ว.ยกมือสนับสนุนต้องแสดงจุดยืนว่า จะไม่แตะต้องมาตรา 112 เรื่องนี้อย่างเด็ดขาด”
ล่าสุดนายทรงเดช เสมอคำ ส.ว.ฝ่ายอิสระ แสดงความคิดเห็นในเรื่องมาตรา 112 ว่า เป็นหนึ่งใน ส.ว.กลุ่มสายอาชีพ ขณะนี้ ส.ว.ทุกคน ทุกกลุ่มเห็นตรงกันว่า ไม่เห็นด้วยกับการแตะต้องมาตรา 112 ไม่ว่าจะยกเลิกหรือแก้ไข ห้ามทำเด็ดขาด ดังนั้นถ้าพรรคก้าวไกลประกาศชัดเจนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมาตรา 112 เชื่อว่าเสียง ส.ว.พร้อมยกมือให้นายพิธาเต็มสภา จึงต้องรอดูเอ็มโอยูฝ่ายพรรคก้าวไกลในวันที่ 22 พ.ค. ว่าจะมีความชัดเจนเรื่องมาตรา 112 อย่างไร
“ฝากบอกพรรคก้าวไกล ต้องพูดให้ชัดเจนว่าจะยกเลิกความคิดแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่ อย่าอ้ำๆ อึ้ง ๆ ตอบไม่ชัดเจน จะแก้ไขโดยการลดโทษมาตรา 112 ก็ไม่ได้ ห้ามแตะต้องมาตรา 112 แม้แต่นิดเดียว ถ้าทำได้ ส.ว.พร้อมให้ความเห็นชอบนายพิธา แต่ถ้าไม่ยกเลิกเรื่องนี้ก็เป็นสายล่อฟ้า” นายทรงเดชกล่าว
เช่นเดียวกับนายออน กาจกระโทก สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครราชสีมา แสดงความคิดเห็นในเรื่องมาตรา 112 อย่างเด็ดเดี่ยวว่า ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความมั่นคงของประเทศ เป็นหลัก แม้แต่พี่น้องประชาชนก็คิดเรื่องนี้เหมือนกัน
“ผมไม่เห็นควรที่จะไปแก้หรือยกเลิก มาตรา 112 และจะตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานประเทศชาติมีความมั่นคง มีสถาบันหลักเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ดำรงอยู่ของประเทศไทยต่อไป”
อย่างไรก็ตามเมื่อย้อนดูแนวคิดของพรรคก้าวไกลมีรากหง้ามาจากพรรคอนาคตใหม่นั้นจะทราบว่า อนาคตใหม่ต้องการสานต่อเจตจำนงของกลุ่มคณะราษฏร 2475 ที่เคยเข้ามายึดอำนาจทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงการปกครองส่งผลให้สถาบันกษัตริย์ถูกทำร้ายอย่างหนักเมื่อ 90 ปีทีผ่านมา