2 สามี-ภรรยา อาชีพครู ใช้เวลาว่างนอกราชการ เพาะไข่ “กะโน๊บ” ขาย สร้างรายได้งาม

สุรินทร์ - 2 สามี-ภรรยาอาชีพครู ใช้เวลาว่างนอกราชการ สร้างรายได้เสริมด้วยการเพาะไข่ “ตั๊กเเตน” หรือภาษาพื้นถิ่นสุรินทร์จะเรียกว่า “กะโน๊บ” (ภาษาเขมร) โดยขายกิโลละหลักหมื่น แถมมีออร์เดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย มีเท่าไหร่ก็ไม่พอส่งขาย

วันที่ 21 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวประจำจ.สุรินทร์ รายงานว่า เเต่ก่อนตั๊กแตนหรือที่่ชาวสุรินทร์พูดภาษาเขมรเรียกว่า”กะโน๊บ” ถือเป็นแมลงที่ถูกขนานนามว่าเป็นศัตรูพืชอันดับต้น ๆ ของชาวเกษตรกร เพราะพวกมันจะเข้ามากัดกินและทำลายพืชผลทางการเกษตร จึงทำให้ต้องใช้วิธีฉีดพ่นยาฆ่าแมลงแทน ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ได้รับผลผระทบตามมาก็คือคนที่ต้องบริโภคผลผลิตเหล่านั้นที่อาจะเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีจากยาฆ่าแมลงเข้าสู่ร่างกาย เเต่ปัจจุปันนี้ ได้กลับกลายมาเป็นอาชีพสร้างรายได้อีกทางเลือกหนึ่ง ให้กับผู้ที่สนใจ ที่จะเลี้ยงตั๊กเเตนขาย และนี่ก็อีกหนึ่งตัวอย่าง

 

 

 

 

โดยผู้สื่อข่าวได้มาพบกับ นายสมพงษ์ เชื้อทอง อายุ 53 ปี เเละนางมณีวรรณ เชื้อทอง อายุ 51 ปี 2 สามีภรรยา ซึ่งมีอาชีพเป็นครูประชาบาล ได้ตัดสินใจใช้บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านกาเเฟเล็กๆ และหลังร้านทำเป็นสุ่มสวนองุ่น อยู่ ณ บ้านเลขที่ 9 หมู่ 10 บ.พรหมสะอาด ต.พระเเก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ติดถนนหลัก สาย 24 ระหว่างเส้นทางสังขะ-ขุขันธ์ โดยได้มาทดลองเป็นสถานที่เลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า เพื่อหวังสร้างอาชีพใหม่ทำรายได้ให้กับครอบครัวอีกหนึ่งช่องทาง โดยศึกษาวิธีเลี้ยงมาจากสื่อออนไลน์ แล้วก็ติดต่อขอซื้อไข่ตั๊กแตนมาทดลองเลี้ยงจนเริ่มประสบความสำเร็จ รวมไปถึงการเพาะพันธุ์เพื่อขายต่อตามท้องตลาด ที่ตอนนี้มีออร์เดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย เรียกได้ว่ามีเท่าไหร่ก็ไม่พอขายเลยทีเดียว

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดย นายสมพงษ์ เชื้อทอง กล่าวว่า ตนเเละภรรยามีอาชีพรับราชการครู มีลูกสาว 2 คน ได้คิดหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเอง เเละให้ลูกได้มีรายได้ จึงอยากทดลองเลี้ยงอะไรใหม่ๆ ซึ่งปกติก็เปิดร้านกาเเฟ เเละเลี้ยงวัวจำนวน 13 ตัว พร้อมกับทำสวนองุ่น ซึ่งใช้เวลานอกราชการมาทำอาชีพนี้ จากนั้นก็ได้เริ่มทำการศึกษาหาความรู้ผ่านทางโลกโซเซียล จนมาพบวิธีการเพาะเลี้ยงตั๊กแตน จึงทดลองสั่งซื้อหามาเลี้ยง โดยซื้อมา 1 ขีด ราคาขีดละ1,000 บาท เพาะได้ 500 ตัว จากนั้นก็ให้ตั๊กแตนที่เพาะได้ผสมกันเอง แล้วออกไข่รุ่นใหม่มาแล้วก็ขยายพันธุ์ต่อ เเต่ก็ต้องระวังพวกมดที่จะมากินซากตั๊กเเตน เพราะถ้ากินก็จะตายยกคอก ซึ่งทีแรกก็เริ่มต้นจากการเลี้ยงเพื่อเอาไว้กินเอง แต่ล่าสุดมีคนสนใจสั่งซื้อตั๊กแตนทางออนไลน์ และสั่งซื้อมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ตอนนี้ก็เริ่มที่จะได้ส่งขายอย่างต่อเนื่องแล้ว

 

 

สำหรับขั้นตอนของการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังกา หรือตั๊กแตน ซึ่งภาษาพื้นถิ่นสุรินทร์นั้นจะเรียกว่า “กะโน๊บ” (ภาษาเขมร) ก็โดยเริ่มจากการเตรียมสถานที่เลี้ยง ซึ่งต้องเลี้ยงในระบบปิด โดยใช้มุ้งตาข่ายขนาดเล็กมทำเป็นโรงเรือนเพาะเลี้ยงรูปทรงสี่เหลี้ยม ขนาดประมาณ กว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 2 เมตร ปูพื้นด้วยทรายผสมกากมะพร้าว จากนั้นก็นำไข่ตั๊กแตนมาเพาะไว้ เมื่อตั๊กแตนฟักออกมาแล้ว ก็เริ่มให้อาหารโดยการใช้ใบไม้อย่างใบกล้วยหรือหญ้า จากนั้นก็ฉีดพรมน้ำเช้าเย็น แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว จากนั้นก็รอให้ตั๊กแตนมีอายุ 45 วัน ก็จะเริ่มผสมพันธุ์และออกไข่มาให้ได้เก็บ โดยจะใช้วิธีการนำกระบะทรายมาวางไว้เพื่อให้ตั๊กแตนมาวางไข่แล้วทยอยเขี่ยเก็บ ซึ่งการเก็บก็จะเริ่มทยอยเก็บครั้งหนึ่ง แล้วเว้นไว้อีก 2-3 วัน ก็ค่อยมาเก็บใหม่ และเมื่อตั๊กแตนอายุได้ 45 วัน ก็จะเริ่มทยอยจับตัวส่งขายแล้วนำชุดใหม่มาเลี้ยงแทน ซึ่งแต่และโรงเรือนถ้าโรงเรือนขนาดนี้ จะสามารถเลี้ยงตั๊กแตนได้เป็นหมื่นๆตัว ซึ่งตอนนี้ตนเพาะตั๊กเเตนอยู่ 3 คอก

 

 

 

 

“ และสำหรับราคาการซื้อขายตั๊กแตนในตอนนี้นั้น ราคาขายแบบเป็นตัว ขายส่งจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 450 บาท แต่หากขายเป็นไข่ราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละ 10,000 บาท หรือขีดละ 1,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพใหม่ที่ดีอย่างมาก เพราะมีค่าตอบแทนที่ดี ตลาดต้องการสูง เพราะตั๊กแตนถือเป็นอาหารโปรตีนชั้นดีที่คนนิยมรับประทานกัน อีกทั้งขั้นตอนการเลี้ยงก็ง่าย ลงทุนต่ำด้วย ซึ่งตอนนี้มีลูกค้าทั้งขาประจำเเละขาจรมาติดต่อขอซื้อกันไม่ขาด หากท่านใดสนใจสั่งซื้อหรือจะลองเพาะเลี้ยง ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 095-7450005 ซึ่งตนก็พร้อมที่จะให้คำแนะนำ ” นายสมพงษ์ เชื้อทอง กล่าว.

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว พูนสิน ยั่งยืน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เจ้าของฟาร์มจระเข้ชื่อดังลำพูน จำใจเชือดจระเข้พ่อพันธุ์-แม่พันธุ์นับร้อยตัว เพื่อป้องกันหลุดจากบ่อ
กลุ่มศปปส.-เต้ อาชีวะ ไม่ทน บุกตึกพรรคส้ม ยื่นหนังสือปมอุ้มแรงงานพม่า
CPF เพิ่มขีดความสามารถคู่ค้าธุรกิจ เตรียมความพร้อมสร้างโอกาสเติบโตสู่เวทีการค้าโลก
คณะแพทย์ จุฬาฯ จับมือ มาเทรีย เมดดิคัล พัฒนานวัตกรรมการแพทย์เพื่อสุขภาพยั่งยืน
เปิดรายชื่อ ประธานกมธ.สามัญ วุฒิสภา 21 คณะ สว.สายสีน้ำเงินครอง 20 คณะ ปล่อย “อังคณา” สายอิสระ นั่งกมธ.พัฒนาการเมืองฯ
สาวหนึ่งในลูกค้า ร้านทอง “แม่ตั๊ก” สุดทน นำมาขายคืนได้ราคาต่ำ-แถมให้เซ็นเอกสาร พีคสุดซื้อไปใส่ไม่นาน ทองลอกแถมเขียว
แรงเกินต้าน "หมูเด้ง" ฮิปโปแคระ ทุบสถิติ "ยอดขายบัตร" สูงสุดเป็นประวัติการณ์
รฟฟท. ลงนามความร่วมมือกับ HO CHI MINH CITY URBAN RAILWAYS NO.1 พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเดินรถไฟฟ้า ส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาระบบขนส่งทางรางอย่างยั่งยืน
กัมพูชาผลักดัน 24 คนไทย ถูกจับในกัมพูชา กลับประเทศ พบสาวไทย 2 คนหนีหมายจับ ร่วมแก๊งคอลฯ
เปิดปฏิบัติการ ตร.ภาค1 และ ภาค 2 สนธิกำลัง บุกจับแก๊งค้าอาวุธสงครามได้ปืนอาก้า 5 กระบอกพร้อมแม็กกาซีน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น