นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมในอิตาลี เทหมึกดำใส่น้ำพุเทรวีอันโด่งดังของกรุงโรม เพื่อประท้วงให้รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศ
เมื่อวานนี้ นักเคลื่อนไหวกลุ่ม ลาสท์ เจเนอเรชัน ( Last Generation) องค์กรต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปีนขึ้นไปบนน้ำพุเทรวี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของกรุงโรม แล้วเทหมึกดำที่ทำจากพืชลงไปในน้ำ ก่อนที่ตำรวจจะเข้าจับกุมและพาตัวออกไป
“ประเทศของเรากำลังจะตาย!” นักเคลื่อนไหวตะโกนขณะที่นักท่องเที่ยวรวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นรอบน้ำพุ โดยบางคนก็ถ่ายรูปพวกเขา บางคนปรบมือ และบางคนร้องโห่ไล่
มัตเตีย หนึ่งในผู้ร่วมประท้วงวัย 19 ปีระบุว่า เหตุโศกนาฏกรรมน้ำท่วมใหญ่ในแคว้นเอมีเลีย โรมานยา ที่เกิดขึ้นขณะนี้ เป็นการเตือนล่วงหน้าถึงอนาคตอันเลวร้ายของมวลมนุษยชาติ ส่วนกลุ่ม ลาสท์ เจเนอเรชัน อ้างอิงรายงานของธนาคารกลางอิตาลีเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ระบุว่า 23 เปอร์เซ็นต์ของบ้านในอิตาลีมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วม และอาจมีค่าเสียหายสูงถึง 3 พันล้านยูโรต่อปี ในขณะที่วิกฤตสภาพอากาศเริ่มเกิดขึ้น แต่รัฐบาลอิตาลีกลับลดงบประมาณในการปกป้องภัยพิบัติ และล้มเหลวในการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การประท้วงดังกล่าว มีขึ้นในขณะที่นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี เดินทางถึงเอมีเลีย โรมานยา เพื่อเยี่ยมพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งเลวร้ายที่สุดในรอบสิบปี ทำให้มีผู้อพยพถึง 3 หมื่น 6 พันคน และค่าเสียหายหลายร้อยล้านยูโร
ทั้งนี้กลุ่มสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า หมึกคาร์บอนที่ใช้เทลงไป จะไม่สร้างความเสียหายให้กับน้ำในน้ำพุ แต่โรแบร์โต กัวติเอรี นายกเทศมนตรีกรุงโรม กล่าวว่า การทำความสะอาดจะทำให้ต้องสูญเสียน้ำทิ้งถึง 3 แสนลิตร
กลุ่ม ลาสท์ เจเนอเรชัน เริ่มทำการประท้วงแบบก่อกวนในอิตาลี ตั้งแต่ปีที่แล้วก่อนการเลือกตั้งทั่วไป โดยเรียกร้องให้นักการเมืองจากทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นอันดับแรก การประท้วงในอิตาลีเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการประท้วงของกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่างๆที่ดำเนินการทั่วยุโรป เพื่อมุ่งความสนใจไปที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ