ญี่ปุ่นเดือด ผู้ชุมนุมลุยประท้วงเวที G7 จี้สหรัฐหยุดแทรกแซงเอเซีย

ญี่ปุ่นเดือด ผู้ชุมนุมลุยประท้วงเวที G7 จี้สหรัฐหยุดแทรกแซงเอเซีย

ขณะที่ผู้นำระดับโลกกำลังร่วมประชุมกัน ในวันสุดท้ายของการประชุมสุดยอด G7 แต่ในย่านช็อปปิ้ง ของเมืองฮิโรชิม่าแห่งญี่ปุ่น ตำรวจได้เข้าปะทะกับกลุ่มผู้ที่มาประท้วงการประชุม G7 เช่นเดียวกับในสวนเซ็นดา พาร์ค ซึ่งอยู่ใจกลางของเมืองฮิโรชิม่า ผู้คนจากสหรัฐ, ฟิลิปปินส์, และเกาหลีใต้ ต่างก็เข้าร่วมกับกลุ่มผู้ประท้วงในพื้นที่ พร้อมชูป้ายที่แสดงออกว่า การประชุม G7 คือเครื่องมือยุทธศาสตร์ทางทหารของสหรัฐ ในการแทรกแซงกิจการในเอเชีย และเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพในภูมิภาคด้วย

ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ตอบโต้การประชุม G7 เช่นกัน โดยได้กล่าวว่า หมดยุคแล้วที่ประเทศตะวันตกไม่กี่ประเทศ จะสามารถเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น และบงการกิจการระดับโลกได้ และในส่วนของการพาดพิงจีนว่าทำการบีบบังคับทางเศรษฐกิจนั้น จีนก็ได้ชี้ให้เห็นว่า การคว่ำบาตรฝ่ายเดียวครั้งใหญ่ และการขัดขวางอุตสาหกรรมห่วงโซ่อุปทาน คือสิ่งที่ทำให้เห็นว่า สหรัฐคือผู้บีบบังคับที่แท้จริง โดยในช่วงระหว่างปี 2000-2021 สหรัฐคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจฝ่ายเดียวในเกือบ 40 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อประชากรไปเกือบครึ่งหนึ่งของโลก

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ฟรานซิสโก โรดริเกซ แห่งมหาวิทยาลัยเดนเวอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติกิจการระหว่างประเทศได้ให้ข้อมูลว่า การศึกษา 30 จาก 32 ชิ้น เกี่ยวกับผลกระทบของการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจโดยสหรัฐและพันธมิตรพบว่า การบีบบังคับทางเศรษฐกิจโดยสหรัฐและพันธมิตร ได้ทำลายล้างกลุ่มเปราะบางในประเทศเป้าหมาย จนทำให้มาตรฐานการครองชีพตกต่ำลง รายได้ต่อหัว, ความยากจน, ความไม่เท่าเทียมกัน, การเสียชีวิต, และสิทธิมนุษยชน ต่างเผชิญกับผลลัพธ์ที่เป็นลบทั้งสิ้น

 

 

 

A small group of anti-G7 protesters clash with police at a shopping district in Hiroshima on May 21, 2023, as world leaders meet on the last day of the G7 Summit Leaders’ Meeting. (Photo by Philip FONG / AFP)

ขณะที่เจฟฟรีย์ เดวิด แซคส์ ศาสตราจารย์ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและศาสตราจารย์ด้านนโยบายและการจัดการด้านสุขภาพของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียก็ระบุว่า สหรัฐเป็นผู้ที่ปรับใช้มาตรการบีบบังคับฝ่ายเดียวรายใหญ่ที่สุดของโลก ดังนั้น จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่ไปกล่าวหาจีนว่าทำการบีบบังคับทางเศรษฐกิจ ซึ่งแทนที่จะกล่าวโทษจีนในสิ่งที่ G7 ทำ แนวทางที่ดีกว่ามากของ G7 ก็คือ เรียกร้องให้มีการหารือกับจีน เพื่อให้ทุกประเทศรับรองในมาตรการทางเศรษฐกิจและการค้า ที่สอดคล้องกับกฎบัตรสหประชาชาติและกฎขององค์การการค้าโลก

Placards with slogans are pictured on the ground after a small clash between anti-G7 protesters and police officers during a march in Hiroshima on May 21, 2023, as world leaders meet on the last day of the G7 Summit Leaders’ Meeting. (Photo by Philip FONG / AFP)

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส
ซาอุฯเคยเตือนเยอรมนีเรื่องคนร้ายโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น