ไม่มีอะไรตื่นเต้นแปลกใหม่กับการแถลงข่าวลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU)ของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ยืนกราน 313 เสียงเพียงพอต่อการตั้งรัฐบาล ส่องดูเอ็มโอยู 23 ข้อที่พิธาแถลงไม่มีอะไรแปลกใหม่ ” บันทึกความเข้าใจร่วมนี้ทำเพื่อสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ ทุกพรรคเห็นร่วมกันว่า ภารกิจของรัฐบาลทุกพรรคที่จะผลักดันร่วมกันนั้น ต้องไม่กระทบกับรูปแบบของรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในสถานะ อันเป็นที่สักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์” พิธาเปิดหัวแถลงเอ็มโอยู ยืนยันรัฐบาลก้าวไกลจะบริหารประเทศภายใต้หลักประชาธิปไตยไม่ให้ใครมาละเมิดสถาบัน คนไทยสายกลางๆ หรือคนไม่ได้ดูข่าวตามข่าวฟังแล้วอาจดูดี แต่คนรักชาติเทิดทูนสถาบันได้ฟังพิธาพูดแบบนี้ บอกเลยว่า “ปลอม” ข่าวว่าพิธานัดพรรคร่ม 15.30 น. แต่กว่าจะแถลงเกือบ 17.00 น. แว่วว่าถูกพรรคร่วมบี้ให้ใส่ประโยคเปิดหัวข้างบนในแถลงการณ์ไม่งั้นจะไม่สบอารมณ์มหามิตรพรรคการเมือง เพราะพิธาและก้าวไกลกำลังถูกสังคมไทยจับจ้องในประเด็นนี้อยู่ แต่การเปิดหัวโดยการอวยว่าจะบริหารประเทศบนหลักเคารพสถาบัน รวมถึงใน MOU จำนวน 23 ข้อที่แถลงออกมาก็ไม่มีประเด็นแก้ ม.112 ไม่มีเรื่องนิรโทษกรรม ตรงนี้ฝ่ายพิธาฝั่งก้าวไกลอาจจะคิดเองเออเองว่าการลดเพดานลงมาแบบนี้ น่าจะพอลดกระแส สร้างความเชื่อใจให้กับส.ว.และคนไทยได้มาก โดยเฉพาะในช่วงที่ตัวเองกำลังหาแนวร่วมจากส.ส.และส.ว. เพื่อให้ได้เสียงในสภาเกิน 376 คนเพื่อที่จะได้เป็นนายกฯคนที่ 30 ตามที่ตนเองได้ประกาสไปตั้งแต่ไก่โห่ก่อนหน้านี้
แต่เอาจริงบอกพิธาและพวกส้มล้มเจ้าตรงๆ คนไทยใฝ่ดีคนไทยรักสถาบันคนไทยรักชาติ ไม่มีใคร “โง่ บ้า เซ่อ” ไปหลงกลควายๆ ที่พิธามาบอกที่ก้าวไกลออก MOU ทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้ามาหลอกคนไทยหรอก อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ สันดานชั่ว อุดมการณ์อุบาทว์ ไม่มีทางที่คนไทยจะลืมได้ง่ายๆ ต่อให้เล่นละครตบตาให้ปิยะบูดมาโพสต์เฟซด่าว่า “กินปูนร้อนท้อง” หรือ “วัวสันหลังวะ” ทั้งหมดก็แค่เล่นละครตบตา ดราม่าให้เชื่อว่าถอยจริง แต่การออกมาแถลง MOU แบบหล่อๆ ด้วยการถอดการแก้ ม.112 ออกไป ใส่คำสวยหรูว่าเทิดทูนสถาบัน ไม่ยอมให้มีใครมาละเมิดองค์พระมหากษัตริย์ของเราได้ ล้วนแต่เป็น “โกหกคำโต” ที่พิธาพ่นออกมาให้ดูดีในวันที่จะโชว์ออฟกับสื่อไทยและสื่อเทศและฝ่ายตัวเองเท่านั้น แต่คนที่อยู่ตรงข้ามคนที่ตามเรื่องนี้มาตลอด คนที่รักเจ้ารักสถาบัน เขาอ่านเกมออกเขาดูเกมเป็น ถ้าไม่ต้องการแสวงหาแนวร่วม ไม่ต้องการมือจากพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล มีหรือคนอย่างพิธาจะออกมาพูดจากสวยหรูดูดี ขัดหลักการ ย้อนแย้งอุดมการณ์ของตัวเองแบบนี้ กำพืดพวกส้มล้มเจ้าความคิดของแกนนำก้าวไกลหรือเดิมคืออนาคตใหม่ ชั่วช้าอย่างไรใครๆก็รู้ๆ ธนาธรอยากรื้อล้างสถาบันอันเป็นที่รักของคนไทยเพื่อแก้แค้น ปิยะบูดเสนอความคิดสุดชั่วด้อยค่าในหลวง 10 ประการหวังพาไทยเป็นสาธารณรัฐ พิธาก็รับลูกรื้อแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นอุปสรรคกับการครองอำนาจของฝ่ายส้มทั้งหมด บรรดาลิ่วล้อ ช่อ โรม วิโรจน์ เตี้ยหลังม็อบ ฯลฯ ก็ด่าในหลวงป่าวๆๆ ล้อมรถประราชินีก็เห็นกันอยู่ เผาป้ายสถาบัน ด่ากราดหยาบคายกับเจ้านายในโซเชี่ยล์ก็มีให้เห็นจนเกลื่อนกลาด เชื่อหรือว่าพวกมันจะหยุดแค่นี้จริง อย่าโง่ให้มันหลอกครับคนไทย
พิธาไปอยู่ไหนทำไมไม่รู้ไม่เห็นหรืออย่างไร ตัวเองก็เป็นหนึ่งในองคาพยพที่สำคัญของฝ่ายนี้ เป็นหนึ่งในคนที่มีแนวคิดล้มล้างสถาบัน พูดจาในสภาให้สัมภาษณ์สื่อนอกเสนอไอเดียสุดวิบัติ คนไทยจำได้ดี จู่ๆวันดีคืนดีอยากเข้าสู่อำนาจอยากเป็นนายกฯคนที่ 30 ก็เลยมาลดเพดานพูดจาแสนหวานว่าจะดูแลปกป้องสถาบันไม่ให้ใครมาละเมิด ก็พวกคุณมึงเครือข่ายตัวเองนั้นแหละที่ปั่นบ้านป่วนเมืองเหยียบย่ำจนสถาบันแหลกเละไม่มีชิ้นดี วันนี้จะมา “ลับ ลวง พราง” ถือพานธูปเทียนมาบอกว่า “รักเจ้า” ใครไปเชื่อคุณมึงก็บ้าแล้ว คนไทยมีสมอง คนไทยไม่ได้กินหญ้า คนไทยไม่มีทางยอมให้พิธากับก้าวไกลมาย่ำยีสถาบันแน่นอน 14.2 ล้านคะแนนก็เถอะ มันก็แค่ 1 ใน 4 ของคนไทยทั้งประเทศ 60 ล้านคน อย่าเคลมว่าทั้ง 14 ล้านคะแนนจะเห็นตามหมด ที่ถูกหลอกให้หลงผิดก็เยอะ ที่ชอบส้มกาส้มด้วยเรื่องอื่นก็มาก หรือต่อให้เคลมว่าทั้ง 14 ล้านเป็นพวกเห็นด้วยกับกูทั้งหมด ก็อย่าคิดว่าจะทำอะไรทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ ไม่เชื่อก็ลองดู แถลงข่าววานนี้เห็นพรรคร่วมรัฐบาลนั่งหน้าสลอน หมอชลน่าน วันนอร์ เจ๊หน่อย พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ปากก็บอกรักสถาบันไม่เห็นด้วยกับการแก้ 112 ไม่เห็นด้วยกับการล้มเจ้า แล้วไปนั่งสนับสนุนพิธาไปร่วมรัฐบาลก้าวไกล ไม่รู้เหรอว่าไอ้พรรคนี้ต้องการล้มล้างสถาบันมีเป้าหมายเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ ไปเป็น “นั่งร้าน” ให้คนชั่วทำไม ไปเป็นเสาเอกไปเป็นไม้ค้ำยันให้พวกล้มเจ้า เสียชาติเกิดแท้ๆ หรืออย่างเป็นรัฐบาลอยากเข้าสู่อำนาจจนตัวสั่น ผิดถูกไม่แยกแยะ ไม่สนสี่สนแปดอะไรแล้ว ขอให้กูได้เป็นรัฐบาลก่อน หัวหงอกหัวดำมาตั้งหลายปีเรื่องแบบนี้ยังคิดไม่ได้ นั่งทองไม่รู้ร้อนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่มันจะเข้าไปแก้ม.112 เปิดประตูรื้อล้างสถาบัน คอยดูนะอนาคตเกิดปัญหาอะไรขึ้น ก้าวไกลทำฉิบหายกับประเทศ 8 พรรคนี้แหละต้องรับผิดชอบ
วานนี้ตอนแถลงข่าวจบหน้าหล่อให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไทยเทศ เจ้าตัวก็ยังยืนกรานแม้ใน MOU รัฐบาลไม่มีเรื่องนี้ แต่ก้าวไกลก็จะเดินหน้าแก้ 112 ต่อในนามพรรค ” เรื่องการยื่นแก้ไข ม.112 จะมีการหารือและอภิปรายกันในสภา และการหาข้อยุติเรื่อง ม.112 พรรคก้าวไกลยื่นยันจะทำอยู่ ตอนกุมภาฯ 2564 เรายื่นเข้าสภาแล้วแต่ไม่มีการบรรจุ สำหรับครั้งนี้น่าจะประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ยังมีการดำเนินการเรื่องนี้อยู่ โดยการดำเนินการของพรรคก้าวไกล…..เจตจำนงค์เรื่องนี้คือการทำให้เรื่อง ม.112 ไม่กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการโจมตีใคร สิ่งที่เราได้ยื่นไปแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับความเป็นสากลก็ดี ใน MOU ก็เขียนชัด ให้ดำรงค์อยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดองค์พระมหากษัตริย์ไม่ได้ ตรงนี้คงทำให้ส.ว.และพี่น้องประชาชนจำนวนมากสบายใจมากขึ้น” พิธาก็พูดโคตรชัดว่า “ทำอยู่ ทำแน่ ทำต่อ” แล้ว 8 พรรคนั่งเป็นสากกะเบือให้มันหลอกให้มันล่ออยู่ได้ คนไทยจะยอมให้ผู้นำแบบนี้เป็นนายกฯของประเทศหรือ พิธาก็มีความคิดในหัวไม่ต่างจากทอนล้มเจ้าหรือปิยะบูด ล่าสุดขนาดยังไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ก็ไปให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติเกี่ยวกับสถาบันในลักษณะที่คนเก่งอังกฤษแตกฉานแบบ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล นักสื่อสารมวลชนชื่อดังฟังแล้วยังไม่สบายใจ ยกตัวอย่างความไม่สบายใจของ อ.สมเกียรติ อาทิ นายพิธากล่าวว่า “and how we should move forward in terms of relationship between the monarchy and the mass” ซึ่งดร.สมเกียรติ เห็นว่า นายพิธาลุยเลย ต้องการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับมวลชน ตรงนี้ตนคิดว่ามันแรงและชัดเจน อีกทั้งความจริงแล้ว เอาประเพณีอังกฤษดีกว่า อังกฤษอยู่มาเป็นพันปีกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ใครประท้วงอยู่ข้างนอกก็ว่าไป แต่มีประเพณีว่านายกรัฐมนตรีจะเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ทุกสัปดาห์ คุยเรื่องบ้านเมืองกับพระเจ้าอยู่หัวทุกสัปดาห์ และพูดอะไรไปต้องไม่บอกใครทั้งสิ้น เป็นความลับระหว่างพระเจ้าแผ่นดินกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนงดงาม
หรือกรณีที่นายพิธา กล่าวว่า “and then we’ll resolve this vonflict(วอนฟลิค) going forward on how the role of the monarchy should be in the 21st century Thailand” ซึ่งดร.สมเกียรติ กล่าวว่า ตรงนี้ก็ทำให้ตนนอนไม่หลับ เพราะนายพิธาบอกว่า เราจะแก้ความขัดแย้งนี้เพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้า และจัดการในเรื่องบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ ควรจะเป็นอย่างในประเทศไทยในศตวรรษที่ 21 นายพิธาพูดเหมือนกับว่าจะไปจัดการด้วยกฏหมาย โดยไม่รู้คุยกับใคร และตอนนี้นายพิธาไม่ได้พูดถึงเรื่อง112 แต่เป็นการเสนอว่าจะเปลี่ยนทั้งหมดที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ในประเทศไทย ให้มันเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 โดยตนไม่รู้ว่าศตวรรษที่ 21พระเจ้าแผ่นดินจะเป็นอย่างไร ซึ่งช่วงที่ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ขึ้นครองราชย์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีได้ถามพระองค์ว่า เป็นพระเจ้าแผ่นดินต้องทำอะไรบ้าง ในหลวง รัชกาลที่ 9 ตอบว่า ตนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องทำอะไรบ้าง แต่ทุกเช้าตื่นขึ้นมา ออกไปทำให้มันดีที่สุด นั่นหมายความว่า มันไม่มีมาตรฐานสากลในโลก ว่าพระเจ้าแผ่นดินในประเทศทั้งหลายต้องทำยังไง มันสุดแต่ประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการ รวมถึงวัฒนธรรมอันยาวนานหรือไม่ยาวนานของแต่ละประเทศ ที่มีระบอบการปกครองที่เริ่มต้นด้วยการมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแบบเบ็ดเสร็จ และมาเป็นประมุขอยู่ภายใต้ประชาธิปไตย ดังนั้นนายพิธาคิดไกลมากกว่าการแก้ไขมาตรา 112 ฉะนั้นนายพิธาต้องอธิบาย ไม่วันนี้ก็วันหน้า นอกจากนายพิธาจะเลิกพูดเรื่องนี้ ” อ.สมเกียรติอธิบาย พร้อมคอมเมนต์คำพูดของพิธาว่า ” พิธาใช้ภาษาอังกฤษดี แต่ภาษาอังกฤษทางการเมืองยังไม่ดี บางครั้งใช้คำแรง บางครั้งใช้คำท้าทาย ไม่นุ่มนวล ”
อย่าลืมว่าพิธายังไม่ได้เป็นนายกฯเลย แม้จะเป็นแคนดิเดตนายกฯของก้าวไกลได้คะแนนมา 14.2 ล้านคะแนน มี 8 พรรค 313 เสียงหนุนให้เป็นนายกฯ แต่การเมืองไทย 1+1 อาจไม่ใช่ 2 ในหลายกรณี ยังมีตัวแปร ยังมีเงื่อนไข ยังมีอะไรหลายอย่างอีกเยอะ พิธาอย่าย่ามใจว่าอำนาจอยู่ในมือ อย่าคิดว่าจะเป็นนายกฯแน่ๆ ลำพังตัวเองยังมีกรณีถือหุ้นสื่อครองหุ้นไอทีวีอยู่ 42,000 หุ้นอยู่ในมือ ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะรอดหรือไม่ ยังไม่แน่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเชือดตามที่กกต.ร้องไปหรือปล่าว พิธายังลูกพี่ลูกคนแต่ออกตัวแรง ไปพบคนนู้นไปคุยกับคนนี้ไปหารือกับคนหลายคณะ โดยที่ตัวเองก็ยังไม่ชัวร์ว่าจะได้เป็นนายกฯไทยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ เพราะยังไม่โหวตยังไม่ได้รับฉันทามติจากส.ส.และส.ว.มากกว่ากึ่งหนึ่งของสองสภาเลย อย่าเพิ่งใจเร็วด่วนได้ อย่าเพิ่งออกตัวแรง อดีตก็มีประวัติว่าที่นายกฯไทยตกม้าตายก่อนได้เป็น “สร.1” จริงๆก็มีมาเยอะแล้ว พิธาจะเป็นนายกฯได้จริหรือไม่ยังไม่รู้ แต่พิธาจะแก้ ม.112 เปิดประตูให้มีการล้มล้างสถาบันอันนี้แน่นอน ไปดูใน MOU ข้อแรกคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งสสร. จากประชาชน พิธากับก้าวไกลกำลังฮึกเหิม ระวังอาจใช้โอกาสนี้แก้รัฐธรรมนูญ หมวดพระมหากษัตริย์ ทั้งหมวด 1 และ หมวด 2 รวมถึงมาตราอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีก 38 มาตรา ถ้าพิธาดีจริง ส.ว.250 คนคงไม่ขวางแน่ แต่นี้ในสภาสูงออกมาเรียกร้องให้พิธาแสดงจุดยืนชัดๆกันพรึบพรับ คุณหญิงหมอพรทิพย์ สซ.สมชาย ส.ว.กิตติศักดิ์ และอีกสารพัด เพราะทุกคนรู้เช่นเห็นชาติ ไม่เชื่อลมปากพิธา แถมไม่เชื่อน้ำยาก้าวไกล เพราะในพรรคมีแต่พวกสุดโต่ง ด่าเจ้า เหยียดหยามสถาบัน “ตัวพ่อ-ตัวแม่” ทั้งนั้น ให้พวกนี้มีอำนาจบริหารประเทศ รับรองฉิบหายกันหมด ประเทศลุกเป็นไฟ สถาบันถูกรุกรานรื้อล้างแน่นอน ขนาดไม่เป็นนายกฯไม่ได้เป็นประธานรัฐสภาไม่ได้เป็นรัฐบาล อดีตยังก่อวีรกรรมก่อวีรเวรไว้มากมาย บัญชีหนังหมายังไม่รับ อนาคตถ้าพิธาได้เป็นนายกฯ ก้าวไกลได้เป็นประธานสภา ฝ่ายล้มได้บริหารประเทศ อะไรจะเกิดกับสถาบัน อะไรจะเกิดกับ “ในหลวง-พระราชินี” อะไรจะเกิดกับสถาบันอันเป็นที่รัก ไม่นับรวมเรื่องอื่นๆที่พิธาส่งสัญญาณวุ่นวาย พาไทยโปรไอ้กันอยู่ใต้ตีนตะวันตก เลิกคบจีน ไม่สนรัสเซีย ไม่แคร์อาหรับ ไม่สุงสิงประเทศมุสลิม โชว์ความเก่งกาจเกินเบอร์ โชว์อังกฤษแบบล้ำหน้า อนาคตไทยจะวายป่วงแน่นอน ชักศึกเข้าบ้าน ทำตัวเป็นพี่ใหญ่อาเซียน เจ้ากี้เจ้าการเรื่องพม่า การทูตมีตัวตน ล้มทุนผูกขาด รื้อกองทัพแบบสุดๆ ล้างสตช.แบบสุดทาง ปรับสังคมไทยให้วิปริตแบบ 360 องศา บอกตรงๆจากประสบการณ์ที่ผ่านมา กลัวฉิบหายเลย เหมือนไทยกำลังถอยหลังไปสู่ปากปล่องภูเขาไฟอีกแล้ว เตรียมฉิบหายบรรลัยกัลป์อีกแล้ว ถ้ามีนายกฯชื่อพิธามีรัฐบาลก้าวไกล
///////////////////////
