“ ไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยบ่น อดทนแม้ถูกประชาชนก่นด่า สารพัดทุกคำถากถางโจมตี นี่คือสิ่งที่ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องเจอตลอดหลายปีที่ผ่านมา … และสำหรับตำรวจแห่งปี ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะด้วยบทบาทหน้าที่รับผิดชอบ ในฐานะ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เค้าจึงกลายเป็นเป้าสายตาของกลุ่มม็อบเยาวชนขับไล่รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กำลังครุกรุ่นอยู่ทั่วกรุงในทุกวันนี้
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น ที่ออกตัว เปิดหน้าแถลงการณ์ความเคลื่อนไหวของม็อบเกือบตลอด 24 ชม. จึงกลายเป็นเป้านิ่งให้ถูกโจมตีถี่ๆ ถึงขั้นที่ว่า ถูกม็อบเอาเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวไปโพสต์ลงโซเชียล ประสงค์เพื่อให้กลุ่มบุคคลที่ไม่พอใจต่อสายไประบายอารมณ์ … ทว่าพฤติกรรมเหล่านั้นมิได้ทำไห้ “รองต๊ะ” หวั่นไหวแม้แต่น้อย ยังคงเปิดสายโทรศัพท์เบอร์เดิม สแตนบาย 24 ชม. เพื่อบัญชาการดูแลความสงบในพื้นที่เมืองหลวง อย่างต่อเนื่อง
เมื่อย้อนกลับไปดูถึงประวัติการทำงาน ก็ถือว่าโดดเด่นตลอดเส้นทางรับราชการ “รองต๊ะ” เรียนจบ นักเรียนนายร้อย รุ่น 38 มีเพื่อนร่วมรุ่นชื่อ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ที่ดูแลงานความมั่นคง “รองต๊ะ” เรียนจบ ปริญญาโทบริหารธุรกิจอีก 2 ใบ จาก ม.เกษตรศาสตร์ และวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ พ่วงปริญญาเอกสาขาการจัดการ มรภ.สวนดุสิตในปี 2546 เคยดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.โชคชัย และสร้างผลงานจับกุมโดดเด่นในหลายคดี กระทั่งปี 2549 ย้ายไปเป็น ผกก.สน.วังทองหลาง ก็ยังคงรักษามารตฐานการทำงานได้เป็นอย่างดี ถือเป็นนายตำรวจที่ “เก่ง” และ โดดเด่นมาก ในกองบัญชาการตำรวจนครบาลยุคนั้น
ต่อมา ในปี พ.ศ. 2550 “รองต๊ะ” เงียบหายพักใหญ่ เพราะไปนั่งงานสายวิชาการที่ บช.ปส. และ ตร. กระทั่งล่าสุด “รองต๊ะ” ขึ้นมาผงาด เป็นรอง ผบช.น. ที่มีความสามารถ โดดเด่นสะดุดตา รับผิดชอบงานจเรตำรวจ พ่วงโฆษก บช.น. ซึ่ง “รองต๊ะ” จะเกษียณ ราชการเดือนตุลาคม 2566
“รองต๊ะ” เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อสำนักหนึ่ง ถึงเแรงจูงใจมาเป็นตำรวจว่า …ต้องการให้วงการตำรวจดีขึ้น ซึ่งถ้ามีโอกาสอยากเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่างใน ตร.แม้เติบโตในครอบครัวทหารเรือก็ตาม จบ นรต.รุ่น 38 รับราชการครั้งแรก สน.จักรวรรดิ เป็นนายตำรวจปกครอง ร.ร.เตรียมทหาร อยู่ สน.พระราชวัง ได้รางวัลพนักงานสอบสวนดีเด่น เป็นนายเวร ผบก.ปอศ.ในยุคก่อตั้งได้ทำคดี ปั่นหุ้นเสี่ยสอง เป็นคดีใหญ่ในขณะนั้น
“ ส่วนมากอยู่ในสายสืบสวนสอบสวน ก่อนมาเป็น ผบก.จร. ผบก.น.7 รอง ผบช.ตชด. และ รอง ผบช.น.ด้านจเรตำรวจ ภูมิใจที่ผู้บังคับบัญชาเห็นและให้ผมเป็นต้นแบบของไม้บรรทัด การปกครองคนหมู่มากถ้าทุกคนไม่มีวินัยเป็นตัวตั้งมันก็ปกครองกันไม่ได้ ทุกหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นหน้าที่ที่สำคัญ ครั้งหนึ่งในชีวิตได้เป็นผู้นำขบวน “ในหลวง รัชกาลที่ 9” ในการเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม
หากให้เล่าถึงความทรงจำจากปากสื่อมวลชนสายตำรวจคนหนึ่ง ที่เคยร่วมงานกับ “รองต๊ะ” มาเกือบ 20 ปี ได้ให้ข้อมูลว่า “รองต๊ะ” เป็นคนที่ขยันทุ่มเทให้กับงานที่ได้รับมอบหมาย และทำอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่ารองต๊ะ จะรับตำแหน่งที่ไหน ก็จะบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่นั้นๆ และทำอย่างสม่ำเสมอ เรียกได้ว่า ทำงานเพื่อประเทศชาติมาตลอดชีวิตข้าราชการตำรวจ … นิสัยส่วนตัว น่ารัก เป็นกันเอง หากย้อนไปเมื่อสมัยที่เคยเป็น ผกก. อยู่ สน.โชคชัย “รองต๊ะ” เคยมาร่วมงานเลี้ยงกับสื่อฯ จึงทำให้รู้ว่า … นอกจากจะทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างดีเยี่ยมแล้ว ยังเป็นตำรวจที่อารมณ์ดี และร้องเพลงเพราะมากๆ
ทีมข่าวท็อปนิวส์ ขอเป็นกำลังใจให้ตำรวจทุกคน รวมไปถึง พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ให้ปฎิบัติหน้าที่ดูแลประชาชน และความสงบสุขในเมืองหลวง อย่างเต็มความสามารถ