น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ โดยระบุว่า “#พรรคไทยสร้างไทย พูดชัดเจนมาโดยตลอด ว่าเรายินดียกมือสนับสนุน ให้พรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล ได้จับมือกันตั้งรัฐบาล ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล หากต้องการเสียงของไทยสร้างไทย เข้าร่วมรัฐบาล แต่ติดขัดที่ตัวผม ผมยินดีลาออกจากพรรคให้ทันที ยืนยันว่าเราไม่ใช่เงื่อนไข ที่จะทำให้ ปชต. ต้องหยุดชะงัก ครับ”
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยก่อนหน้านี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ น.ต.ศิธาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ไม่ได้กลัวเสียมารยาทมากไปกว่ากลัวสืบทอดอำนาจ” ตอบโต้ นพ.ชลน่าน ที่กล่าวถึงการตั้งคำถามของ น.ต.ศิธา ในเวทีเซ็น MOU ว่าเสียมารยาท ว่า ถ้าเจตนารมณ์ของ น.ต.ศิธา เป็นเช่นนั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก ตนไม่ได้โกรธแค้นอะไร ในวันที่เราแถลงข่าวตนพยายามไม่ตอบโต้อะไร เพียงแต่ตนมองว่า น.ต.ศิธา ควรมานั่งอยู่ตรงนี้ไม่ควรไปถามคำถามตรงนั้น
“สิ่งที่ตนต้องตำหนิเพราะ น.ต.ศิธา คือผู้ที่อยู่ในวงหารือร่าง MOU แก้ไขและปรับปรุง คุณเป็นคนใน ถ้าเป็นสื่อมวลชนถาม ตนก็ยินดีและพร้อมที่จะตอบ การถามจากคนในก็ยากที่จะประเมินวัตถุประสงค์ ขอให้เรามีมารยาทต่อกัน หากเป็นคนนอกจะไม่ตำหนิเลย เพราะมีสิทธิ์ที่จะถาม แต่นี่คุณเป็นคนร่างและพิจารณาด้วยกัน ถามแบบนี้คืออะไร ไม่ได้เป็นคำถามเชิงบวก เรากำลังมุ่งจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน MOU ที่เราเขียนก็ชัดเจน”
นอกจากนี้ น.ต.ศิธา ยังระบุว่า ตนไปพูดลับหลัง นั่งรับประทานอาหารและดื่มร่วมกันทำไมไม่พูด ด้วยความสัจจริง งานเลี้ยงเขาจัดอย่างเป็นทางการ และจัดโต๊ะให้นั่งตามลำดับ ตนนั่งข้างซ้ายของ นายพิธา ส่วน น.ต.ศิธา นั่งฝั่งขวาห่างไปอีกประมาณห้าถึงหกเก้าอี้ ตั้งแต่ตนกระซิบตำหนิว่าเรื่องนี้ไม่ควรพูดและถาม ตนตบบ่าและให้กำลังใจ น.ต.ศิธา เพราะรู้สึกว่าอาจจะตำหนิเขามากเกินไป แต่การที่มาใส่ร้ายว่าไปรับบรีฟ นี่เป็นเรื่องใส่ร้าย
นพ.ชลน่าน ย้ำอีกว่า ถ้าคุณยังมีพฤติกรรมเช่นนี้ คิดว่าการทำงานร่วมกับตนคงลำบาก คุณต้องพูดความจริง ถ้าคุณเป็นนักการเมืองที่มาจากประชาชน ส่วนที่บอกว่ากินดื่มชนแก้วนั้นไม่เป็นความจริง เพราะตนเลิกดื่มนานแล้ว ทางแกนนำเขาชนแก้วแค่เป็นพิธี หากจะดราม่าเกินไปไม่ดี ตนพร้อมให้อภัยกับทุกคน และไม่เคยโกรธใครอยู่แล้วแค่ขอให้พูดความจริง อะไรที่ทำแล้วไม่เหมาะไม่ควร แค่ขอโทษกันก็จบ อย่าไปสร้างเรื่อง การทำงานร่วมกันจะไม่ราบรื่น เรื่องเล็กอย่าไปทำให้เป็นเรื่องใหญ่”
เมื่อถามว่า น.ต.ศิธา ต้องขอโทษในรูปแบบใด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แบบใดก็ได้ ที่แสดงให้เห็นว่าเขาสำนึก โดยฝากพรรคแกนนำ อย่าให้เรื่องอะไรเล็กๆ น้อยๆ มาบั่นทอนการทำงานร่วมกันของเรา
“แต่ถ้าเห็น 6 เสียงมากกว่า 141 เสียง ตนก็ยอม ขอเถอะ กำลังจับมือจัดตั้งรัฐบาล อะไรที่ช่วยกันได้ ก็ควรช่วยกันทำ จะไปสร้างฉากสร้างซีนอะไร ก็ไปทำทีหลัง ให้เรื่องนี้จบก่อน แค่นี้มันน่าจะจบ”
ส่วนจะลดบทบาท น.ต.ศิธา หรือไม่นั้น ก็เป็นสิทธิของพรรคแกนนำ พูดตรงนี้ให้จบนะ อย่าไปขยายความข้างนอก จะได้มีข้อตกลงชัดเจนว่าเราพูดกันแล้ว ส่วนจะไม่ให้ น.ต.ศิธา ไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของพรรคแกนนำ เพราะตนไม่มีอำนาจพอที่จะไปชี้เอานั่นไม่เอานั่น เพียงแต่ขอให้เกียรติกันเท่านั้นก็พอ ตนไม่ติดใจจะเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นอะไรก็เรื่องของเขา แต่ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้ ทำงานร่วมกันยาก
ผู้สื่อข่าวได้ย้ำถามถึงประเด็นการทวิตของ น.ต.ศิธา เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ เป็นเพราะเดือดในเรื่องนี้มากใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ถ้าชกได้ ผมชกไปแล้ว”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
