จากกรณีที่พรรคก้าวไกล มีนโยยายที่ใช้ในการหาเสียง คือความพยายามแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือกฎหมายเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ซึ่งมาสู่ข้อถกเถียงในสังคมที่หลากหลาย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แม้ว่าพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า ข้อเสนอในการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ไม่ได้ทำให้ประเทศเราขาดการคุ้มครองประมุขของรัฐหรือพระมหากษัตริย์ในทางกฎหมาย เพียงแต่เป็นข้อเสนอในการทำให้กฎหมาย คุ้มครองประมุขของเรา ทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น ในการพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ก็ยังสร้างความเคลือบแคลงสงสัยและเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ อย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้
วันนี้ ( 25 พ.ค.) ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ไม่เห็นด้วย กับนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์ ว่า ตนขอย้ำชัดในจุดยืนว่า ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตราดังกล่าว เพราะทุกประเทศมีการปกครองในรูปแบบของประเทศของตัวเอง เฉกเช่นเดียวกับประเทศไทย ซึ่งมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งทุกประเทศ ที่มีการปกครอง ในระบอบนี้ ต่างก็มีกฎหมายคุ้มครองประมุขของประเทศตนเหมือนกัน
ขณะที่ประเทศไทย มีบทบัญญัติคุ้มครองพระมหากษัตริย์ อยู่ในกฎหมายสูงสุด นั่นคือ รัฐธรรมนูญ ซึ่งบัญญัติเอาไว้เป็นพิเศษว่า “พระมหากษัตริย์ทรงดำรงพระฐานะพิเศษ” ผู้ใดจะละเมิดมิได้
นายสุเทพ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรายละเอียดของกฎหมาย จะมีการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของพระมหากษัตริย์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่กฎหมาย มาตรา 112 จะถูกกำหนดมาเพื่อใช้กับบุคคลพิเศษ และการที่พรรคก้าวไกล นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และว่าที่นายกรัฐมนตรี มีความพยายามที่จะแก้ไขมาตรา 112 นั้น อาจจะเข้าข่ายขัดการปกครองของประเทศ และไม่เป็นผลดีกับใคร
นายสุเทพ ยังกล่าวเพิ่มเติม ว่า การแก้ไขมาตรา 112 นอกจากจะไม่มีผลดีแล้ว ยังเป็นการเปิดช่องให้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ดูหมิ่นอาฆาตมาดร้าย ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และถ้าเป็นเช่นนั้น การแก้ไขมาตรา 112 จะทำให้สถาบันและประเทศชาติดีขึ้นได้อย่างไร และประชาชนจะได้ประโยชน์อะไรจากการแก้ไขมาตราดังกล่าว
ที่สำคัญไปกว่านั้น สถาบันพระมหากษัตริย์ ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย อยากให้ลองคิดในมุมกลับกัน หากประเทศไทยไม่มีส่วนรวมจิตใจที่เรียกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ ประเทศชาติบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร
นายสุเทพ ยังแสดงความเห็นต่อไปว่า สำหรับแนวคิดของพรรคก้าวไกล ในการจะแก้ไขกฎหมาย เพื่อนิรโทษกรรม ให้ผู้กระทำความผิดมาตรา 112 หรือการนิโทษกรรมให้กับกลุ่มการเมืองนั้น ตน ยิ่งไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมาย้อนกลับไปเมื่อปี 2556-2557 มีพี่น้องประชาชน จำนวนหลายล้านคน รวมถึงตนได้ออกมาเคลื่อนไหว ต่อต้านการแก้ไขกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะมองว่าบ้านเมืองต้องมีกฎหมาย มีระเบียบ เคารพกฎกติกา สังคม จึงจะเกิดความมั่นคง