ยังไม่ทันตั้งรัฐบาลสำเร็จ ก็ส่อเค้าว่ารัฐบาลก้าวไกลภายใต้การนำของ “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ประกาศว่าตัวเองคือ “ว่าที่นายกฯคนที่ 30 ” ตั้งแต่ไก่โห่ ตั้งแต่ยังไม่โหวตเลือกนายกฯ ดูท่าว่าจะสะดุดไปไม่ถึงฝันตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย ตั้งรัฐบาลโลกสวยอย่างที่คาดหวังเสียแล้ว อย่างที่ทุกคนทราบว่าการเลืองตั้ง 14 พ.ค.2566 เที่ยวนี้ ตัวพรรคอันดับ 1 กับ พรรคอันดับ 2 คะแนนใกล้เคียงกันมากๆ กล่าวคือคะแนนอย่างเป็นทางการล่าสุด ผู้มัสิทธิ์เลือกตั้ง 52,195,920 คน ผู้มาใช้สิทธิ์ 39,514,973 คน คิดเป็นร้อยละ 75.71 % บัตรดี 37,190,071 บัตรเสีย 1,547,899 โหวตโน 866,885 ก้าวไกลได้ส.ส.เขตไป 112 คน ได้บัญชีรายชื่อ 39 คน (14,438,851 คะแนน) รวม 151 คน ส่วนเพื่อไทยได้ส.ส.เขตไป 112 คนเท่ากัน แต่ได้บัญชีรายชื่อน้อยกว่าคือ 29 คน ( 10,962,522 คะแนน) รวม 141 คน สองพรรคมีส.ส.ห่างกัน 10 คน
พอพรรค 1 กับ พรรค 2 มีส.ส.ใกล้เคียงกันมากแบบนี้ ในทางการเมืองโอกาสจะพลิกขั้วกันก็มีมาก แม้ส้มล้มเจ้าอย่างก้าวไกล กับแดงโกงชาติอย่างเพื่อไทย จะประกาศตัวเป็นพรรค “ฝ่ายประชาธิปไตย” เหมือนกัน แต่คนตามการเมืองจะรู้ว่าทั้งสองฝ่ายไม่ถูกกัน ไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ได้คิดอ่านทุกอย่างเหมือนกันหมด ฝ่ายหนึ่งมุ่งหมายล้มเจ้า ฝ่ายหนึ่งทุนนิยมสามานย์ แต่บังเอิญดันมีมวลชนพวกเดียวกันสายเดียวกัน ปัญหาจึงบังเกิด อย่างที่รู้ว่าหลังผลการเลือกตั้งออกมาแบบที่เราเห็น ก้าวไกลชนะถล่มทลายก็จริง แต่เพื่อไทยแม้ไม่กวาดส.ส.แบบแลนด์สไลด์แต่ก็ได้ส.ส.มามากพอดู แต่ทั้งสองพรรคชนะกันไม่ขาด ไม่มีใครได้ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรคือ 250 คนขึ้นไปเลย ก็เลยไม่มีพรรคไหนได้เป็นผู้ชนะแบบเบ็ดเสร็จ แต่ในธรรมเนียมการเมืองไทยพรรคไหนได้คะแนนมาอันดับ 1 พรรคนั้นก็ต้องได้ตั้งรัฐบาลก่อน หนำซ้ำรอบนี้สองพรรค 1 กับ 2 ดันเป็นขั้วเดียวกัน เพื่อไทยก็เลยต้องจำใจให้ก้าวไกลตั้งรัฐบาลก่อน เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเสียมารยาทเสียธรรมเนียมปฏิบัติตามระบอบประชาธิปไตย
แต่ถ้าดูตัวเลขส.ส.กันจริงๆ เพื่อไทยก็มีความชอบธรรมเหมือนกันที่จะตั้งรัฐบาลแข่งกับก้าวไกล อย่างที่รู้ว่าก้าวไกลแม้ชนะเลือกตั้งได้ส.ส.มาเป็นที่หนึ่ง แต่ประเด็นแรกคือชนะไม่ขาดได้ผู้แทนแค่ 151 คน ประการที่สองเพื่อนน้อยไร้พรรคอื่นสนับสนุนล่าสุดรวม 8 พรรคยังได้ส.ส.แค่ 312 เสียงเท่านั้น ขณะที่ตัวเองก็ดันไปสร้างเงื่อนไขกับพรรคการเมืองขั้วตรงข้าม อาทิ ประกาศไม่เอา ” 2 ลุง” ทั้ง “ลุงป้อม-บิ๊กตู่” ไม่ร่วมกับ “เสี่ยหนู” เพราะฉะนั้น 3 พรรคอย่างน้อยคือ “พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ-ภูมิใจไทย” จะไม่หนุนพิธาและก้าวไกลแน่ๆ ประการที่สามหาเสียงสนับสนุนจากส.ว.ก็ลำบาก เพราะ 4 ปีที่ผ่านมาด่าทอสภาสูงมาตลอด แถมยังยืนกรานแก้ม.112 เปิดประตูให้มีการบ่อนเซาะกร่อนทำลายสถาบัน แม้จะมีส.ว.หลายคนแสดงจุดยืนหนุนพิธาเป็นนายกฯจะยกมือให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาลโดยอ้างว่าประชาชนส่วนใหญ่เลือกมาแล้ว แต่เอาจริงๆกลุ่มนี้มีแค่ 10-20 คนเท่านั้น แต่พิธาต้องการเสียงส.ว.อีกอย่างน้อย 54 คนเพื่อให้ได้เสียงหนุนในการเป็นนายกฯ ประการที่ห้าดูทรงแล้วไม่มีทางที่พิธาจะได้เสียงสนับสนุนจากส.ส.กับส.ว.มากกว่ากึ่งหนึ่งของสองสภา ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ม.272 คือ ต้องได้เสียงหนุนเกิน 376 คนจาก 750 คน
เพื่อไทยเขี้ยวรากดินตัวพ่อ จบเลือกตั้งก็รู้อยู่แล้วอ่านเกมส์ออกมาตั้งแต่ต้นว่าก้าวไกลไม่มีทางตั้งรัฐบาลได้ แต่จู่ๆจะออกตัวแรงประกาศแข่งกันตั้งรัฐบาลกับก้าวไกลก็ใช่เรื่องใช่ที่ อยู่ดีๆจะให้คนด่าทำไม ก้าวไกลชนะมาอันดับหนึ่ง กระแสกำลังมาแรง น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง เพื่อไทยก็เล่นบทพระรองตามน้ำไปแบบเนียนๆ แต่ในใจก็รู้อยู่แล้วว่าจังหวะสองต้องมาถึง โอกาสทองต้องมาแน่ เพราะต่อให้ดิ้นให้ตายยังไงพิธากับฝ่ายส้มล้มเจ้าก็ไม่มีทางได้โหวตนายกฯ แต่เพื่อไม่ให้เสียมารยาท ไม่ให้เสียหลักการประชาธิปไตย ไม่ให้เสียฐานเสียง ไม่ให้เสียแนวร่วม ไม่ให้เสียภานลักษณ์ของพรรคในสายตาคนไทยและต่างชาติ เพื่อไทยก็จะเล่นเกมส์เป็นพระรองที่แสนดี ทั้งประกาศสนับสนุนพิธาเป็นนายกฯ ยืนยันไม่คิดตั้งรัฐบาลแข่งกับก้าวไกล ไม่หวังส้มหล่นไม่คิดเสียบเพื่อน ถึงเวลาโหวตให้พิธาให้วันเลือกนายกฯก็ยกมือให้หล่อล้มเจ้า แต่ในใจรู้ดีอยู่แล้วว่าหล่อล้มเจ้าไม่มีทางได้เสียงเกิน 376 พลิกเกมพลิกตำรายังไงก็ไปไม่ถึงตำแหน่งนายกฯ ถึงตอนนั้นเพื่อไทยก็จะมีความชอบธรรมในการเสนอชื่อคนเป็นนายกฯในฐานะพรรคอันดับสอง ตอนนี้ “แพทองธาร-เศรษฐา-ชัยเกษม” ก็ลุ้นเป็นนายกฯสบายๆ เพราะก้าวไกลจะหมดลุ้นหากพิธาไม่ได้โหวตเพราะเสนอชื่อแค่คนเดียว โอกาสเป็นนายกฯเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็จะมาอยู่กับขั้วแดงฝ่ายทักษิณแบบเต็มๆ แบบที่ใครก็ด่าก็ว่าไม่ได้เพราะมาตามครรลองทุกอย่าง แม้อาจจะไม่ชอบธรรมแต่ก็มาอย่างถูกต้อง
เกมออกแบบนี้ก้าวไกลก็จะหมาหัวเน่าไปเลย ก่อนหน้านี้มีข่าวทักษิณนัดแกนนำพรรคการเมืองต่างๆที่ฮ่องกงจริงเท็จไม่รู้ แต่ในวงการพูดกันหนักลือกันหึ่งว่า ทักษิณเดินเกมคุยกับพลังประชารัฐคุยกับภูมิใจไทยรวมถึงพรรคเล็กพรรคน้อยทั้งหมดไว้แล้ว โฉมหน้ารัฐบาลจังหวะสอง รัฐบาลส้มหล่น รัฐบาลพระรอง จะเรียกอะไรก็ตามแต่ก็จะมี เพื่อไทย 141 ภูมิใจไทย 71 พลังประชารัฐ 40 รวมกัน 3 พรรคก็ 252 แล้ว อาจจะดึงพรรคชาติไทยพัฒนาอีก 10 ประชาชาติอีก 9 รวมพรรคเล็กพรรคน้อยอีก 10 บวกันก็เป็น 282 เสียง ที่เหลือก็ถูกถีบไปเป็นฝ่ายค้านทั้งหมด โดยพิธาจะเป็นผู้นำฝ่ายค้านแทนที่จะเป็นนายกฯ ซีกฝ่ายค้านเหมือนตลกร้ายเพราะจะมี “พิธา-พรรคลุงตู่-พรรคสีฟ้า-เจ๊หน่อย” ประกอบร่างกันดังนี้ ก้าวไกล 151 รวมไทยสร้างชาติ 36 ประชาธิปัตย์ 25 และ ไทยสร้างไทย 6 รวมกันก็จะเป็น 218 เสียง เรียกว่าเป็นจำนวนรัฐบาลกับฝ่ายค้านในสถานการณืปกติพอดี รัฐบาลไม่มากไปจนเป็นสภาเผด็จการเหมือนยุคไทยรักไทย 377 เสียง ฝ่ายค้านก็ไม่น้อยไปเพราะถึง 218 เสียง ถ่วงดุลย์อำนาจตรวจสอบกันได้พอดี
วัน ว. เวลา น. มาถึงจะได้เห็นเพื่อไทยแปลงร่างขึ้นเป็นนายกฯแบบนอนมา อย่าได้แปลกใจที่เพื่อไทยจะออกมาเดินเกมเตะตัดขาก้าวไกลแบบรัวๆ การช่วงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแค่ยกแรก แค่ใบเบิกทาง แต่ก็เป็นสัญญาณสะท้อนให้เห็นว่า เพื่อไทยไม่เอากับก้าวไกล ทักษิณไม่มีทางไปอยู่ใต้ตีนเด็กเมื่อวานซืนทางการเมืองอย่าง “ธนาธร-ปิยะบุตร-พิธา” แน่นอน ในพรรคก็มีพวกเขี้ยวรากดินมากมาย คนพวกนี้คงไม่ยอมให้จังหวะและโอกาสทองตกไปเป็นของหอกข้างแคร่แบบส้มล้มเจ้าแน่ ดูสัญญาณก็รู้ไม่อย่างนั้นแกนนำเพื่อไทยไม่ออกมาฟาดงวงฟาดงาเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎรแบบนี้ แถมจู่ๆอุ๊งอิ๊งก็ดันคิดถึงพ่อแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ทิ้งลูกบินไปหาทักษิณเสียอย่างนั้น จากนี้ฝ่ายแดงจะหาเรื่องสร้างความขัดแย้งกับส้มไปเรื่อย ๆ หาประเด็นสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองไปตลอด ถึงเวลาต้องสวมบทพระรองเสียบเพื่อชาติขึ้นจริงๆ จะได้ไม่ถูกด่าหนักไม่เจ็บตัวมาก เพราะช่วยคุณมึงสุดตัวแล้วแต่ไม่มีปัญญาเป็นนายกฯได้เอง ถ้าพิธาตกเพราะส.ว.คนก็ไปด่าสภาสูง ถ้าพิธาตกม้าตายเพราะเรื่องหุ้นคนก็ไปด่าศาล เพื่อไทยแต่งตัวหล่อๆสวยๆ รอส้มหล่นเพียวๆ จากนี้คอยจับตาดูกระบวนการสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองของเพื่อไทยจะมีมาเรื่อยๆ อาทิตย์นี้นัดมวลชนมาชุมนุมที่พรรคบ่าย 2 ประกาศกดดันให้ออกจากการร่วมรัฐบาล เกมเขาล่ะเรื่องแบบนี้ไม่มีใครสู้เพื่อไทยได้ ก้าวไกลอาจชนะเลือกตั้งแต่เกมบนกระดานการเมืองมองมุมไหนก็เสร็จฝ่ายแดงแน่นอน
////////////////////