“ทนายพัช” โผล่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปัดเอี่ยวทำลายหลักฐาน ขู่ฟ้อง “บิ๊กโจ๊ก”

โดยนางสาวธันย์นิชา ยืนยันว่า ตนไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินของ น.ส. ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย หนึ่งในเหยื่อวางยาของ แอม สรารัตน์ และไม่เคยส่งพัสดุหรือสิ่งใดทั้งนั้น พร้อมทั้งโชว์ใบแต่งทนายให้สื่อมวลชนเพื่อเป็นการยืนยันว่าตนยังคงเป็นทนายหลักในคดีของแอม แต่หากแอม ประสงค์จะตั้งทนายความสมทบก็ทำได้แต่ ทนายความที่ตั้งขึ้นใหม่จะต้องยึดแนวทางในการต่อสู้คดีและพยานหลักฐาน จากตนเอง ไม่ใช่เข้ามาโดยพลการ ซึ่งถือว่าเป็นการแย่งคดี ซึ่งถือว่าผิดมรรยาททนายความ นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าจะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ไม่ใช่เพียงตามปอ.มาตรา 157 เท่านั้นแต่จะฟ้องดำเนินคดีผิดพ.ร.บ.ซ้อมทรมานอีกด้วย

โดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เผยว่า แม้ว่าวันนี้ ทนายพัช ไม่ได้ประสานกับตำรวจมาล่วงหน้า แต่ก็สามารถเข้าพบได้ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวน และแจ้งข้อหาให้ทราบ

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เผยว่า หากภายหลังสอบปากคำเสร็จสิ้นพนักงานสอบสวน จะปล่อยตัวชั่วคราว ตามกระบวนการของกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันกับรองอ๊อฟ เนื่องจากทั้งคู่ถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันคือร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน

หากเขาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวและไปยุ่งกับพยานหลักฐาน เราก็ต้องถอนการประกันตัวชั่วคราว ซึ่งเขาเป็นทนายความคงรู้อยู่แล้ว และในคดีนี้ใครก็ตามที่กระทำผิดกฎหมาย หรือให้การช่วยเหลือ จะพูดอะไรก็พูดได้แต่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา อีกทั้งตำรวจทำงานด้วยความรอบคอบ ทำงานตามพยานหลักฐาน เราไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใคร และเรื่องก็ใกล้จบแล้ว

สำหรับคดีนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันว่า พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานแน่นหนา ที่จะดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวกับทนายความคนดังกล่าวได้ ซึ่งหากไม่มี ศาลคงไม่อนุญาตให้ออกหมายเรียกอย่างไรก็ตาม ในวัน พรุ่งนี้ ตนจะ เดินทางไปประชุมร่วมกับตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อเร่งรัดสำนวนการสืบสวนสอบสวน เตรียมขึ้นรูปคดี เพื่อสรุป สำนวน ส่งให้พนักงานอัยการพิจารณามีความเห็นทางคดี