วันที่ 27 พ.ค. 66 นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขาฯรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก “Nantiwat Samart” โดยระบุข้อความว่า หมากรุกการเมือง หากใครเคยเล่นหมากรุกไทยก็จะเข้าใจดีว่า เป็นเกมการเล่นที่ไม่ใช่แค่คนสองคนต่อสู้วางแผนเกมการเล่น เอาแพ้เอาชนะกันอยู่ แต่ยังมีกองเชียร์ กองแช่ง กองยุแยงที่ยืนเกาะกระดานอยู่ข้างๆโต๊ะกระดาน เพื่อให้ฝ่ายหนึ่งแพ้เร็วๆ กองเชียร์กองแช่งจะได้ลงมานั่งเป็นผู้เล่นแทน กองเชียร์จึงไม่ใช่ผู้หวังดีเสมอไป แต่เป็นผู้หวังร้ายตัวจริง เพราะบางทีกองเชียร์เห็นหมากกลที่ผู้เล่นไม่เห็นหรือคิดวางแผนไว้ในใจแต่ถูกกองเชียร์เอาเปิด เผยกลางกระดาน คู่แข่งเลยเห็นช่องว่างนั้น ทั้งๆที่ตอนแรกไม่เห็น ต้องขอบคุณกองเชียร์ที่อวดเก่งเหล่านั้นด้วย
วันนี้ สังคมไทยมาสู่ยุคที่ชอบสร้างวลีทางการเมือง สู้ไปกราบไป และสู้ไปโกหกไป อันไหนมันจะแรงกว่ากัน การจัดตั้งรัฐบาลไม่มีบทบัญญัติว่า พรรคที่ได้จำนวน ส.ส.สูงสุดต้องได้จัดตั้งรัฐบาล พรรคกิจสังคมเคยได้ 19 เสียง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เป็นนายกรัฐมนตรี การได้จำนวน ส.ส.มากที่สุดไม่ได้หมายความว่า จะสามารถทำอะไรได้ดั่งใจตนเอง โดยไม่ต้องแคร์หรือฟังเสียงคนอื่น การจัดตั้งรัฐบาลเป็นความพยายามในการประนี ประนอมนโยบายที่ไปด้วยกันได้