วันที่ 28 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้ร่วมแถลงจับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่บริเวณกองบังคับการตำรวจสืบสวนภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยของกลางที่ได้เป็นยาไอซ์จำนวน 150 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ซึ่งมาในรูปแบบหีบห่อเป็นห่อมีโลโก้ทุเรียนติดอยู่คาดว่าน่าจะหวังตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนรถที่ใช้ในการขนส่งยาเสพติดเป็นรถยนต์โตโยต้า เคมรี่ สีขาวหมายเลขทะเบียน กธ 3085 เพรชบุรีและรถยนต์ โตโยต้า รุ่นยารีส สีขาว หมายเลขทะเบียน ขค 1548 อุบลราชธานี เป็นรถนำ โดยได้จับผู้ต้องหาในคดีเป็นชาย 2 รายคือนายเกษร เวฬุวนารักษ์ อายุ 58 ปีและนายคำแดง จันทร์หอม อายุ 50 ปี โดยสารภาพว่าจะนำยาเสพติดที่ขนมาจากตะเข็บชายแดนเพื่อนำไปกระจายตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งก็ทางตำรวจภาค 3 เองก็สามารถสกัดจับได้และนำหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยพล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนติดตามจนพบรถยนต์ ตรงตามที่สายลับแจ้งมากำลังวิ่งอยู่บนถนน มิตรภาพ ช่วง อ.ประทาย จึงได้ประสานตู้ยามตำรวจให้ตั้งจุดสกัดแต่รถยนต์ดังกล่าวไม่หยุด จึงได้ประสานตู้ยาม บ้านโพธิ์ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ตั้งจัดสกัด จนสามารถสกัดรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้ รุ่นยารีส สีขาว หมายเลขทะเบียน จังหวัด อุบลราชธานี ได้ตรวจสอบพบนายเกษร เวฬุวนารักษ์ อายุ 58 ปี เป็นคนขับ โดยมี นายคำแดง จันทร์หอม อายุ 50 ปี เป็นคนนั่งมาด้วย ส่วนรถยนต์ อีกสองคันได้กลับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปอย่างทันที จนรถยนต์คันดังกล่าววิ่งเข้าไปภายในวัดศรีสุข ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นมีชายรูปร่างสันทัดวิ่งลงจากรถยนต์คันดังกล่าวแล้วอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไปได้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงทำการตรวจสอบภายในรถนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นเคมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียนจังหวัดเพชรบุรี พบยาเสพติดของกลางวางอยู่บนเบาะโดยสารด้านหลังรถยนต์คันดังกล่าว ตรวจสอบ พื้นที่รอบบริเวณรถยนต์พบกุญแจรถยนต์ตกอยู่ที่พื้นห่างจากรถยนต์ประมาณ 3 เมตร ซึ่งคาดว่าคนร้ายทำตก ขณะวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงแจ้งพนักงานสอบสวนและพิสูจน์หลักฐานภาค 3 ทำการตรวจยึด และนำยาเสพติดของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
สอบถามนายเกษรฯ รับว่า ตนเองรับจ้างจากนายต้า ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง เป็นคน ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จว.อุบลราชธานี ว่าจ้างให้เป็นรถยนต์นำทาง โดยนายต้าแจ้งเพียงว่าจะนำคนลาวไปส่งที่ กทม. ซึ่งกก.สืบสวน 2 ฯ จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง