จากกรณีที่สื่อบีบีซีไทย – BBC Thai ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ซึ่งสัมภาษณ์โดย โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซี ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประเด็นสำคัญ ผู้สื่อข่าวบีบีซีได้ถามถึงนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ ส.ว.ไม่สามารถให้การสนับสนุนได้ และอาจทำให้จัดตั้งรัฐบาลได้ เหตุใดไม่ชะลอประเด็นนี้ไปก่อน ซึ่งนายพิธา ได้ตอบว่า เพราะนั่นคือสิ่งที่เราสัญญากับประชาชนไว้ เรามีฉันทามติมากพอ เราได้คะแนนเสียงจากประชาชน 14 ล้านคน พวกเขาเข้าใจ และโปรงใสว่านี่เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่เราต้องการผลักดัน
ผู้สื่อข่าวบีบีซี ยังถามนายพิธาด้วยความถามที่บิดเบิดเบือนทำให้สถาบันได้รับความเสียหายด้วยว่า คุณพยายามเปลี่ยนระบบที่ฝังรากลึกของสถาบันที่ทรงพลัง สถาบันนี้ยุติอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในอดีต สั่งแบนนายกรัฐมนตรีหลายคน ไม่คิดว่าสถาบันเดียวกันนี้จะทำแบบเดียวกัน หากคุณขึ้นสู่อำนาจหรือ โดย นายพิธา ตอบว่า ถ้ามองจากข้างในออกไปข้างนอก สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในไทย แต่ผมมองจากข้างนอกเข้ามาข้างใน หลายประเทศทั่วโลกก็เคยผ่านประสบการณ์คล้ายกับไทย ยกตัวอย่าง เกาหลีใต้ อินโดนิเซีย ผมมองไปที่ประเทศเหล่านี้ แล้วเห็นการเมืองความเป็นไปได้ มันเป็นไปได้ที่จะหลุดพ้นจากวงจร แต่เมื่อกลับมาพูดถึงไทย ผมพยายามจะไม่วิตกกับมันมากนัก แต่ก็ไม่ประมาทจนเกินไป
ผู้สื่อข่าวบีบีซี ยังถามถึงหากได้เป็นรัฐบาลจนครบวาระ คิดว่าไทยจะกลายเป็นประเทศแบบไหน นายพิธา ตอบว่า เป็นประเทศที่กระจายอำนาจ มีความเท่าเทียมในด้านบริการสาธารณสุข และการศึกษา ด้านงบประมาณ การจัดเก็บภาษี นั่นคือสิ่งที่ผมอยากเห็น
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวบีบีซีถามย้ำว่า รัฐบาลในอดีตล้มเหลวที่จะไปจุดนั้น ทำไมคุณคิดว่าจะทำสำเร็จ นายพิธา กล่าวว่า เพราะผมแตกต่าง ไม่ใช่แค่ตั้งรัฐบาลผสมเพื่อทำตามเป้าหมายของผมเองให้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ผมจะเป็นรัฐบาลเพื่อประชาชน นั่นจึงเป็นเหตุว่าทำไมเราถึงมาเล่นการเมือง