“วิษณุ” ชี้คดีหุ้นไอทีวี “พิธา” กระทบสมาชิกภาพว่าที่ 152 ส.ส.ก้าวไกล

"วิษณุ" ชี้คดีหุ้นไอทีวี "พิธา" กระทบสมาชิกภาพว่าที่ 152 ส.ส.ก้าวไกล

 

 

31 พ.ค.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่าอาจมีการเลือกตั้งใหม่ หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกศาลวินิจฉัยเรื่องขาดคุณสมบัติจากกรณีถือครองถือหุ้นไอทีวี ทำให้ขัดกับคุณสมบัติการเป็น ส.ส. จะกระทบกับการเป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงการรับรองผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกลที่ผ่านมาหรือไม่ ว่า ตนตอบไม่ถูก ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ผู้ร้องว่าร้องในประเด็นใด ถ้าร้องในประเด็นว่าขาดจากการเป็น ส.ส. นายพิธา ก็สามารถเป็นนายกฯได้ เพราะนายกฯ ไม่ต้องเป็น ส.ส.ก็ได้ หรือถ้าร้องว่าขาดจากความเป็นนายกฯ ก็สามารถเป็นส.ส.ได้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“แต่ถ้าคนร้อง ร้องทั้ง 2 เรื่อง ศาลก็จะวินิจฉัยทั้ง 2 เรื่อง หรือ อาจจะกระทบไปอีกประเด็น คือการรับรองสมาชิกพรรค ฉะนั้นอยู่ที่คำร้องว่าจะร้องอย่างไร จะร้องทั้ง 3 ประเด็นเลยหรือไม่ แต่อย่าพึ่งคิดไปไกลขนาดนั้น เอาทีละประเด็น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ได้ทําอะไรเลย อย่าพึ่งคิดแง่ร้ายไว้ก่อน อย่างไรก็ตามการที่พูดแบบนี้ ไม่ใช่มาแนะนำว่าจะต้องร้องอย่างไร อยู่ที่ผู้ร้อง ร้องประเด็นไหนศาลก็วินิจฉัยประเด็นนั้น ถ้าร้อง 3 ประเด็นศาลก็วินิจฉัยทั้ง 3 ประเด็น”

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการร้องในประเด็นเรื่องสมาชิกพรรค จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ทั้งหมดหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องเลือกตั้งซ่อมใหม่ทั้งหมด

โดยนายวิษณุ ได้ยกตัวอย่างการเลือกตั้งในอดีตที่เป็นโมฆะ เพราะมีภาพการกระทำผิดพลาดเพียงหน่วยเลือกตั้งเดียว แต่ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ ซึ่งได้มีการเอ่ยถึงคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ว่า เมื่อการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2549 ได้มีการเผยแพร่ภาพข่าวของหน่วยเลือกตั้งหน่วยหนึ่ง สื่อมวลชนได้มีการถ่ายภาพบุคคลที่เป็นระดับคุณหญิงท่านหนึ่ง ขณะลงคะแนนเสียงในคูหาเลือกตั้ง ซึ่งคูหาดังกล่าวหันหลังผิดด้าน จนทำให้สื่อมวลชนสามารถบันทึกภาพขณะลงคะแนนได้ ทั้งที่ปกติ ผู้กาบัตรลงคะแนน จะต้องเข้าไปอยู่ในคูหาเลือกตั้ง

โดยผู้ลงคะแนนเสียงจะต้องหันหน้าออกหน้าหน่วย และสื่อมวลชนไม่สามารถถ่ายภาพเห็นการกาบัตรลงคะแนน แต่ในครั้งนั้น เป็นการตั้งคูหาผิด ทำให้สามารถส่องกล้องเข้าไปแล้วเห็นขณะที่กาบัตรได้ ว่าลงคะแนนให้ใคร การเลือกตั้งครั้งนั้น ไม่เป็นการลับ ถ้าทำเช่นนั้นในหน่วยหนึ่งได้ ก็จะทำได้ในอีกทุกหน่วย

 

“ผมไม่แน่ใจว่าเป็นภาพข่าวของคุณหญิงพจมานหรือไม่ แต่ในภาพข่าวนั้นเป็นคุณหญิงท่านใดท่านหนึ่ง จึงทำให้ผู้สื่อข่าว เกิดความสนใจไปถ่ายภาพ ทั้งที่คนอื่นก็เข้าไปกาบัตร แต่สื่อมวลชนก็ไม่ได้สนใจ แต่บังเอิญบุคคลนั้นเป็นคุณหญิง ผู้สื่อข่าวจึงสนใจ และผู้สื่อข่าวก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะไปจับภาพ แต่บังเอิญการจัดคูหาเช่นนั้นทำให้มองเห็นได้ จึงเกิดข้อสังเกตว่าถ้าทำอย่างนี้ได้หน่วยหนึ่ง ก็จะทำได้ทุกหน่วย ในคราวนั้นจึงทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่กันทั้งประเทศ”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น