“หมอเหรียญฯ” โพสต์ชื่นชม “เจ้าสัวบุณยสิทธิ์” ทุกคำอย่างทัชหัวใจ

"หมอเหรียญฯ" โพสต์ชื่นชม "เจ้าสัวบุณยสิทธิ์" ทุกคำอย่างทัชหัวใจ

 

 

2 มิ.ย.2566 พลตรีนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และ ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “เหรียญทอง แน่นหนา” ระบุว่า ผมไม่รู้จักคุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เป็นการส่วนตัว แต่ได้เห็นความชัดเจนของท่านที่มีต่อแผ่นดิน ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด

 

 

ทั้ง ๆ ที่ท่านมีความสุขส่วนตัวอย่างมากล้นอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นส่วนตัวใด ๆ ที่จะต้องหาเรื่องเสี่ยง ต้องมาเผชิญกับความสามานย์ กักขฬะของขบวนการบั่นทอนความมั่นคง แต่การแสดงออกของท่านนั้นรับรู้ได้ว่าความมั่งคั่งและความสุขส่วนตัวของท่านนั้นยังไม่สำคัญเท่ากับความมั่นคงของชาติและพระมหากษัตริย์ ท่านจึงกล้าแสดงออกถึงความชัดเจน

ผมขอแสดงความคารวะคุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ไว้ ณ โอกาสนี้ครับ

ขอแสดงความเคารพนับถือ
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผู้อำนวยการ รพ.มงกุฎวัฒนะ
2 มิ.ย.66 เวลา9.00 น.

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยก่อนหน้านี้ นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ได้กล่าวถึงประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ รวมถึงนโยบายของพรรคการเมือง อาทิ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น นายบุณยสิทธิ์ กล่าวว่า เครือสหพัฒน์เป็นพ่อค้า จะต้องสามารถปรับตัวได้ทุกรัฐบาล ถ้ามีการปรับขึ้นค่าแรง ก็ต้องทำให้ของทุกอย่างไม่ขึ้นราคาตามค่าแรง ซึ่งเครือสหพัฒน์ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนมาก็ให้ความร่วมมือ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเรา ส่วนการค้า การขาย ยอมรับว่า ยากขึ้นทุกปี และไม่มีง่าย แต่อยู่กับการปรับตัวต้องให้ทันเหตุการณ์ ก็อาจจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส แต่หากปรับตัวช้าก็จะเป็นส่วนเสีย โดยยุคนี้เป็นยุคของคนอีกรุ่นทำงาน ไม่ใช่ยุคของคนสูงอายุที่จะทำงาน

 

 

นายบุณยสิทธิ์ ระบุว่า ในการปรับตัวของเครือสหพัฒน์ ได้มีการปรับคนรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาหมดแล้ว โดยรุ่นเก่า ๆ ก็ไม่ค่อยมีอยู่ในธุรกิจ อย่างเช่นตัวตนเองก็ไม่ได้ยุ่งกับธุรกิจ ปล่อยให้ลูก ๆ หลาน ๆ คนรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาดูแล

ตนเองไม่ห่วงเกี่ยวกับเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลและรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เพราะไม่ว่าใครจะมาเราก็ต้องปรับตัว แต่กลัวที่สุดคือ อย่าทำให้ประเทศเป็นเหมือนเช่นประเทศยูเครน และหากรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ มองว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่รัฐบาลใหม่จะต้องดำเนินการคือ การเข้ามาพัฒนาเศรษฐกิจ ไม่ใช่การขึ้นค่าแรง แต่พัฒนาเศรษฐกิจ ให้คนมีการศึกษา มีงานทำ และไม่ว่างงาน อาทิ ภาคการเกษตร ที่จะต้องทำให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น แรงงานภาคเกษตรก็จะไม่ไหลเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม และไม่มีคนว่างงาน แทนการขึ้นค่าแรงที่จะส่งผลกระทบกับภาคการท่องเที่ยวของไทย

พร้อมยอมรับว่า หากประเทศไทยมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาทต่อวัน ในส่วนของพาร์ทเนอร์ญี่ปุ่นที่มาลงทุนในประเทศไทย ค่อนข้างมีความเป็นห่วงในเรื่องการลงทุน หากค่าแรงของไทยสูง อาจจะมีการยกขบวนทั้งหมดย้ายไปยังประเทศเวียดนาม อาทิ อุตสาหกรรมเสื้อผ้า ที่มีการย้ายไปประเทศเวียดนามแล้ว

ส่วนนโยบายทลายทุนผูกขาด เก็บภาษีความมั่งคั่งของพรรคก้าวไกล นายบุณยสิทธิ์ ระบุว่า ในเครือสหพัฒน์ ไม่มีความกังวลในเรื่องนี้ เพราะเป็นการเก็บทุกคนจะกลัวทำไม

ส่วนมิติภูมิรัฐศาสตร์โลก หากมีการเลือกข้างสหรัฐมากเกิดไปจะส่งผลกระทบกับการค้าขายประเทศจีนหรือไม่ และควรจะสร้างความสมดุลอย่างไร นายบุณยสิทธิ์ ระบุว่า ทั้งหมดมีแบคอัพ หรือบางพรรคมีทีมเบื้องหลัง มีคนหนุนหลัง เพราะคนที่เรียนที่สหรัฐก็จะรู้สึกว่า สหรัฐดี คนที่เรียนที่ประเทศจีนก็จะรู้สึกว่าประเทศจีนดี ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่สำคัญที่สุดคือ อย่านำประเทศไปเหมือน เช่น ประเทศยูเครน ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างมาก

 

ทั้งนี้ การปรับตัวของสหพัฒน์ไม่ใช่เพิ่งปรับตอนนี้ แต่ทำมา 10 ปีแล้ว โดยสิ่งที่ควรให้สำคัญตอนนี้ คือ สิ่งแวดล้อม ที่จะต้องทำให้ดีขึ้น รวมถึงทำให้สินค้าถูกลง เพราะตอนนี้เงินเฟ้อทั่วโลก ทำให้ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่เราจะต้องทำยังไงให้สินค้าไม่ขึ้นราคาและถูกลงให้แก่ผู้บริโภค โดยสมัยก่อนพ่อของผม โตแล้วแตก แตกแล้วโต ยุคนี้หลวมแล้วใหญ่ ใหญ่แล้วหลวม ก็คือต้องเอาหลาย ๆ กรุ๊ปหลายฝ่ายมาร่วมมือกัน เพื่อให้เศรษฐกิจไทยไปได้รอดต่อ

ขณะที่การตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า ไม่ได้กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของสหพัฒน์ โดยเข้าใจว่าเศรษฐกิจประเทศไทยยังดีกว่าประเทศอื่น ๆ ก็ดำเนินการต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : “เจ้าสัวบุณยสิทธิ์” ยันศก.ไทยดีกว่าหลายชาติ มั่นใจศักยภาพท่องเที่ยว เตือนรัฐบาลใหม่อย่าทำประเทศเหมือนยูเครน ระวังค่าแรง 450 กระทบย้ายฐานผลิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น