จากกรณีเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว กรณีมีการเผยแพร่หนังสือของ นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตยานนาวา ขอย้ายข้าราชการในสำนักงานเขตยานนาวา 4 คน ว่า เป็นหนังสือที่ นายพุทธิพัชร์ ส่งมาให้จริง โดยให้เหตุผลว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่ครั้งแรก มีบ่อยครั้งที่ ส.ก. จะแจ้งเรื่องหรือโทรศัพท์มาปรึกษากับตนเอง ซึ่งเป็นประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม.
ทั้งนี้ การทำงานร่วมกันอาจมีความเห็นต่างและขัดแย้งกันบ้าง ก็จะส่งมาหารือเป็นประจำ และตนก็จะดูว่าเรื่องไหนที่จะต้องคุยและปรับให้มีความเข้าใจต่อกัน ไม่ได้รับหนังสือของ นายพุทธิพัชร์ เป็นคนแรก แต่ นายพุทธิพัชร์ อาจมองเป็นมิติการบริหารของท้องถิ่นและในระดับสภา กทม. ที่ไม่ตรงกัน บทบาทและหน้าที่ของ ส.ก. ระบุไว้ชัดเจนว่าเรื่องไหนสามารถทำได้และทำไม่ได้ในการบริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบัน กทม. กำลังจะยกระดับเพื่อปรับปรุงระเบียบข้อบังคับให้มีความทันสมัยหลังจากที่มีการร่างข้อบังคับมาตั้งแต่ปี 2528 เนื่องจากระเบียบบางข้อยังมีความล้าหลัง แต่หากแก้ไขแล้วหน้าที่ของแต่ละฝ่ายก็จะระบุไว้ชัดเจน
ส่วนจะเป็นเรื่องการทุจริตหรือไม่นั้น นายต่อศักดิ์ ระบุว่าไม่ทราบ ต้องว่าไปตามเอกสาร บางทีข่าวที่ปรากฏตามโซเชียลมีเดียต้องไปสืบหาข้อเท็จจริง บางที ส.ก. อยากให้งานได้ทำเร็วแต่ในระบบของฝ่ายบริหารทำไม่ได้ เพราะระเบียบข้อบังคับและอำนาจหน้าที่ที่มี ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เมื่อเรื่องถูกเปิดเผยออกมาแล้วเชื่อว่าทางสภากรุงเทพมหานครจะไปดำเนินการต่อ แต่ฝ่ายบริหารก็จะตรวจสอบเช่นกัน โดยในการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. อาจจะพูดคุยเรื่องนี้
ส่วนคำถามที่ว่า นายพุทธิพัชร์ ซึ่งเป็น ส.ก. สามารถใช้อำนาจในการขอย้ายข้าราชการในสำนักงานเขตได้หรือไม่ นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า ในระเบียบของข้าราชการกรุงเทพมหานครมีการระบุไว้ชัดเจนว่า การจะย้ายหรือขอย้ายใครต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอน จะไปขอย้ายหรือสั่งย้ายใครไม่ได้ หากเรื่องไหนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริต ผู้ว่าฯ กทม. สั่งชัดเจนว่าต้องเอาเข้ากระบวนการสอบสวนของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ฉะนั้น กระบวนการมันจะมีความชัดเจนหมด
ขณะประเด็นที่ว่า ส.ก. คนนี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับการทุจริตฮั้วประมูลหลายโครงการในเขตพื้นที่ แต่เมื่อข้าราชการไม่ปฏิบัติตามจึงสั่งย้ายหรือไม่นั้น ต้องไปตรวจสอบ และย้ำว่าจะไม่ปล่อยอย่างแน่นอน หลังเกิดเรื่อง นายชัชชาติ ได้มอบหมายให้รองปลัด กทม. ไปดูแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ วันพรุ่งนี้เปิดราชการมาวันแรกก็จะดำเนินการต่อทันที หากเรื่องไหนตรวจสอบแล้วส่อเป็นการกระทำผิด ก็จะให้คณะกรรมการชุดของ นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. ไปดำเนินการต่อ
“ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ก็กำชับว่าต้องตรวจสอบให้รอบคอบทุกฝ่าย ส.ก. ก็ถือเป็นบุคคลที่มีเกียรติ ได้รับเลือกมาจากประชาชนในกรุงเทพฯ ใกล้ชิดกับประชาชน ส่วนข้าราชการของกรุงเทพฯ ก็ต้องดูแล ไม่ใช่ว่าใครจะมารังแกไม่ได้ จะทำอะไรก็ทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน”