"พระบรมราชโองการ" เผยแพร่ประกาศสำนักฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดยศตำรวจเรียกคืนเครื่องราชฯ 10 ราย เนื่องจาก กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ข่าวที่น่าสนใจ
“พระบรมราชโองการ” โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศ ข้าราชการตำรวจออกจากยศตำรวจ จำนวน 10 ราย ตามมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ประกอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ. 2565
ข้อ 4 (4) และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ 6 และข้อ 7 (4) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2548 ดังนี้
1. พันตำรวจโท ปุณณวิชช์ กระแสร์
- ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่า ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อาวุธปืน ใช้รถยนต์เป็นพาหนะบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน
- หน่วงเหนี่ยวกักขัง ต่อเนื่องกัน และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา
2. พันตำรวจตรีศักรินทร์ หลำเอียด
- ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2560 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจาก กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก และกระทำการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
- โดยมีพฤติการณ์ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเจ้าพนักงานตำรวจที่มีหน้าที่รักษากฎหมายแต่กลับใช้โอกาสนี้กระทำผิดกฎหมายเสียเอง
- และกระทำผิดอาญาหลายคดี และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภทที่ 2 เหรียญราชการชายแดน และเหรียญทองช้างเผือก
3. พันตำรวจตรีวัฒนา นวลศรีดำ
- ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2561 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจาก กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์อันมิควรได้
- กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงกระทำการหรือละเว้นการกระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ระบบราชการอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก
4. ร้อยตำรวจเอก ปฏิภัสส์ ยกประสพรัตน์
- ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจาก กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จัดหาหรือให้เงินหรือทรัพย์สิน ยานพาหนะ สถานที่ หรือวัตถุใด ๆ เพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวก แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
- รับเงินหรือทรัพย์สินจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และคบค้าเป็นอาจิณ กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยรู้หรือควรจะได้รู้ว่าผู้นั้นเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเฉพาะในการกระทำ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก
5. ร้อยตำรวจเอก ภาณวุฒิ ถนอมสิงห์
- ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจาก กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำผิดอาญาในความผิด ฐานร่วมกันลักทรัพย์จนได้รับโทษจำคุกหรือโทษที่หนักกว่าจำคุก
- โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญทองช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา
6. ร้อยตำรวจโท สายลม รอดอุปโป
- ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจาก กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อ ในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน
- โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญราชการชายแดน
7. ร้อยตำรวจโท มีชัย ช่อสม
- ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจาก กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
- และถูกดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
- มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญราชการชายแดน
8. ร้อยตำรวจตรีวิเชียร มะลิคง
- ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2557 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจาก กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
- และถูกดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานร่วมกันมีไว้ เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งที่ตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นเงินตราปลอมหรือแปลง และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และมีสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) อยู่ในร่างกายขณะขับรถ
- และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภทที่ 2 เหรียญราชการชายแดน และเหรียญทองช้างเผือก
9. ร้อยตำรวจตรีบุญลือ สุคลธา
- ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจาก กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงและกระทำผิดอาญาฐานมีไม้หวงห้าม (ไม้สัก) อันยังมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต
- มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย เป็นผู้ขับขี่รถ ในขณะมีสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) อยู่ในร่างกาย และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเหรียญทองช้างเผือก
10. ร้อยตำรวจตรีสุรพล เจะจาโรจน์
- ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจาก กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
- และถูกดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และเรียกคืนเหรียญราชการชายแดน
ทั้งนี้ ข้าราชการตำรวจทั้ง 10 รายดังกล่าว เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว
ข้อมูล : ratchakitcha
ข่าวที่เกี่ยวข้อง