“อัษฏางค์” เปิดคลิปเบื้องหลังปลุกปั่นอธิปไตยปาตานี ตั้ง 4 คำถามใครชนวนเหตุ รัฐบาลใหม่มีจุกอก

"อัษฏางค์" เปิดคลิปเบื้องหลังปลุกปั่นอธิปไตยปาตานี ตั้ง 4 คำถามใครชนวนเหตุ รัฐบาลใหม่มีจุกอก

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค”  ระบุว่า

4 คำถามจากสังคมไทย
1. ใครชวนให้คนคิดเรื่องแบ่งแยกดินแดน
2. ใครสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน
3. เรากำลังจะมีรัฐบาล ที่สนับสนุน ส่งเสริมให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน หรือไม่
4. สังเกตเห็นอะไรมั้ยว่า เรื่องที่ไม่เคยเป็นเรื่อง เรื่องที่เป็นเรื่องปกติธรรมดาในเมืองไทยตลอดมา ถูกคนกลุ่มไหนทำให้มันกลายเป็นเรื่องเป็นปัญหา กลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดา เพราะใคร?

พิธาสกี้
พิธาพูดถึงปลดล็อกท้องถิ่นว่า ให้คน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เลือกนายกฯจังหวัดของตนเอง และงบประมาณของท้องถิ่นต้องให้ท้องถิ่นจัดการเอง ไม่ต้องส่งให้กรุงเทพเก็บไว้ หรือให้ส่วนกลางจัดการ

ฟังดูเหมือนจะดีทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อชาวบ้านไม่รู้เรื่องการเงินการคลังและการบริหารราชการแผ่นดิน ก็อาจคล้อยตามว่า เงินภาษีจากท้องถิ่นส่งไปเก็บไว้ที่กรุงเทพทำไม เอาไปส่งส่วนกลางทำไม แล้วส่วนกลางส่งกลับมาบำรุงท้องถิ่นแค่ไหน เท่าเดิมหรือน้อยกว่าที่ส่วนท้องถิ่นส่งไปส่วนกลางหรือไม่

เพจ CasteR G TROY ให้ข้อมูลว่า จังหวัด ปัตตานี ยะลา นราธิวาส แต่ละจังหวัด เก็บภาษีได้น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นทั้ง 3 จังหวัดรวมกันก็ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท
โดยทั้ง 3 จังหวัดดังกล่าวยังต้องรับงบประมาณจากส่วนกลางในแต่ละปี จังหวัดละประมาณ 5,000 ล้านบาท รวมกันทั้ง 3 จังหวัด งบประมาณจากส่วนกลางที่ส่งไปให้ทั้ง 3 จังหวัดตกประมาณ 15,000 ล้านบาทต่อปี

ตกลงภาษีจากท้องถิ่นทั้ง 3 จังหวัดส่งมาเลี้ยงส่วนกลาง หรือส่วนกลาง อันหมายถึงเงินภาษีจากงบประมาณทั้งประเทศต้องส่งไปเลี้ยงส่วนท้องถิ่นทั้ง 3 จังหวัดนั่น

นี่แหละวิสัยทัศน์ของพ่อพระเอกลิเก

ถ้าทำตามวิสัยทัศน์ของพ่อพระเอกลิเก จังหวัดที่เก็บภาษีได้น้อย เช่น ปัตตานี ยะลา นราธิวาส จะเอางบเงินตรงไหนไปพัฒนาหรือดูแลประชาชน ถ้ามีนโยบายให้ท้องถิ่นจัดการเองโดยการใช้งบประมาณของตนเองในท้องถิ่น

ไอ้นโยบาลหาเสียงแบบนี้หรือไม่ ที่ทำให้เกิดความแตกแยก ที่ทำให้คนในท้องถิ่นเข้าใจผิดว่า ต้องส่งส่วย ส่งเสีย ส่งภาษีในท้องถิ่นของตนให้กับส่วนกลาง

ทั้งที่ส่วนกลางต้องใช้เงินภาษีจากคนทั้งประเทศแบ่งไปดูแลท้องถิ่น ซึ่งมันคือการกระจายความเสี่ยง กระจายอำนาจการบริหารอย่างแท้จริง

 

ธนาธรธิปไตย
ธนาธรพูดเรื่องเชื้อชาติกับคนชายแดน 3 จังหวัดทางใต้ทำไม มีจุดประสงค์ใด ในบัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้านหรือสำมะโนประชากรของธนาธร ถือสัญชาติไทย โดยมีเชื้อชาติไทยหรือจีน การมีเชื้อชาติอื่นนอกจากเชื้อชาติไทยตรงๆ เป็นปัญหาและอุปสรรคในการดำรงชีวิตในประเทศไทยจริงหรือ?

ไปดูให้ดีๆ คนที่ได้ชื่อว่าคนไทย ที่อยู่ในเมืองไทย จำนวนมากมายมหาศาลมีที่มาจากเชื้อชาติอื่นๆ อย่างหลากหลายมาตั้งแต่สมัยโบราณนับตั้งแต่มีอาณาจักรไทย เรามีคนไทยเชื้อสายจีน อินเดีย ปากีสถาน รัสเซีย อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น มอญ มลายู และอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน หรือในสิงค์โปร์และมาเลเซียก็รู้กันว่ามี 3 เชื้อชาติหลักคือ มลายู จีน และอินเดีย

คำถามคือสังคมไทยเคยมีประวัติ การต่อต้าน ดูหมิ่น เหยียดหยาม รังเกียจ แบ่งแยกคนเชื้อชาติอื่นๆหรือ มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือตั้งแต่คุณชี้นำให้แบ่งแยก สังเกตเห็นอะไรมั้ยว่า เรื่องที่ไม่เคยเป็นเรื่อง เรื่องที่เป็นเรื่องปกติธรรมดาในเมืองไทยตลอดมา ถูกคนกลุ่มไหนทำให้มันกลายเป็นเรื่องเป็นปัญหา กลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดา เพราะใคร?

หลักในทางกฎหมายในการกําหนดสัญชาติของบุคคล หลั ที่สําคัญ 2 ประการคือ หลักดินแดน (jus soli) และหลักสืบสายโลหิต (jus sanguinis)

หลักดินแดนถือว่าบุคคลที่ถือกําเนิดขึ้นภายใต้ดินแดนของรัฐย่อมจะได้สัญชาติโดยการเกิด ส่วนหลักสืบสายโลหิต ถือว่าบุคคลจะได้สัญชาติสืบต่อจากบิดาและมารดา หรือทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ประเทศส่วนใหญ่ในปัจจุบันยึดถือการกําหนดสัญชาติโดยอาศัยทั้งหลักดินแดนและ

หลักสืบสายโลหิตประกอบกัน การมีสัญชาติเป็นการหลอมรวมผู้คนที่แม้จะมีความแตกต่างทางวัฒนธรรมเข้ามาอยู่ ในนานาอารยะประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษและทุกประเทศในยุโรป ก็มีคนจากหลายหลายเชื้อชาติมาอยู่รวมกัน ภายใต้สัญชาติอเมริกัน หรือออสเตรเลียน อังกฤษหรือประเทศในยุโรปต่างๆ เชื้อชาติไม่ได้เป็นปัญหาและอุปสรรค จนกระทั่งมีบางคนบางกลุ่มเสี้ยมว่ามันเป็นปัญหาหรือไม่?

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ก่อนหน้านี้ ธนาธร เคยไปพูดเรื่อง กบฎ 7 หัวเมืองภาคใต้ ด้วยข้อมูลที่บิดเบือนไปจากความจริง คืออะไร จุดประสงค์ของการพูดเรื่องนี้ของธนาธรคืออะไร “เพจฤา” ซึ่งเป็นเพจประวัติศาสตร์ ได้ให้ข้อเท็จจริงไว้ดังต่อไปนี้

กรณี “กบฏ 7 หัวเมืองภาคใต้” คืออีกหนึ่งเหตุการณ์ที่มีนักวิชาการบางคนชอบเอามาบิดเบือนและโจมตีว่า การปฏิรูปบ้านเมืองในสมัย ร.5 หรือที่เรียกว่า “การรวมศูนย์อำนาจรัฐราชการสมัยใหม่” เป็นการล่าอาณานิคมของสยาม และพยายามแทรกแซงกดขี่คนท้องถิ่น

ข้อเท็จจริงข้อแรกคือ การล่าอาณานิคมของพวกฝรั่ง กับ การรวมศูนย์อำนาจ (centralization) ในสมัย ร.5 ในทางรัฐศาสตร์นั้นเป็นคนละเรื่องกัน

การปฏิรูปบ้านเมืองของ ร.5 เป็นการสร้างมาตรฐานให้เหมือนกันทั้งประเทศ ทั้งระบบราชการ การศึกษา ภาษี ฯลฯ โดยเปลี่ยนจากการปกครองในรูปแบบเก่าหรือแบบจารีตมาเป็นแบบรัฐราชการสมัยใหม่ ซึ่งแต่ละหัวเมืองก็ยังคงมีเจ้าเมืองปกครองอยู่ ไม่ใช่การเข้ามายึดเป็นเมืองขึ้นแล้วดูดกลืนทรัพยากรออกไปเหมือนการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก

และกรณีของกบฏ 7 หัวเมือง สาเหตุจริงๆ เกิดจากการที่รายาหรือกลุ่มเจ้าเมืองต่างๆ ต้องเสียผลประโยชน์ที่เคยได้รับก่อนหน้าที่จะมีการปฏิรูประบบภาษีโดยรัฐบาลสยาม ซึ่งเรื่องนี้ยังเขียนไว้ในเอกสารในหอจดหมายเหตุแห่งชาติด้วยว่า แต่เดิมรายาเหล่านี้เก็บภาษีชาวบ้านแบบขูดรีดเพื่อเอาเงินเข้าตัว เมื่อมีการเปลี่ยนระบบภาษีก็ทำให้พวกเขาเสียผลประโยชน์และลุกขึ้นก่อกบฏ จนรัฐบาลสยามต้องเข้ามาจัดการ และเป็นการจัดการเฉพาะตัวเจ้าเมืองที่ก่อปัญหาเท่านั้น โดยไม่เกิดการนองเลือดขึ้นกับประชาชน

ซึ่งเจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองก็เป็นเพียงแค่รายาที่แต่งตั้งโดยทางสยาม ไม่ใช่สุลต่านหรือกษัตริย์ในท้องที่นั้นๆ เรื่องนี้แม้แต่อังกฤษที่มีอิทธิพลเหนือดินแดนมลายูยังยอมรับว่า อำนาจการปกครองของ 7 หัวเมืองนั้นอยู่ที่สยามมาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ใช่อยู่ที่บรรดาเจ้าเมืองต่างๆ

ดังนั้นการบอกว่า “สยามล่าอาณานิคม” จึงเป็นเรื่อง “โกหก” และใครที่พยายามปั่นเรื่องนี้อยากให้ลองเข้าไปศึกษาข้อเท็จจริงในคลิปวิดีโอนี้ดูก่อน ไม่ใช่สักแต่ออกมาพูดมั่วๆ ให้คนอื่นเข้าใจผิด

 

 

หลังจากพิธาและธนาธร ปูทางเรื่อง 3 จังหวัดชายแดน หรือไม่ “เป็นข้อสงสัยและคำถามจากสังคม” ที่ทำให้ล่าสุดเกิดการขบวนนักศึกษาแห่งชาติขอเอกราชแบ่งแยกดินแดน แล้วหลังจากฝ่ายความมั่นคงแถลงการณ์ว่านั้นคือการทำผิดกฏหมาย ก้าวไกล-7 พรรคก็ชิง แถลงข่าวว่าไม่เห็นด้วยกับ องค์กรนักศึกษาสามจังหวัดชายแดนใต้

คณะทำงานย่อยพรรคร่วมรัฐบาล ว่าด้วยสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี ซึ่งเป็นคณะทำงานย่อยของพรรคร่วมรัฐบาลมีการประชุมนัดแรกที่พรรคก้าวไกล โดยมีนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค นายรอมฎอน ปันจอร์ ว่าที่ ส.ส. พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้พูดถึงกรณีเปิดตัวขององค์กรนักศึกษาสามจังหวัดชายแดนใต้ ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ ในนามของว่าที่รัฐบาลใหม่ ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการแยกตัวออกไปของรัฐปัตตานี (ปาตานี)

ท่านหรือไม่ที่เลือกพิธา เลือกก้าวไกลให้เป็นว่าที่รัฐบาล และว่าที่รัฐบาลจากพรรคพวกนี้ “หรือไม่”ที่มีพฤติกรรมยุยง สนับสนุน ส่งเสริมให้เกิดการแย่งแยกดินแดน “หรือไม่”

ประชาชนคนไทยอย่างท่านใช่มั้ยที่ส่งเสริม สนับสนุน นักการเมืองที่ทำให้ให้ไทย แตกแยก ออกเป็นประเทศเล็กประเทศเล็กประเทศน้อย

เรากำลังจะมีรัฐบาล ที่สนับสนุน ส่งเสริมให้เกิดการแบ่งแยกดินแดน หรือไม่

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมีย-แม่ยาย หอบเงินล้าน บุกติดสินบนตำรวจ ช่วยผัวค้าเฮโรอีน สุดท้ายถูกซ้อนแผนโดนรวบตัว
ไทยตอนบนอากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ใต้เจอฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม. มีหมอกบางตอนเช้า ร้อนสุด 31 องศา
ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น