ศาลสั่งจำคุก “เพนกวิน” กับพวกรวม 12 คน ผิดม.116 คดีจัดชุมนุมเยาวชนปลดแอก ปี 63

ศาลสั่งจำคุก "เพนกวิน" กับพวกรวม 12 คน ผิดม.116 คดีจัดชุมนุมเยาวชนปลดแอก ปี 63

12 มิ.ย.2566 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน กับพวก รวม 12 ราย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา มาตรา 116, มาตรา 215 วรรคสาม และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เเละความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองในนามกลุ่มเยาวชนปลดแอก จัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 18 ก.ค. 63 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยใช้หัวข้อเรื่อง “ใครไม่ทนให้ไปกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย”

 

 

โดยศาลอาญาพิจารณาแล้วว่า การที่จำเลยทั้ง 12 คน เข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมลงมาบนถนนราชดำเนินกลางในลักษณะเดินลงมาบนพื้นผิว จราจรเต็มพื้นที่บนถนนราชดำเนินกลางบริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ และติดตั้งเวทีบนถนนราชดำเนินกลางบริเวณขอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และมีการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจำเลยที่ 1-8 และที่ 10,11 ได้สลับกันขึ้นพูดปราศรัยบนเวที โดยไม่ได้คำนึงว่าจะเป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และกฎหมายใด ๆ อันเป็นการแสดงให้ปรากฏต่อ ประชาชน ด้วยวาจาหนังสือ หรือวิธีการอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำ ในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดย สุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน แต่ลักษณะการกระทำยังไม่ส่อเจตนาว่าเป็นการทำถึงขนาดเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือ กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร

ข่าวที่น่าสนใจ

พิพากษาว่า จำเลยทั้ง 12 มีความผิดตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 19,57พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 114 วรรคหนึ่ง, 148 วรรคหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (3), 215 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยทั้ง 12 เป็นความผิดหลาย กรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดบนถนน อันเป็นการกีด ขวางการจราจร และกีดขวางทางสาธารณะ เป็นกรรมเดี่ยวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ฯ มาตรา 19,57 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ปรับจำเลยทั้ง 12 คนละ 1,000 บาท ,ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นกระทำให้เกิดการวุ่นวายในบ้านเมือง กับฐานกระทำให้ปรากฏ แก่ประชาชนด้วยวาจาเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ,ลงโทษฐานกระทำให้ปรากฏ แก่ประชาชนด้วยวาจา เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมจำคุกจำเลยทั้ง 12 คนละ 2 เดือน และปรับคนละ 2,000 บาท

ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสิบสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เห็นควรให้รอการลงอาญาจำคุกไว้ 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30

ยกฟ้องความผิด ฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดฯและฐานใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อโคโรนา 19 จึงสามารถจัด กิจกรรมการชุมนุมได้เพียงแต่ข้อกำหนดฯบังคับให้ผู้จัดการชุมนุมต้องมีมาตรการป้องกันโรคเท่านั้น และการขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียงเป็น หน้าที่ของผู้จัดการชุมนุมเท่านั้น

พยานหลักฐานโจทก์รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้ง 12 เป็นผู้จัดการชุมนุม จึงไม่มีความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดฯและ ไม่มีความผิดฐานใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย ทางนำสืบของ โจทก์ไม่ปรากฏชัดว่าจำเลยคนใดเป็นผู้กระแทกแผงเหล็กใส่ผู้เสียหาย จึงลงโทษจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานนี้ไม่ได้

ในส่วนของจำเลยที่ 9 เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังว่าข้อความตามป้ายที่จำเลยที่ 9 ถ่ายภาพโพสต์ลงในเฟซบุ๊คยังไม่ถึงขนาดที่จะส่อเจตนาเพื่อก่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้าง กระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร จำเลยที่ 9 จึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

 

 

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้จำเลยส่วนใหญ่เป็นแกนนำนักกิจกรรมทางการเมืองประกอบด้วย นาย พริษฐ์ ชิวารักษ์, นายภาณุพงศ์ จาดนอก, นายอานนท์ นำภา, น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์, นายกรกช แสงเย็นพันธ์, น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก, นายบารมี ชัยรัตน์, นายเดชาธร บำรุงเมือง, นายธานี สะสม, นายธนายุทธ ณ อยุธยา, นายทศพร สินสมบุญ เเละ น.ส.เนตรนภา อำนาจส่งเสริม นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พาณิชย์–DITP" จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าระหว่าง ผู้ส่งออกสินค้าน้ำตาล-น้ำตาลแปรรูปกับผู้นำเข้าฟิลิปปินส์
“การรถไฟฯ” แจง ผลตรวจเหล็ก สร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน
"ผบ.ทบ." เยี่ยมหน่วยตรวจเลือกทหารภาคใต้ ย้ำทุกกระบวนการยึดตามระเบียบ โปร่งใส
นาทีเดือด "กลุ่ม ศปปส." ปะทะ "แกนนำกลุ่มแรงงานพม่า Bright future" หลังจะมาตั้งม็อบประท้วงหน้า UN
"กรมทางหลวงชนบท" โร่แจง ไม่เคยเป็นคู่สัญญากับ "บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 "
"ก.แรงงาน" เตรียมถกแนวทาง "หลักประกันค่าชดเชย" กรณีถูกเลิกจ้าง 9 เม.ย.นี้
จนท.นำเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่โซน B ได้แล้ว ลุยตัดสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่
วอร์รูม “ก.แรงงาน” เร่งเครื่องจ่ายเงินเยียวยา เหยื่อแผ่นดินไหวแล้ว 17.4 ลบ.
"ดีอี" เตือนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปลอม “สัญญาณเตือนสึนามิ น้ำทะเลภูเก็ตลดฮวบ หลังแผ่นดินไหวเกาะสุมาตรา”
วินาศสันตะโร รถชนกันสนั่น 7 คันรวด น้ำมันหกเต็มถนนพหลโยธิน มีผู้บาดเจ็บ 6 ราย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น