เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณากรณีกกต. ตั้งคณะกรรมการไต่สวนเอาผิดนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ฐานรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา 151 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เนื่องจากถือหุ้นสื่อโดยเป็นคำชี้แจงของนายพิธา ที่โพสต์บนเฟสบุ๊คส่วนตัวต่อกรณีดังกล่าว และรายงานการโอนหุ้นไอทีวีของนายพิธาไปยังนายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ซีอีโอ อกริฟู้ด จำกัด หรือน้องชาย เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 66 สำเนาหมายเหตุประกอบงบการเงิน ของบริษัทไอทีวี เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 66
“สมชัย” ยกหลักฐาน “เรืองไกร” ยัน “พิธา” โอนหุ้นไอทีวีไม่ใช่ “สละมรดก”
ข่าวที่น่าสนใจ
นายเรืองไกร กล่าวว่า เห็นว่าการตั้งคณะกรรมการไต่สวนตามมาตรา 51 ของ กกต. ควรจะมีการพิจารณาหลักฐานเหล่านี้ ทั้งการชี้แจงของนายพิธาผ่านเฟสบุ๊คซึ่งต้องให้ความเป็นธรรม หรือการที่นายพิธา จำไม่ได้ว่าโอนหุ้นเมื่อไหร่ซึ่งตนพบว่ามีการโอนหุ้นในวันที่ 25 พ.ค. 66 จึงนำหลักฐานมายื่นต่อกกต. และหมายเหตุประกอบงบการเงินไตรมาส1 ฉบับวันที่ 31 มี.ค. ซึ่งมีการระบุชัดว่าวันที่ 24 ก.พ. 66 มีการทำธุรกิจสื่อ โดยมีการระบุว่าจะรับรู้รายได้ไตรมาส 2 ซึ่งธุรกิจสื่อตรงนี้เป็นงานบริการ ต้องมีการส่งมอบก่อนจึงจะรับรู้รายได้ ทำให้มีการระบุว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 2
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความว่า หลักฐาน การโอนหุ้น ที่เรืองไกร ยื่นต่อ กกต. เพิ่ม เมื่อวาน (วันที่ 13 มิถุนายน 2566) เป็น “การโอน” ไม่ใช่ “การสละมรดก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง