วันที่ 14 มิ.ย. 66 ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคําพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” กับพวกรวม18 คนเป็นจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 215, 360 พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 และข้อกำหนดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการห้ามชุมนุม มั่วสุม ทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด”
นายจตุภัทร์ กล่าวว่า ที่จริงแล้วพวกเราทุกคนไม่ควรที่จะโดนคดีด้วยซํ้า เนื่องจากเป็นคดีทางการเมืองและยอมรับว่าส่วนตัวกังวลในทุกคดี ซึ่งรัฐบาลใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการสลายการชุมนุมในช่วงปี พ.ศ.2563 – 2564 และในวันนี้จําเลยทั้ง 18 คน มากันครบและพร้อมที่จะรับฟังคําพิพากษา หากศาลตัดสินอย่างไรก็น้อมรับคําตัดสินทุกประการและพร้อมสู้ต่อตามกฎหมาย
พร้อมจี้ไปยัง รัฐบาลใหม่ ควรปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพราะวันนี้ครบรอบ 1 เดือน ที่ กกต. ยังไม่รับรองผลรัฐบาลใหม่ ซึ่งประชาชนต้องช่วยกันติดตามเพราะว่าทําให้เสียโอกาสในการแก้ไขปัญหาต่างๆและการพัฒนาประเทศชาติ ซึ่งไม่มีประเทศในโลกที่เป็นแบบนี้ และบางคนอาจมองว่าปกติแต่จริงแล้วคือไม่ปกติ ซึ่งเป็นแบบนี้หลังจากมีการรัฐประหาร
ด้านทนายความ กล่าวว่า ต้องรอผลว่าศาลจะมีคําตัดสินอย่างไร เพราะคดีนี้จริงๆแล้วไม่ควรจะเป็นคดีเสียด้วยซํ้า เนื่องจากวันที่เกิดเหตุลูกความทั้ง 18 คน เดินทางไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อขอรับรถเครื่องขยายเสียงคืน แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่แจ้งความดําเนินคดี ซึ่งทางลูกความทั้งหมดมีความคิดเห็นตรงหันว่าเป็นลักษณะการดําเนินคดีเพื่อยับยั้งการใช้สิทธิเสรีภาพ ส่วนในวันนี้ศาลจะมีคําพิพากษาอย่างไรก็ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล
ทั้งนี้ นายจตุภัทร์ ระบุด้วยว่า ในช่วงเวลา 14.00 น. จะมีการยื่นหนังสือที่ กกต. เพื่อทวงถามการรับรองผลการเลือกตั้ง ในนาม เครือข่ายประชาชนจับตาการเลือกตั้ง โดยข้อเรียกร้องคือ อยากให้ทาง กกต. มีการรับรองผลให้เร็วที่สุด และชี้แจ้งเหตุผลว่าเหตุใดจึงล่าช้า