อดีตตุลาการศาลรธน. ชี้ข้อกม. 2 หนทางถึงมือศาล จบปม “พิธา” ถือหุ้นไอทีวี

อดีตตุลาการศาลรธน. ชี้ข้อกม. 2 หนทางถึงมือศาล จบปม "พิธา" ถือหุ้นไอทีวี

วันที่ 14 มิ.ย. 66 นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะที่สังคมกำลังมีข้อสงสัยเรื่องคุณสมบัติ การสมัครเป็น ส.ส. ฐานรู้ว่าไม่มีคุณสมบัติแต่ยังมาสมัคร ตามมาตรา 151 ซึ่งเป็นการดำเนินคดีทางอาญา ไม่ใช่คดีที่เกี่ยวกับการตัดคุณสมบัติหรือวินิจฉัยลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นผู้วินิจฉัย

ดังนั้นเห็นว่า ไม่น่าจะมีอะไรขัดขวางการเสนอชื่อนายพิธา เพื่อชิงตำแหน่งนายกฯ เว้นแต่เมื่อมีการรับรอง ส.ส. ไปแล้ว และจะมี ส.ส. จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของ ส.ส. คือ 50 คน เห็นว่ามีมูลเหตุว่านายพิธาขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็น ส.ส. ได้ และจะพัวพันไปถึงการจะเป็นนายกฯ ด้วย ก็มีสิทธิเสนอเรื่องต่อประธานสภา ให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามได้ / แต่ถ้าหากไม่มี ส.ส. ส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ กกต. ก็มีอำนาจตรวจสอบเรื่องนี้ แล้ววินิจฉัยว่าจะส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ แต่กว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่ารับเรื่องหรือไม่ หรือควรให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ก็จะใช้เวลานานพอสมควร

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายจรัญ กล่าวว่า ขณะนี้ควรเดินหน้าตามขั้นตอนกฎหมาย โดยรอให้ กกต. รับรอง ส.ส. ให้ครบร้อยละ 95 และเปิดประชุมสภานัดแรกเพื่อเลือกประธานสภา จากนั้นประธานสภา ถึงจะนัดประชุมเพื่อเลือกนายกฯ / และเมื่อถึงเวลานั้น อาจมีใครส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ ส.ส.ของนายพิธา / และหากสมมุติว่าศาลรัฐธรรมนูญเกิดสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็อาจมีผลต่อแคนดิเดตนายกฯด้วย เพราะไม่ได้มีการร้องเพิกถอนคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ เว้นแต่ผู้ร้องจะร้องเกี่ยวกับคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกฯ ด้วย ซึ่งไม่มีช่องทางให้ไป ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องจบที่ศาล

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กลับมีการพิจารณาคดี “ทางสื่อ” โดยกองเชียร์แต่ละฝ่ายหยิบหลักฐานออกมาแสดง เพื่อชี้ไปยังประโยชน์ของตัวเอง ไม่มีขั้นตอน ไม่มีหลักเกณฑ์ แต่ละคนว่าไปตามความคิดของตัวเอง ในที่สุดแต่ละฝ่ายที่สนับสนุน ก็แบ่งฝ่ายทะเลาะกัน 2 ฝ่าย 3 ฝ่าย โดยไม่มีข้อยุติ จึงกังวลว่าในที่สุดแล้วจะนำไปสู่สงครามบนท้องถนน จึงอยากให้เรื่องนี้ไปจบด้วยกระบวนการทางนิติ คือไปจบที่ศาล ไม่เช่นนั้นสังคมก็เดินไม่ได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น