วันที่ 16 มิ.ย. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยสั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 1 และ พรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันอาจจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
ร้องศาลรธน. สั่ง "พิธา-ก้าวไกล" เลิกแก้ไข 112 ชี้เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยยกกรณี ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับกรณีที่กลุ่มบุคคลและองค์กรเครือข่ายได้เสนอข้อเรียกร้อง 10 ข้อที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางกระทบกระเทือนถึงสถาบันหลักของชาติ ซึ่งในขณะนั้นศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เลิกการกระทำอันกระทบกระเทือนสถาบัน เพื่อเป็นการหยุดยั้งไม่ให้ลุกลามจนเกิดอันตรายแก่สถาบัน
นายธีรยุทธ กล่าวว่า วันนี้จึงเดินทางมายื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายพิธา และพรรคก้าวไกล เลิกการดำเนินการใด ๆ หรือการกระทำใด ๆ เพื่อยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112 รวมไปถึงให้เลิกแสดงความเห็น เลิกพูด เลิกเขียน เลิกพิมพ์ เลิกโฆษณา และสื่อความหมายโดยวิธีอื่น เพื่อให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112 ที่กระทำอยู่ในขณะนี้และจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นกับสถาบันจึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม
“ผมมองว่าเป็นการกระทำที่มุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมือง จึงอาจเข้าข่ายมีเจตนาไม่สุจริต กระทบกระเทือน หรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ ต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน นำไปสู่การทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบอื่นหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นย่อมไม่ไกลเกินเหตุที่จะเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง” นายธีรยุทธ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง