18 มิ.ย.2566 นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวท็อปนิวส์ ถึงกรณี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เชิญให้รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรวมถึงรัฐมนตรีต่างประเทศของเมียนมา ให้เข้าร่วมหารืออย่างไม่เป็นทางการที่ประเทศไทยเรื่องสถานการณ์ในเมียนมาอย่างไม่เป็นทางการในไทย 18-19 มิถุนายนนี้ ทำให้ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการ
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยนายนันทิวัฒน์ ชี้แจงว่า แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่วันนี้สถานการณ์สู้รบและความไม่สงบในเมียนมา รวมถึงภัยคุกคามในเมียนมา เป็นเรื่องความปรารถนาของเราหรือไม่ วันนี้การสู้รบก็ยังรุนแรง และมีข้อมูลมาที่เราว่า มีคนต่างชาติเป็นชาวตะวันตก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นชาติไหน ได้เข้าไปในเมียนมา ไปฝึกอาวุธ ไปสนับสนุนอาวุธ สงครามก็จะขยายตัว เราก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งหากการสู้รบมันลุกลาม ก็จะกระทบการค้าชายแดนของเรา คนของเราจะต้องบาดเจ็บล้มตาย นี่คือส่งที่รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศโดยนายดอนเป็นกังวล วันนี้มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์และความมั่นคงของประเทศไทย
นายนันทิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ถ้าเราไม่ทำแล้วแล้วมันเกิดผลกระทบ การค้าชายแดนเสียหาย 2-3 แสนล้านบาท เราก็ถูกต่อว่าอยู่ดีว่าทำไมไม่ทำ แล้วหากรอรัฐบาลใหม่ ตนถามว่ามันจะเกิดขึ้นในวันนี้พรุ่งนี้หรือไม่ ถ้ารอแล้วมันเสียหายเราจะทำยังไงกัน ก็ด่ารัฐบาลเก่าอยู่ดี นี่คือประเด็น
เราถึงชวนประเทศต่าง ๆ ที่อยู่ข้างเคียงรัฐบาลเมียนมา หรือจะเรียกว่าเพื่อนของเมียนมาก็ได้ มานั่งคุยกันว่าเราจะช่วยให้สถานการณ์การสู้รบ หรือแสวงหาสันติภาพในเมียนมาอย่างไร เราจะช่วยอะไรได้บ้างในศักยภาพของเรา วันนี้มีการไหลของอาวุธเข้าไปในเมียนมาจำนวนมาก ตนได้เห็นภาพอาวุธต่างๆแล้ว และตนยืนยันว่าอาวุธเหล่านี้ไม่ใช่อาวุธจากฝั่งไทย เพราะทหารไทยไม่มีอาวุธอย่างนี้ นี่คือความน่าเป็นห่วงว่าสงครามมันจะขยายตัว และกระทบกับชายแดนบ้านเรา อย่างไรก็ตามวันนี้ยังไม่ได้มีการประชุมอะไรเลย จะหารือในวันพรุ่งนี้ที่พัทยา
สำหรับกรอบการประชุมในเรื่องนี้นั้น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นการประชุมไม่เป็นทางการ เราจึงเชิญคนที่คิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่เฉพาะประเทศอาเซียนที่เราเชิญ เราเชิญจีน อินเดีย มาร่วมด้วย เพราะทั้งสองประเทศก็ได้รับผลกระทบจาการสู้รบในเมียนมาเหมือนกัน โดยขณะนี้มีประเทศตอบรับเข้าร่วมพูดคุยหารือแล้ว 8 ประเทศ ประกอบด้วย ลาว กัมพูชา จีน อินเดีย เวียดนาม ฟิลิปินส์ เมียนมา และไทย โดยทางเมียนมาจะส่งระดับรัฐมนตรีต่างประเทศมาร่วมหารือ
ส่วนที่มีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการตัดหน้ารัฐบาลลาวหรือไม่ เพราะลาวจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอยู่แล้วในเดือนหน้า รวมถึงกรณีรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะประเทศประธานอาเซียนปฏิเสธที่จะเข้าร่วมประชุมนั้น ตนยืนยันว่าไม่เกี่ยว และก่อนหน้านี้ประเทศนี้เขาก็มาประชุมกับเรา รวมทั้งดีใจมากที่ได้คุยกับเมียนมา คนที่พูดเป็นระดับรัฐมนตรีด้วย นอกจากนี้เราไม่ได้ทำในนามอาเซียน แต่เราทำในนามเพื่อนของเมียนมา เราไม่ได้แย่งงานของประเทศไหนทำ เราคิดว่าการดันเมียนมาออกจากวงสนทนาของอาเซียนไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ และทุกประเทศของอาเซียนก็เห็นด้วยว่ามันต้องคุยกัน เราจึงเห็นว่าคุยกัน ดีกว่าไม่คุย เราไม่อยากเห็นยูเครน 2 เกิดในพื้นที่ข้างบ้านเรา
ส่วนที่พรรคการเมืองบางพรรคออกมาวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมนั้น นายนันทิวัฒน์ ตอบโต้ว่า ตนพูดตรง ๆ ตนไม่เห็นกับการเอาเรื่องปัญหาผลประโยชน์และความมั่นคงของประเทศ มาเป็นเกมการเมืองระหว่างประเทศ วันนี้เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและความมั่นคง รวมทั้งไม่ได้มีเกมการเมือง หรือไปตัดหน้ารัฐบาลใหม่ เพียงแต่เราเกรงว่าสถานการณ์มันจะลุกลามไปก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่เท่านั้นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
