“ภูมิธรรม” โต้ข่าวเทใจก้าวไกล “เพื่อไทย” ยอมถอยเก้าอี้ประธานสภาฯ

"ภูมิธรรม" โต้ข่าวเทใจก้าวไกล "เพื่อไทย"ยอมถอยเก้าอี้ประธานสภาฯ

จากกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีตำแหน่งประธานสภาฯ ที่ทั้งพรรคพท.และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีความประสงค์ในตำแหน่งดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยยืนยันหลักการเดิมมาโดยตลอด ว่าเมื่อพรรคก้าวไกลได้ประมุขฝ่ายบริหารแล้ว พรรคเพื่อไทยควรได้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ แต่เพื่อให้ได้ข้อยุติและไม่เกิดปัญหากับทั้งสองพรรค พรรคจึงมีจุดยืนและข้อสรุปของพรรคต่อกรณีประธานสภาฯ ดังนี้

 

1.เราเห็นชอบในหลักการว่าพรรคอันดับ 1 จะทำหน้าที่ประธานสภาฯ

2.เนื่องจากพรรคอันดับ 1 และ 2 มีจำนวนใกล้เคียงกันมาก ดังนั้นตำแหน่งรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน จึงควรเป็นคนของพรรคลำดับ 2

3.รายละเอียดการประสานงานต่าง ๆ จะเป็นวาระของคณะทำงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป โดยตัวแทนของ 2 พรรคควรหารือกัน อย่างไรก็ตามต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลการเลือกตั้งและการประกาศรับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการก่อน ตัวแทนของ 2 พรรคการเมืองจะหารือกันเพื่อสรุปให้เกิดความชัดเจนต่อไป

 

 

ต่อมาทางด้านนายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรค พท.แสดงจุดยืนให้พรรคที่มี ส.ส.อันดับ 1 ได้ตำแหน่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่ายังยืนยันความเห็นเดิมว่าเมื่อพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรค พท.ไม่ได้มีใครได้เสียงข้างมากเด็ดขาดไปกว่ากันก็สมควรไปโหวตในสภา ใครจะได้ตำแหน่งประธานสภาเรื่องนี้ควรเป็นทฤษฎี “กินแบ่ง” ไม่ใช่ “กินรวบ”

เมื่อถามว่ากรณีนี้แกนนำพรรค พท.แสดงจุดยืนพรรคชัดเจนให้พรรคอันดับ 1 เป็นประธานสภาจะคัดค้านอย่างไร นายอดิศรกล่าวว่า เรื่องนี้ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เคยแจ้งให้ทราบมาก่อน ตนไม่เห็นด้วยและเชื่อว่ามีคนในพรรคก็ไม่เห็นด้วยหลายคนเช่นกัน ซึ่งจะไปตัดสินใจโดยความเห็นของแกนนำเพียง 1-2 คนไม่ได้ ตนก็เป็นผู้ใหญ่ในพรรค แต่ก็ไม่รู้เรื่องนี้ ฉะนั้น จึงควรนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมพรรคเพื่อสอบถามความเห็นสมาชิกพรรคก่อน อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องนี้ไปสู้ในที่ประชุมพรรคอย่างถึงที่สุดแน่นอน

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดวันนี้ (19 มิ.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวชี้แจงถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฏร ที่มีการตีความพรรคเพื่อไทยยอมถอยให้พรรคก้าวไกล ว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ เพราะเพิ่งจะมีการพูดคุยไปเพียง 1-2 ครั้ง ตั้งแต่เกิดข้อถกเถียงกัน เพราะความแตกต่างของทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย มี ส.ส.ต่างกันไม่มาก แต่ในเบื้องต้น จึงได้มีการตกลงกันตามที่ตนเองเสนอว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีควรจะได้ในจำนวนที่เท่าๆ กัน 14 คน โดยที่ก้าวไกล เป็นประมุขฝายบริหาร เพราะเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคอันดับ 2 ในขณะนั้น ก็ควรจะได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก็จะถือว่ามีความเท่าเทียมกัน ทำให้ผู้สนับสนุนสามารถมองได้ว่า เป็นความร่วมมือกันระหว่างพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และไม่มีความคืบหน้าใด ๆ อีก จนนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความคิดเห็น และจองตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จะต้องเป็นของพรรคก้าวไกลเท่านั้น

 

 

 

“ตนเองจึงได้ตำหนิไปว่า เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว แต่ความเป็นจริง จะต้องรอให้ตัวแทนทั้ง 2 ฝ่าย พูดคุยกันได้ชัดเจนก่อน ดังนั้น เมื่อยังไม่มีความชัดเจน การออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ ในขณะนี้ โดยมารยาททางการเมืองนั้น ไม่มีผู้ใดจะกระทำกัน และเมื่อเป็นข้อพิพาทระหว่าง 2 พรรคการเมือง จึงควรยุติเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญกว่า โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาล สามารถดำเนินการต่อไปได้” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวย้ำหลักการตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งอันดับ 1 ควรครองตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และพรรคอันดับ 2 หากคะแนนเสียง ส.ส.ห่างกันไม่มาก ก็ควรได้ครองตำแหน่งรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 ตำแหน่ง ซึ่งตนเองไม่ได้ระบุว่า จะมอบตำแหน่งประธานสภาฯ ให้กับพรรคการเมืองใด หรือ ส.ส.คนใด เพราะในทางปฏิบัติ จะต้องพูดคุยในรายละเอียดร่วมกันก่อน แต่ขณะนี้ พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคอันดับ 2 ซึ่งการเป็นพรรคการเมืองอันดับ 2 ที่ผ่านมา มักจะมีการตั้งรัฐบาลแข่ง แต่พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้กระทำ เพราะคำนึงว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการความปลี่ยนแปลง และเมื่อพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยมารวมกันได้ 312 เสียง โดยที่พรรคก้าวไกล มีประมาณ 150 เสียง ดังนั้น ต้องถ้อยที ถ้อยอาศัย และรอการรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต.ก่อน เพื่อให้ทราบว่า พรรคการเมืองใด จะชนะการเลือกตั้งลำดับที่ 1 ที่ชัดเจน กระบวนการพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลจึงจะเริ่มต้น ซึ่งหลัง กกต.รับรองการเลือกตั้งแล้ว ก็ยังมีเวลาอีก 15 วัน ก่อนจะมีรัฐพิธี และขั้นตอนการเลือกประธานสภาฯ

นายภูมิธรรม กล่าวยอมรับว่า ได้มีการต่อสายพูดคุยกับนายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แล้ว เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน ว่ายังไม่มีเรื่องใดเลยเถิด และจะต้องรอให้เจ้าตัวมาชี้แจงหลังจากนี้ เพราะตนเอง ได้ย้ำเพียงหลักการ จึงขออย่าเพิ่งมีการตีความใด ๆ

 

 

 

ส่วนสาเหตุที่พรรคเพื่อไทย ออกมาชี้แจงหลักการดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยก็ย้ำถึงตำแหน่งประธาน จะต้องเป็นของพรรคเพื่อไทยนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า เดิมเป็นเพียงการพูดคุย เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจกันได้ เพราะเบื้องต้น จำนวนเสียง ส.ส.ระหว่าง 2 พรรคไม่แตกต่างกันมาก แต่เมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ก็ไม่ต้องการให้เกิดข้อถกเถียงกัน จึงได้ออกมายืนยันหลักการ เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาล สามารถดำเนินต่อไปได้ เพราะประชาชน รอคอยความเปลี่ยนแปลง มากกว่าการช่วงชิงตำแหน่ง

 

ส่วนที่มีรายงานว่าพรรคก้าวไกลจะเปิดชื่อบุคคลที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายภูมิธรรม มองว่า เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลคิด แต่ยังไม่ใช่ข้อตกลงร่วมของทั้ง 2 พรรคการเมือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยเอง ก็ยังไม่ได้เตรียมบุคคล เพราะยังไม่มีความชัดเจนใดๆ และการเตรียมวางตัวบุคคลนั้น จะต้องให้ได้ข้อสรุปจากทั้ง 2 พรรคก่อน พร้อมย้ำว่า 3 รายชื่อที่ของพรรคเพื่อไทย ที่มีการเปิดเผยไปก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ของสื่อมวลชน ที่วิเคราะห์ตามประสบการณ์ หรือความเหมาะสม และการจัดสรรบุคคลไปดำรงตำแหน่งใด จะต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบหลายปัจจัย แต่ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย ยังไม่มีการกำหนดตัวบุคคลดำรงตำแหน่งประธานสภา หรือรัฐมนตรี และเห็นว่า ควรจะเร่ง พูดคุยถึงการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จมากกว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คอหวยแตกตื่น!!แห่ร่วมพิธีและส่องเลขหางประทัดพิธีอัญเชิญพระบรมรูปทรงม้าสมเด็จพระเจ้าตากสินขึ้นประดิษฐาน ณ วัดคงคาเลียบเมืองคอน
"เจ๊อ้อย" เปิดใจหลังให้ปากคำเป็นวันที่ 4 พร้อมเอาผิด "ทนายตั้ม" ยืนยันคำเดิม เงิน 71 ล้าน ไม่ได้ให้โดยเสน่หา
"สุสานเนอร์วาน่า" แจงชัดไร้ส่วนเกี่ยวข้อง พิธีซื้อที่ดินสะเดาะเคราะห์ต่อชีวิตของ "หมอดูฮวงจุ้ย"
“อนุทิน” มอง “ปทุมธานี” เป็นเมืองต้นแบบกระจายอำนาจ ยินดี “บิ๊กแจ๊ส” นั่งนายกฯอบจ.
สุดเศร้า ลูกเศร้า กลับจากโรงเรียนเจอพ่อผูกคอดับ ขณะแม่ได้ข้อความขอโทษจากลูกชาย แต่ไม่ได้เอะใจ
จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 134 ระหว่างวันที่ 12 - 24 พฤศจิกายน 2567 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา
‘ทนายไพศาล’ ยืนยันไม่ได้เป็นทนายให้ ‘ซินแสดัง’ขออีกฝ่ายอย่าเอารูปถ่ายคู่กันไปแอบอ้าง
งาน CIIE ครั้งที่ 7 เปิดฉากแล้วที่จีน
ตร.เมืองชล ตั้งด่านป้องปรามอาชญากรรม-ยาเสพติดกลางดึก หนุ่มขนยาบ้า 3 แสนเม็ด ขับผ่านด่านแต่ไม่รอด สารภาพรับจ้างขนยา 3 หมื่น ยังไม่ได้รับค่าจ้าง ถูกจับเสียก่อน
เลือกตั้งสหรัฐเปิดฉากขึ้นแล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น