เปิดข้อมูล Exclusive จากรั้ว “เตรียมพัฒน์” ไทม์ไลน์ชีวิต “หยก” จากนร.หญิงสู่ม็อบ 3 นิ้ว ยันชัดครูอาจารย์ทำดีที่สุดแล้ว

ความจริงอีกด้านจากเตรียมพัฒน์ ครูนำเอกสารมอบตัวไปให้แม่หยกเซ็นถึงบ้าน แต่ไม่ออกมา ไปหาพ่อยันร้อยเอ็ด แต่ถูกไล่กลับ วันนี้หวาดระแวงทั้งโรงเรียน เพื่อนในห้องหวั่นถูกล่าแม่มด เด็กถูกคุกคาม ผู้ปกครองต้องจัดทีมมาเข้าเวรรักษาความปลอดภัย วอนปกป้องสิทธิเด็กอีก 4 พันคน

ความคืบหน้ากรณี “หยก ธนลภย์” เยาวชนวัย 15 ปี ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวท็อปนิวส์ได้รับข้อมูลอีกแง่มุมแบบละเอียด ตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน และจุดที่น่าผิดสังเกตในเรื่องนี้ โดยมีข้อมูลดังนี้

 

 

– ครอบครัวหยกพ่อแม่ ประกอบอาชีพส่วนตัว แม่มีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า หยกเป็นลูกคนเดียว ครอบครัวมีบ้าน 2 หลัง หลังแรกแรกอยู่ที่ย่านสำราญราษฎร์ อีกหลังอยู่ที่ซอยพัฒนาการ 65 ใกล้กับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ โดยหยกมาอาศัยกับแม่ที่บ้านซอยพัฒนาการ 65

– ช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 พ่อแม่พาเด็กมามอบตัวตามปกติทุกปี ส่วนพฤติกรรมส่วนตัวของหยกช่วง ม.1 และม.2 ครูไม่ทราบมากนัก เพราะต้องเรียนออนไลน์ เนื่องจากโควิด-19 ระบาด แต่เด็กตั้งใจเรียน ไม่มีพฤติกรรมต่อต้าน ผลการเรียนยู่ในระดับที่ดี วิชาประวัติศาสตร์ผลการเรียน 3-3.5 เต็ม 4

– เมื่อขึ้นเรียนชั้นม.3 มีการเปิดเรียนออนไซต์ที่โรงเรียน หยกอยู่ในห้อง 3/5 ถือเป็นเด็กเก่ง ส่วนพฤติกรรมของหยกพบว่า ราบเรียบ เงียบๆ มีเพื่อนน้อย ที่คบอยู่เป็นเพื่อนเก่า ทำกิจกรรมทั่วไป การเรียนโดดเด่นบางวิชา

-ในเดือนตุลาคม 65 โรงเรียนได้รับการติดต่อจากตำรวจนครบาล แจ้งว่าหยกไปร่วมชุมนุมทางการเมือง ใช้ชื่อสหายนอนน้อย และให้พาเด็กไปพบจิตแพทย์ แต่โรงเรียนปฏิเสธ ต้องการปกป้องเด็ก ทั้งนี้ตำรวจพยายามติดต่อผู้ปกครองแล้ว แต่ผู้ปกครองปฏิเสธให้ข้อมูล ซึ่งตามข้อมูลหยกได้ไปชุมนุมที่เสาชิงช้าเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม โดยในวันนั้นหยกได้เขียนข้อความหมิ่นสถาบัน

– ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 65 โรงเรียนเชิญผู้ปกครองและหยุกมาคุย ซึ่งหยกยังพูดจาน่ารัก โต้ตอบเหมือนเด็กทั่วไป ยอมรับไปทำกิจกรรมการเมือง แต่ไม่กี่ครั้ง แม่ขอบคุณครูและโรงเรียนที่ช่วยปกป้องลูก แม่รู้ว่าลูกชอบชุมนุมประชาธิปไตย และตักเตือนลูกแล้วว่าอย่าไปยุ่ง ช่วงเวลานั้นลูกยังคุยกับแม่น่ารัก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

– หลังจบ ม.3 หยกได้โควตาศิษย์เก่าสอบเข้า ม.4 และสอบได้เรียนเอกภาษาจีน อย่างไรก็ตามวันมอบประกาศนียบัตร ม.3 เดือนมีนาคม 66 หยกไม่ได้มาร่วม ทำให้โรงเรียนได้ติดตามว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะทราบสาเหตุว่า เป็นเพราะหยกไปร่วมกับบังเอิญ ก่อเหตุพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 66 จนถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่สน.พระราชวัง และถูกส่งตัวต่อไปไปยังสน.สำราญราษฎร์ เพราะมีหมายจับคดี 112 และถูกศาลส่งตัวไปที่สถานพินิจบ้านปราณี นครปฐม เนื่องจากหยกปฏิเสธอำนาจศาล

 

 

– 1 เมษายน 2566 แม่กับน้าของหยกเดินทางมาที่โรงเรียน เพื่อทำเรื่องขอเลื่อนการมอบตัว เพราะน้องอยู่ในบ้านปราณี และได้ให้เบอร์น้าไว้กับทางโรงเรียน ทั้งนี้แม่ไม่สะดวกให้เบอร์โทรศัพท์ อีกทั้งวันดังกล่าว ยังมี “เก็ท โสภณ” แกนนำกลุ่มโมกหลวง ที่หยกตั้งให้ผู้เป็นปกครองระหว่างอยู่ในบ้านปราณี เดินทางมาด้วย และแม่หยกไม่พอใจเก็ท ได้ต่อว่า ซึ่งช่วงเวลานี้โรงเรียนก็ไม่ทราบว่าหยกจะมาเรียนหรือไม่ เพราะน้องปฏิเสธการประกันตัว แต่ทางโรงเรียนก็ขยายเวลาการมอบตัวให้

 

 

– 19 พฤษภาคม 66 หยกเดินทางมาโรงเรียนกับ “บุ้ง” -ตะวัน” กลุ่มทะลุวัง ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกลคนหนึ่ง และทนายของส.ส. เพื่อมอบตัว หลังออกมาจากบ้านปรานี ทางโรงเรียนได้ยืนยันว่า หยกต้องพาแม่มามอบตัวตามระเบียบของโรงเรียน อย่างไรก็ดีจะรับรายงานตัวไว้ก่อน เพื่อรอให้แม่หยกมาเซ็นมอบตัว และจ่ายค่าเทอม ฉะนั้นการรับรองยังไม่สมบูรณ์ ส่วนสาเหตุที่โรงเรียนต้องให้แม่ของหยกมารับรองเท่านั้น เพราะโรงเรียนทราบว่าน้องมีแม่ ถ้าไม่ใช่ผู้ปกครองต้องมีหนังสือมอบอำนาจ เนื่องจากโรงเรียนให้ความสำคัญกับผู้ปกครองมากที่สุด โรงเรียนอื่นอาจจะให้ผู้อื่นเป็นผู้ปกครองแทนได้ แต่เตรียมอุดมพัฒนาการไม่ใช่

– เมื่อมาโรงเรียน หยกจะไม่เข้ากิจกรรมโฮมรูมในเวลา 7.40 น.ถึง 8.10 น. ส่วนคนอื่นเข้าทุกคน และตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม เป็นต้นมา หยกไม่คุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา ไม่ฟังกฎระเบียบ ถามครูว่า “ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญมั้ย” ใครตักเตือนก็จะพูดประเด็นนี้ และบอกอีกว่า “โรงเรียนทำอะไรเขาได้มั้ย” บางวันมาเรียนบ่ายสอง เพื่อเรียนวิชาเดียว

 

– ช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม ถึงวันที่ 10 มิถุนายน 66 เป็นช่วงที่โรงเรียนพยายามให้เกิดผู้ปกครองเซ็นมอบตัวหยก เพราะโรงเรียนต้องยืนยันข้อมูลในระบบบภายในที่ 10 มิถุนายน โดยครูเดินทางไปหาแม่ที่บ้านในซอยพัฒนาการไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง พร้อมกับนำเอกสารเซ็นมอบตัวไปให้แม่หยกเซ็นด้วย และอยากให้แม่หยกมาร่วมแก้ปัญหาพฤติกรรมของลูก แต่แม่หยกไม่ออกมาพบ ส่วนเพื่อนบ้านก็เตือนครูว่าอย่าไปยุ่ง ระวังเขาจะปล่อยหมากัด ซึ่งครูสังเกตพบว่ารถยนต์ในบ้านของแม่ได้นำกระดาษสีขาวมาปิดแผ่นป้ายทะเบียนและปิดเลขที่บ้านไว้ด้วย และยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าเมื่อหยกออกจากบ้านปรานี แม่ก็หายไปเลย และทำไมไม่ออกมาพบครู ทั้งที่ วันที่ 1 เมษายน ยังมาแจ้งเลื่อนขอมอบตัวให้กับลูก

 

– วันที่ 2 มิถุนายน 66 ครูเดินทางไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด หลังทราบว่าพ่อหยกย้ายไปอาศัยอยู่ที่บ้านหัวหนอง ตำบลหนองแวง อำเภอเกษตรวิสัย เมื่อไปถึงครูได้ไปพบป้าและน้องชายของพ่อหยก จากนั้นน้องชายพ่อหยก ได้พาครูไปพบพ่อหยกที่ทุ่งนา เพราะนำวัวไปเลี้ยง แต่เมื่อเดินทางไปถึง พ่อหยกกลับไล่ครูกลับไปทันที และบอกอย่ามาที่นี่อีก ตนไม่รู้เรื่อง

 

 

– 9 มิถุนายน “หยก” ได้ลาโรงเรียน ครูได้วิดีโอคอลผ่านไลน์ เพื่อย้ำเรื่องการมอบตัว แต่หยกให้คุยกับบุ้ง ครูจึงย้ำเรื่องให้ผู้ปกครองหยกมาเซ็น โดยบุ้งบอกว่า พยายามโทรศัพท์ติดดต่อแม่หยกแล้วตั้งแต่ช่วงหยกอยู่สถานพินิจ แต่ติดต่อไม่ได้ ประเด็นนี้ทำให้ครูและโรงเรียน เกิดคำถามว่า ทำไม ไม่พาน้องไปบ้าน

 

 

– มีข้อมูลว่า “บุ้ง ทะลุวัง” ได้เคยไปพบกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม.เพื่อขอรับหยกเป็นลูกบุญธรรม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่อธิบายขั้นตอนทั้งหมด บุ้งได้เดินออกจากห้องไปทันที เพราะตามกฎหมายบุ้งยังไม่สามารถรับหยกเป็นลูกบุญธรรมได้

 

 

– จันทร์ที่ 12 มิถุนายน คณะครูมีประชุมประจำเดือนในช่วงบ่าย ทำให้หยกฉวยโอกาสนี้ เข้าไปจ่ายเงินค่าบำรุงการศึกษากับเจ้าหน้าที่ในเวลา 15.57 น. โดยเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ทราบเรื่อง ได้ถามหยกว่า หยกมอบตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ หยกได้บอกว่าเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จึงให้เลขบัญชีโอนค่าบำรุงการศึกษา โดยชื่อบัญชีของผู้ที่โอนเงินเข้ามาชื่อบัญชี “ณัฐนิช” ซึ่งครูตั้งข้อสังเกตว่า เหมือนหยกรู้ช่วงเวลา และสงสัยอีกว่า บัญชีที่โอนเงินมาที่ชื่อ “ณัฐนิช” เป็นของ ใบปอ ทะลุวัง หรือไม่ เพราะชื่อเดียวกัน

 

 

 

– เมื่อคณะครูทราบเรื่อง ช่วงเช้าวันที่ 13 มิถุนายน จึงได้ทำบันทึกรายงานว่าโรงเรียนจะขอคืนเงิน เพราะหยกยังไม่ได้มอบตัวสมบูรณ์ และได้เรียกหยกซึ่งมาเรียนด้วยกระโปรงสีแดง ไปพูดคุยที่ห้องปกครอง พร้อมกับครูที่ปรึกษา และเพื่อนในห้อง 2 คน โดยครูจะยืนยันหยกมอบตัวไม่สมบูรณ์และจะคืนเงินค่าบำรุงการศึกษา แต่เวลาหยกพูดกลับมา อารมณ์จะขึ้น ๆ ลง ๆ และบอกว่าโรงเรียนไม่ปลอดภัย รวมทั้งเราะเวลาพูดถึงพ่อกับแม่ หยกยังอ้างกลับบ้านไม่ได้ เพราะไม่ปลอดภัย ครูถามไปทำอะไรมา แต่หยกตอบว่าครูไม่เข้าใจหนู หนูพูดไม่ได้ ก่อนสุดท้ายหยกจะมุดลอดโต๊ะออกห้อง ไม่ยอมรับการคืนเงิน

 

 

– 13 มิถุนายน ช่วงค่ำ หยกไปโพสต์ถูกโรงเรียนไล่ออก จากนั้น 14 มิถุนายน “หยก” มาสาย เอากลุ่มทะลุวังมาด่าโรงเรียน ด่ารปภ. “บุ้ง” ไปตีกล้องวงจรปิด 2 ตัว มาสร้างความวุ่นวายปั่นป่วน และที่ครูไม่ให้เข้าเพราะด่าโรงควาย และเกรงว่าถ้าเปิดประตูพวกนี้จะเข้ามา ต่อมา 15 มิถุนายน กลุ่มทะลุวังได้อาศัยจังหวะเด็กเลิกเรียน ซึ่งโรงเรียนต้องเปิดประตู บุกเข้ามามาถึง อาคาร ผอ.

 

 

– ช่วง 3 วันที่หยกต้องปีนเข้าโรงเรียนนั้น เพราะหยกมาโรงเรียนสาย มาเวลาประตูปิดไปแล้ว ส่วนเด็กคนอื่นจะมาโรงเรียนตั้งแต่ตี 5 จนถึง 7 นาฬิกา โดยโรงเรียนจะเข้าแถวเคารพธงชาติ เวลา 7.15 น. ซึ่งหากหยกมาตามเวลาปกติ ก็ไม่ต้องปีนเข้าโรงเรียน เห็นได้จากในวันนี้ที่หยกมาถึงโรงเรียนเวลาประมาณ 7.10 น.ก็สามารถเข้าโรงเรียนได้ และโรงเรียนไม่อยากห้ามปราม ไม่อยากให้เกิดการปะทะ

 

 

– หลังจากเกิดเหตุการณ์หยกปีนเข้าโรงเรียน เพื่อนร่วมห้องหยกรู้สึกไม่ปลอดภัย หวาดกลัว กลัวถูกล่าแม่มด ถึงขั้นจัดโต๊ะใหม่ในห้องเอง โดยแยกโต๊ะของหยกออกห่างจากเพื่อนคนอื่น ๆ พร้อมบอกครูที่ปรึกษาว่าไม่ไหวแล้ว และยังมีเด็กในห้องไปพบ ผอ.เพื่อถามว่าทำไมไม่จับหยก เพราะโรงเรียนออกแถลงการณ์ไปแล้ว หากมีการพกมีด ปืน เอามาทำร้ายเพื่อนในห้อง ใครจะรับผิดชอบ ซึ่งหยกยังเคยมีเพื่อนคนสนิท และได้เตือนหยก แต่หยกไม่ฟัง เพื่อนเลยตีตัวออกห่าง หยกผิดหวัง ทำให้เพื่อนคนนี้รู้สึกกลัว กลัวคนที่หยกพามาด้วยจะทำอะไรหรือไม่ วันที่ 16 มิถุนายน แม่ของเด็กคนนี้ได้ขอลาโรงเรียน

 

 

– เด็กนักเรียนคนอื่น ๆ ยังถูกคุกคามจากพวกทะลุวัง มีการตะโกนหยาบคายจากริมรั้วใส่เด็กที่กำลังกินช้าว เด็กรู้สึกไม่ปลอดภัย

 

 

– อดีตครูที่ปรึกษา ม.3 ยอมรับหยกเป็นคนละคนจากที่จบม.3 ไป

 

– โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ มีนักเรียน 4,073 คน ไม่รวมหยก โรงเรียนกังวลว่าเด็กจะอยู่ในสภาวะหวาดระแวงอย่างนี้ไปอีกนานนานขนาดไหน วันนี้โรงเรียนได้รับกระทบหลายอย่าง ผู้ปกครองมาส่งนักเรียนไม่สะดวก เด็กเกิดความหวาดกลัว

 

 

 

 

– เครือข่ายผู้ปกครองรู้สึกไม่มั่นใจในความปลอดภัยของลูกหลาน ได้พร้อมใจกันตั้งคณะกรรมรักษาความปลอดภัยในโรงเรียน จัดเวรยามมาดูแลเด็กทุกวัน ไม่ต่ำว่า 10 คนต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองร้อยน้ำหวานมาดูแลความปลอดภัยในโรงเรียน และหากยังมีการบุกรุกโรงเรียนอีก เครือข่ายผู้ปกครองจะแจ้งความเอาผิดคนที่ยุยงส่งเสริม ไม่เอาเรื่องหยก พร้อมทั้งชี้ว่าคนที่จะหยุดหยกได้คือบุ้ง เพราะหยกไลน์คุยกับบุ้งตลอด

 

 

-โรงเรียนยืนยัน หยกไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนแล้ว ไม่สามารถต่อรองได้อีก เขตพื้นที่การศึกษา กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจิตแพทย์ต้องร่วมหาทางออก หาที่เรียนให้กับหยก และต้องนำผู้ปกครองมาพูดคุยให้ได้ เพราะถึงแม้หยกจะยอมไปเรียนที่อื่น แต่ก็ต้องให้ผู้ปกครองตัวจริงตัดสินใจ ไม่ใช่บุ้ง อีกทั้งไม่ใช่แค่หยก แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยให้เด็ก 4 พันคนเรียนหนังสืออย่างปลอดภัยด้วย เพราะวันนี้สิทธิของเด็ก 4 พันคนถูกคุกคาม

 

 

 

-การหารือระหว่างนายกสมาคมผู้ปกครองกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนางสาวเบญจา แสงจันทร์ สองว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกลในวันนี้ ผู้ปกครองเสนอให้ย้ายสถานศึกษา ส่วนนายวิโรจน์ เสนอ 2 โรงเรียนคือ 1.โรงเรียนราชดำริ 2.โรงเรียนวัดธาตุทอง โดยนายวิโรจน์แจ้งว่าสามารถพูดคุยได้ แต่สุดท้ายให้หยกตัดสินใจ

 

 

– วันนี้มีนักเรียนหญิงโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ ชั้นม.ปลาย จำนวน 5 คน แอบนำป้ายผ้าที่มีข้อความว่า “เสรีเครื่องแต่งกาย” บนอาคารชั้นเรียน โดยคาดว่าป้ายผ้าดังกล่าวมีการนำมาให้จากบุคคลภายนอก คาดว่าเป็นกลุ่มนักเรียนเลว ซึ่งมี 1 คนเป็นศิษย์เก่า และมาชุมนุมที่หน้าโรงเรียนในวันนี้ด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น