“เครือข่ายคนไทยรักชาติฯ” ลุยยื่นอธิการฯม.เชียงใหม่ ขอฟังก๊วน “ธนาธร” เสวนากระจายอำนาจล้านนา

"เครือข่ายคนไทยรักชาติฯ" ลุยยื่นอธิการฯม.เชียงใหม่ ขอฟังก๊วน "ธนาธร" เสวนากระจายอำนาจล้านนา

นายนพดล พรหมภาสิต หรือ รอยตุ๊ ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคม หรือ ศชอ. และ ที่ปรึกษาศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “เครือข่ายคนไทยรักชาติรักสถาบัน(ภาคเหนือ)” ยื่นจดหมายถึง ศ.ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต่อกรณีการจัดกิจกรรม “งานเสวนาวาระรัฐธรรมนูญ-กระจายอำนาจ แห่ไม้ก้ำประชาธิปไตย ปักหมุดหมายกระจายอำนาจ” ที่จัดโดยคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2566 ซึ่งในงานนี้จะมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตัวแทนจากกลุ่มคณะก้าวหน้าเข้าร่วมเสวนาด้วย ว่างานนี้ มีความเหมาะสมหรือไม่

 

​ด้วยได้มีการโฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์ในขณะนี้ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานเสวนาวาระรัฐธรรมนูญ-กระจายอำนาจ ”แห่ไม้ก้ำประชาธิปไตย ปักหมุดหมายกระจายอำนาจ” ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๒.๓๐ – ๑๗.๐๐ นาฬิกา ดำเนินงานโดยนักเคลื่อนไหวทางการเมือง, นักวิชาการ, อาจารย์สถาบันการศึกษา และบุคคลที่เคยต้องคดีชุมนุมผิดกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะและยุยงปลุกปั่นให้ใช้ความรุนแรง โดยมีรายละเอียดของหัวข้อตามที่ปรากฏในแผ่นโฆษณาที่แนบมาพร้อมกับหนังสือฉบับนี้นั้น

​​​การที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะได้อนุญาตให้กลุ่มบุคคลใดๆ เข้ามาดำเนินการจัดกิจรรมหรือการเสวนาในทางการเมืองการปกครอง ซึ่งปัจจุบันเป็นเรื่องที่เป็นชีวิตประจำวัน เป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่และต่อการประกอบอาชีพของประชาชนส่วนใหญ่ จึงย่อมต้องมีทั้งผู้ที่เห็นคล้อยและผู้ที่เห็นต่างอย่างหลีกเลี่ยงมิได้และเพื่อที่จะให้ต่างได้มีการสนทนาปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นที่หลากหลาย

ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งเป็นเจ้าภาพสถานที่เสวนา จึงควรที่จะเสนอแนะให้มีการเชิญบุคคลหลายฝ่าย หลายอาชีพเข้าร่วมเสวนาโดยพร้อมเพรียงกัน แต่การจัดเสวนาในวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ นี้ เป็นเสมือนการนำเสนอของกลุ่มบุคคลเพียงฝ่ายเดียวแก่ประชาชนทั่วไป มิได้มีการประกาศเชิญชวนกลุ่มบุคคลอื่นเข้าร่วมโต๊ะเพื่อมีการนำเสนอแนวทางอื่นๆ ที่ผู้จัดอาจมิได้กำหนดหัวข้อขึ้น จึงอาจเป็นการให้ข้อมูลเฉพาะที่ฝ่ายผู้จัดเสวนาประสงค์ที่จะให้ประชาชนที่เข้าร่วมได้ฟังเพียงอย่างฝ่ายเดียวเท่านั้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อพิจารณาในรายละเอียดดังกล่าวแล้ว จะเห็นได้ว่าหัวข้อเสวนาต่างๆ และกิจกรรมที่จะเริ่มต้นจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ และจะมีการดำเนินกิจกรรมต่อในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๖ เริ่มจากอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัยไปยังอนุสาวรีย์สามกษัตริย์นี้โดยคณะก่อการล้านนาใหม่-NEO LANNA ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องกัน
เมื่อพิจารณาจากหัวข้อและการเรียกร้องให้คณะก่อการล้านนาใหม่ ให้ช่วยปลดแอกจังหวัดเชียงใหม่ออกจากสยามคือประเทศไทย โดยก่อนปิดงานในวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๖ จะมีคำประกาศของคณะก่อการล้านนา ซึ่งแม้ว่าขณะนี้จะยังไม่ทราบว่าคำประกาศฯ ดังกล่าวจะมีเนื้อหาอย่างไรบ้าง แต่เมื่อพิจารณาจากการนำข้อเรียกร้องให้มีการแบ่งแยกจังหวัดเชียงใหม่ดังกล่าว ย่อมเห็นได้ว่าน่าจะต้องมีคณะบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือหลายกลุ่มได้ร่วมมือกันเพื่อมุ่งประสงค์ที่จะให้มีการแบ่งแยกการปกครองออกจากการเป็นราชอาณาจักรเดียว เป็นการกระทำที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑ ที่บัญญัติว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้” ผู้นั้นจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด ๒ ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร มาตรา ๑๑๓ ที่บัญญัติว่า
“มาตรา ๑๑๓ ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
(๑) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
(๒) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ
(๓) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร

ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต”

​​ด้วยทาง “เครือข่ายคนไทยรักชาติรักสถาบัน(ภาคเหนือ)” ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลจากหลากหลายอาชีพที่มีความรัก หวงแหนและเทิดทูนต่อสามสถาบันหลักในการดำรงคงไว้ซึ่งราชอาณาจักรไทย คือ ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่งได้เล็งเห็นว่าการที่งานเสวนาฯ มีลักษณะเป็นการเพื่อประสงค์ที่เกรงว่าจะให้มีการแบ่งแยกการปกครอง อีกทั้งยังมีบุคคลเสนอข้อเรียกร้องให้มีการแบ่งแยกจังหวัดเชียงใหม่ให้ออกจากราชอาณาจักรไทยนี้ เป็นการกระทำที่เข้าข่ายต่อความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๓ ขณะเดียว กันที่ทางผู้บริหารคณะนิติศาสตร์และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาจมิทันได้พิจารณาว่าจะมีและมีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยจากบุคคลภายนอก ทางเครือข่ายฯ เกรงว่าผู้บริหารคณะนิติศาสตร์และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงอาจถูกกล่าวหาจากสังคมว่าได้รู้เห็นเป็นใจด้วยได้

 

อนึ่ง เมื่อคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยินยอมให้บุคคลภายนอกเข้ามาดำเนินงานเสวนาดังกล่าวได้อย่างเสรี “เครือข่ายคนไทยรักชาติรักสถาบัน(ภาคเหนือ)” ในฐานะภาคประชาชนจึงประสงค์ที่จะขออนุญาตเข้ามาสังเกตการณ์และร่วมงานเสวนาฯ ดังกล่าวด้วย และหากพบเห็นว่ามีการกระทำใดๆ ที่อาจจะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เครือข่ายฯ มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพื่อให้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษทางอาญาแก่บุคคลใดๆ ทั้งที่เป็นตัวการและผู้ให้การสนับสนุนเพื่อปกป้องชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาอันเป็นที่รักของบุคคลส่วนใหญ่ในเครือข่ายคนไทยรักชาติรักสถาบัน(ภาคเหนือ) ต่อไป

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

5 วิลล่าที่ดีที่สุด บนเกาะสมุย สำหรับการพักผ่อนสุดหรู
ผุดไอเดีย สุดเจ๋ง ติดตั้งนวัตกรรมประดิษฐ์รั้วไฟฟ้าแรงต่ำ 12 โวลท์ ป้องกันภัยช้างป่า
ปราบปราม เด็กแว้นอันธพาลครองเมือง
จบด้วยดี!! ปัญหาเงินทอดกฐินกว่า 1 ล้านบาท ”วัดหนองนกเมืองคอน” จบชื่นมื่น
พบเด็กแฝดตาสีฟ้า แม่ยอมรับรู้สึกท้อ ลูกถูกล้อเลียน ซ้ำมิจฉาชีพนำรูปไปแอบอ้างเปิดรับบริจาค
"ทนายเดชา" เชื่อ "ทนายตั้ม" พร้อมสู้คดี เคยพูดคุยมีหลักฐานแชทสนทนา
ททท.โคราช ชวนสัมผัส “เทศกาลเที่ยวพิมาย 2567” ตื่นตาตื่นใจการแสดงแสง สี เสียงเทคนิคพิเศษสุดตระการตา
“ออยศรี” เข้าให้ข้อมูลคดีของทนายตั้ม เจ้าตัวเชื่อ “เจ๊อ้อย” ไม่ได้ให้เงินด้วยความเสน่หา
กล้าล้วงคองูเห่า!! แก๊งมิจฉาชีพอ้างชื่อผู้การฯเมืองคอนโทรหลอกนักข่าวใหญ่ขอความช่วยเหลือยืมเงิน 36,000 บาท
"เต๋า สมชาย" เล่าความประทับใจ ไปชมโขนพระราชทาน ได้เจอ "บิ๊กตู่" เผยแค่ยืนใกล้ๆก็สุขใจยิ่งนัก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น