“สภาผู้ปกครองและครูฯ” สวนกสม.ควรรักษาสิทธิ์นร.เตรียมพัฒน์ทุกคน ไม่ใช่แค่ป้องคนเดียว

"สภาผู้ปกครองและครูฯ" สวนกสม.ควรรักษาสิทธิ์นร.เตรียมพัฒน์ทุกคน ไม่ใช่แค่ป้องคนเดียว

จากกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ติดตามสถานการณ์กรณี “หยก” เยาวชนวัย 15 ปี ประสบปัญหาการเข้าถึงสิทธิทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาทางด้านโรงเรียนเตรียมพัฒนาการได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ยังไม่ได้บันทึกชื่อของ “หยก” ในระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล (Data Management Center – DMC) เนื่องจากไม่มีผู้ปกครองมาดำเนินการมอบตัวตามเงื่อนไขที่กำหนด ทำให้ไม่มีสถานะเป็นนักเรียนของโรงเรียน

กสม.ยืนยันสิทธิทางการศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐต้องประกันให้เด็กทุกคน อันสอดคล้องและเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child – CRC) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม การพิจารณาและดำเนินการใด ๆ ของโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ

กสม.เห็นว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของโรงเรียน ควรเร่งพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ “หยก” ได้อยู่ในระบบการศึกษา สำหรับกรณีปัญหาเกี่ยวกับผู้ปกครองตามมาตรา 4 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 นั้น กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าวควรเข้ามาทำหน้าที่ร่วมกับทีมสหวิชาชีพเพื่อดูแล คุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพของเด็กเป็นการเร่งด่วน ขณะเดียวกัน ทุกฝ่ายควรช่วยกันทำให้สถานการณ์คลี่คลายและสร้างความเข้าใจต่อกันมากกว่าสร้างความขัดแย้ง และไม่ควรส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในโรงเรียน

ทั้งนี้ กสม. พร้อมเป็นหน่วยงานกลางในการเปิดพื้นที่พูดคุยร่วมกันของทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกเรื่องดังกล่าว โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กรวมทั้งประโยชน์ส่วนรวม และจะประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกรณีของ “หยก” อย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะเด็กทุกคนต้องไม่ถูกตัดออกจากระบบการศึกษาไม่ว่ากรณีใด

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดนายปรีชา จิตรสิงห์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ กล่าวว่า วันนี้ทางคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สมาคมนักเรียนเก่าฯ ชมรมครูเก่าฯ เครือข่ายผู้ปกครองฯและสภานักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ จะเข้าร่วมหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาของ น.ส.ธนลภย์ หรือ หยก กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ พม. ปลัดกระทรวง พม.และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ

 

 

อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือ ผู้ปกครองตามกฎหมายของเด็กต้องเข้ามามอบตัวเข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการให้เด็กเอง และ พม.ต้องลงมาช่วยหาพ่อแม่หยก ทุกอย่างจึงจะกระจ่างและไปต่อได้

 

 

“วันนี้สังคมจะต้องทราบข้อมูลความจริงเชิงลึก ที่ต้องเปิดเผยว่าที่ผ่านมาโรงเรียนได้ทำอะไรบ้าง ผมก็ต้องขอชื่นชม และให้กำลังใจ คณะผู้บริหาร ครู และภาคีเครือข่ายของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ที่ได้ทุ่มเทเสียสละ อุทิศตน สุ่มเสี่ยง ที่ต้องลงไปติดตามพ่อแม่น้องหยกถึงบ้านที่จังหวัดร้อยเอ็ดและกรุงเทพฯ หลายครั้งพ่อแม่น้องหยกก็ไม่ใยดี สังคมกรุณาหาคำตอบให้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพ่อแม่น้องหยกและญาติพี่น้องไม่ยอมมามอบตัวน้องหยกตามระเบียบของทางราชการ ถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาดูแลด้วยไม่ใช่ปล่อยให้โรงเรียนรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวัน” นายปรีชา กล่าว

นายปรีชา กล่าวอีกว่า เราต้องผลักประเด็นเหล่านี้ออกนอกสถานศึกษา เนื่องจากเวลานี้เด็กกว่า 4,000 คน ไม่มีสมาธิในการเรียนหลายวันแล้ว บางคนกลัวเพราะได้ยินคนที่เข้ามาพูดจา กร้าวร้าว คุกคาม พูดจาแรง และปัญหาที่เจออีกประการหนึ่งก็คือการแชร์ข้อมูลของสื่อออนไลน์ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งวันนี้เราจะมาฟังความคิดเห็นของ พม.จะว่าอย่างไร

 

 

 

ด้าน ดร.นิวัตร นาคะเวช นายกสภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย(สปคท.) กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ช่วยดูแล รักษาสิทธิ์ให้กับนักเรียนทุกคนในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการด้วย มิใช่ดูแลเฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ต้องดูผลกระทบที่เกิดขั้นกับนักเรียนและผู้ปกครองด้วย มิใช่ผลักภาระทุกอย่างมาที่โรงเรียน พอเกิดปัญหาก็โทษโรงเรียน อยากให้มองในภาพรวม ด้วยความเท่าเทียมกัน อย่ามองแค่ด้านเดียว

 

 

“ผมขอวิงวอนและขอความกรุณาต่อประชาสังคมด้วยครับ อย่ายกและมอบภารกิจให้กับโรงเรียนอย่างเดียว ต้องช่วยกันแก้ปัญหาและรับผิดชอบร่วมกันทุกฝ่ายเพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุด สำหรับเด็กคนนี้ครับ ตอนนี้มีนักวิชาการ ผู้รู้หลาย ๆ ท่าน ได้พยายาม ชี้แนะ แนะนำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ โดยให้โรงเรียนได้ดำเนินการหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน

 

 

 

ทุกวันนี้ ครูมีภาระงานหลายหน้าที่อยู่แล้ว( Day of Life) ของครู อยู่ในภารกิจตั้งแต่ออกจากบ้าน 6 โมงเช้ากลับถึงบ้าน 6 โมงเย็นเป็นเช่นนี้ทุกวัน การเสนอแนะให้โรงเรียนทำเพิ่มอีกหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน คงจะมีเวลาทำการสอนไม่กี่คน อย่าสร้างภาระเพิ่มให้กับโรงเรียนเพื่อดูเด็กเพียงคนเดียวอีกเลย เดี่ยวคุณครูจะลาออกกันหมดนะครับ” นายกสภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย กล่าว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ณเดชน์-เบลล่า" ขึ้นแท่นดาราแห่งปี "หมูเด้ง" ข่าวเด่นแห่งปีของจริงกลบทุกกระแส
เซเว่นฯ เดินหน้านโยบาย “2 ลด ลดพลาสติก ลดพลังงาน" เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชม. เชิญชวนคนไทย ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
“ภูมิธรรม”คาด 4 ลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัว 4 ม.ค. นี้ ยืนยันกลาโหม-กองทัพไม่ได้อ่อนแอ
ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม
โฆษกกห. ยัน ไม่ได้ปิดด่านชายแดนจังหวัดตาก แค่สกัดโรค อุดช่องทางธรรมชาติ
“พิพัฒน์” ลุยปฏิรูป “ก.แรงงาน” ก้าวใหม่สู่ยุค AI สร้างทักษะพัฒนาฝีมือ ดูแลสวัสดิการทุกมิติ
"สรรเพชญ" พร้อมกลุ่มสส.ร่วม "ชวน-บัญญัติ" ส่งหนังสือเร่งรัฐ เยียวยาน้ำท่วมทำใต้วิปโยค
“ทักษิณ” อวย ฉายา “แพทองโพย” เก่งกว่าพ่อนั่งนายกฯ ฟุ้งคนเหนือก็เป็นพ่อเลี้ยงกันหมด
“อนุทิน” น้อมรับฉายา “ภูมิใจขวาง” ลั่นไม่ได้คิดขวางใคร ชื่นชม “นายกฯ” ตั้งใจทำงาน หลังถูกมองเป็นรบ. (พ่อ) เลี้ยง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น