“ยิ่งลักษณ์” ตีบทเศร้า เล่าชีวิตต่างแดน โอดอยากกลับบ้าน แล้วแต่ฟ้าลิขิตโอกาส

"ยิ่งลักษณ์" ตีบทเศร้า เล่าชีวิตต่างแดน โอดอยากกลับบ้าน แล้วแต่ฟ้าลิขิตโอกาส

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 66 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการคุยแหลกแดกดึกกับ คชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ พิธีการรายการชื่อดัง โดยเล่าถึงชีวิตในต่างประเทศว่า ทุกวันนี้พยายามไม่ยึดติดแม้ว่าที่ผ่านมาจะต้องใช้ชีวิตที่ห่างจากลูกชายน้องไปป์-ศุภเสกข์ อมรฉัตร พร้อมยังขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ยังให้ความรักและยังไม่ลืมเพราะถือเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใจในการใช้ชีวิตในต่างแดนไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่วันนี้ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ในการเข้ามาดูแลประเทศ

 

 

 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้ตัวเองก็พยายามหาความรู้และศึกษาเทคโนโลยีต่างๆ ในปัจจุบันเพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยีของโลกและรู้ถึงวิวัฒนาการในต่างประเทศเพื่อเรียนรู้ ต่อยอดและยังใช้เวลาในการออกกำลังกายเพื่อให้มีความสุขในการใช้ชีวิต

“วันนี้พยายามไม่เศร้า พยายามไม่ทุกข์ แต่จริงๆ แล้วก็ต้องยอมรับว่าชีวิตไม่มีความสุขหรือความทุกข์อยู่กับเราตลอดไป แต่ที่เห็นหัวเราะมีความสุข เพราะไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง เพราะไม่งั้นมันจะเป็นความทุกข์ แต่มุมหนึ่งของชีวิตมันก็มีความคิดถึงบ้าน” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่า วันนี้คุณยิ่งลักษณ์ อยากกลับบ้านหรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อยากกลับบ้าน เพราะถือเป็นบ้านเกิด แต่ยังไม่รู้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตาที่ลิขิตว่าจะกำหนดให้ได้กลับบ้านหรือไม่ แต่วันนี้ต้องอยู่ให้ได้ ต้องปล่อยวางและรอจังหวะเวลาในอนาคต

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยว่า ในปัจจุบันที่เยาวชนหันมาสนใจการเมือง และคลิปที่เป็นที่สนใจคือคลิปที่อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ กล่าวแถลงใช่วงที่สถานการณ์การเมืองในอดีตที่รุนแร”เราหวังว่าเรายุบสภาฯแล้วทุกอย่าง ที่เป็นความขัดแย้งก็จะเข้าสู่วิถีทางของประชาธิปไตยในสภาฯ แต่ก็ไม่เป็นไปตามที่มุ่งหวังจนนำไปสู่การรัฐประหาร” น.ส.ยิ่งลักษณ์​ กล่าว

 

 

 

 

 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกด้วยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยพบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แม้จะมีกระแสข่าวดีลลับ ยืนยันตัวเองมีความชัดเจนว่ารับไม่ได้ในเรื่องของรัฐประหาร ส่วนที่พรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับที่ 2 ตนในฐานะผู้ชมก็ต้องยอมรับและดีใจที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนพรรคอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นครรลองในระบอบประชาธิปไตย.-001งผ่านวลี “ถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงแล้ว” ว่าวันนั้นเป็นวันที่พยายามทำทุกอย่าง อะไรที่เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง พยายามปลดล็อคในสิ่งที่รัฐบาลในขณะนั้นทำได้ แต่ก็ยังมีการออกมาขับไล่อย่างรุนแรง ซึ่งในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกันก็ไม่อยากเห็นภาพความขัดแย้ง ซึ่งในสถานการณ์ขณะนั้นตนเองพยายามเข้มแข็งเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้ในการประคับประคองสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น

“เราหวังว่าเรายุบสภาฯแล้วทุกอย่าง ที่เป็นความขัดแย้งก็จะเข้าสู่วิถีทางของประชาธิปไตยในสภาฯ แต่ก็ไม่เป็นไปตามที่มุ่งหวังจนนำไปสู่การรัฐประหาร” น.ส.ยิ่งลักษณ์​ กล่าว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกด้วยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยพบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แม้จะมีกระแสข่าวดีลลับ ยืนยันตัวเองมีความชัดเจนว่ารับไม่ได้ในเรื่องของรัฐประหาร ส่วนที่พรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับที่ 2 ตนในฐานะผู้ชมก็ต้องยอมรับและดีใจที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนพรรคอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาลซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นครรลองในระบอบประชาธิปไตย

 

 

ขอบคุณภาพ : รายการคุยแหลกแดกดึก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น