วันที่ 21 มิ.ย. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สนับสนุนการส่งเสริมสินค้าไทยในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้บูรณาการความร่วมมือ นำแบรนด์ไทย 60 บริษัทเข้าร่วมงาน Western China International Fair ครั้งที่ 19 (WCIF 2023) ณ International Exhibition Center of Western China International Expo City นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2566 นี้ ย้ำศักยภาพของไทยผ่านสินค้าหลากหลายประเภท พร้อมขยายตลาดส่งออกสู่เวทีนานาชาติ
"บิ๊กตู่" ผลักดันแบรนด์ไทย 60 บริษัท ร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้าในจีน เพิ่มโอกาสทางการค้ามากขึ้น
ข่าวที่น่าสนใจ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า งาน WCIF 2023 ถือเป็นงานมหกรรมแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าของใช้ ของตกแต่ง ที่สำคัญที่สุดของมณฑลเสฉวนที่มีประชากรมากกว่า 80 ล้านคน และเป็น 1 ใน 10 งานระดับชาติของจีน ภายใต้ร่วมมือของ 18 กระทรวง และ 12 มณฑลภาคตะวันตกของจีน โดยหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนของไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หอการค้าไทยในจีน และสมาพันธ์ SME ได้ร่วมกันนำแบรนด์ไทยจาก 60 บริษัท เข้าร่วมงาน WCIF 2023 โดยไทยจะจัดแสดงสินค้าในหลากหลายประเภท ทั้งด้านอาหาร ร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เครื่องสำอาง ของตกแต่งบ้าน ชิ้นส่วนยานยนต์ รวมทั้งบริการด้านการเงิน การแพทย์ สปา การศึกษา อสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยว ซึ่งจะแบ่งวันจัดแสดงสินค้าเป็นสองช่วง ได้แก่ วันเจรจาธุรกิจวันที่ 29 – 30 มิถุนายน 2566 เวลา 9.00 น. – 17.00 น. และวันจำหน่ายปลีก วันที่ 1 – 3 กรกฎาคม 2566 เวลา 9.00 น. – 17.00 พร้อมทั้งในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 จะมี Forum ไทย – เสฉวน แสดงศักยภาพด้านการลงทุนของไทยต่อนักธุรกิจในภาคตะวันตกของจีน และกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและมณฑลเสฉวน
นอกจากนี้ ประเทศไทยในฐานะประเทศเกียรติยศได้สร้างอาคารแสดงประเทศไทย (Thai Pavilion) ภายใต้แนวคิด Open. Connect. Balance. ต่อยอดจากการประชุม APEC 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยมีพื้นที่จัดแสดงรวม 780 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ Thailand Pavilion 500 ตารางเมตร และพื้นที่ของบริษัทชั้นนำของไทย รวมไปถึงการจัดคณะนักแสดงทางวัฒนธรรม เพื่อนำเสนอศิลปะการฟ้อนรำ มวยไทย และมรดกทางวัฒนธรรมของไทยตลอดระยะเวลาของการจัดงาน
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การนำเสนอสินค้าไทยผ่านเวทีในต่างประเทศ จะเป็นโอกาสสำคัญในการประชาสัมพันธ์ศักยภาพ ภาพลักษณ์ของไทย สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและผู้บริโภค เพิ่มโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย ผ่านการจัดแสดงสินค้า และทดลองจำหน่ายสินค้าภายในงาน รวมถึงขยายความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมควบคู่ได้อีกด้วย โดยรัฐบาลพร้อมผลักดันให้สินค้าไทยเป็นที่เชื่อมั่นในตลาดต่างประเทศเพื่อกระตุ้นมูลค่าทางการค้า การลงทุนของไทยให้เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ” นายอนุชา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง