ทุกสำนักข่าวต่างประเทศที่เกาะติดความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำไททันที่นำผู้โดยสารระดับมหาเศรษฐี รวม 5 ชีวิตลงไปชมซากเรือไททานิกที่นอกชายฝั่งแคนาดา แต่ขาดการติดต่อตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งล่าสุดได้รับการยืนยันว่าเครื่องบิน P-3 ของแคนาดาซึ่งเข้าร่วมในการกู้ภัยได้ตรวจพบสัญญานเสียงคล้ายเสียงกระแทก “ปัง ปัง” ดังมาจากใต้น้ำในวันนี้ ทำให้ทีมกู้ภัยส่งยานยนต์ไร้คนขับหรือ ROV ดำลงไปหาที่มาของเสียง ล่าสุดยังไม่พบร่องรอย แต่จะเดินหน้าค้นหาต่อไป
ขณะที่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยามฝั่งเผยว่าออกซิเจนในเรือไททันเหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงเท่านั้น โดยประมาณการณ์ว่าออกซิเจนจะหมดในเวลา 1700 นาฬิกาพรุ่งนี้ตามเวลาของไทย (พฤหัสบดี) ทำให้นานาชาติเร่งส่งความช่วยเหลือและอุปกรณ์ต่างๆมาช่วย โดยกลาโหมสหรัฐได้ส่งเครื่องบิน C-130 ลำที่สาม และ C-17s จำนวน 3 ลำ ขณะที่สถาบันสมุทรศาสตร์ของฝรั่งเศสประกาศจะส่งหุ่นยนต์น้ำลึกและผู้เชี่ยวชาญมาสมทบ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ยกวัตถุหนักใต้ทะลลึก โดยปฎิบัติการค้นหาครอบคลุมทะเลเปิดมากกว่า 2 หมื่นตารางกิโลเมตร
ไททัน เป็นเรือดำน้ำเล็ก 5 ที่นั่ง ขนาด 6.5 เมตร ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้อยู่ใต้น้ำได้นาน 96 ชั่วโมง ซึ่งเรือขาดการติดต่อ ในเช้าตรู่วันอาทิตย์ หลังจากดำลงไปในน้ำแล้วเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที
ผู้โดยสารที่อยู่ในเรือดำน้ำได้แก่ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ฮามิช ฮาร์ดิง วัย 58 ปี และชาห์ซาดา ดาวูด นักธุรกิจชาวปากีสถาน วัย 48 ปี กับสุเลมาน ลูกชายวัย 19 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองอังกฤษทั้งคู่ รวมถึง พอล อองรี นาร์โกเล็ต นักสำรวจชาวฝรั่งเศส วัย 77 ปี และ สต็อคตัน รัช ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ โอเชียนเกท เอ็กพิดิชั่นส์ (OceanGate Expeditions )บริษัทเจ้าของเรือดำน้ำลำดังกล่าว