ประชาธิปัตย์เปิดศึก ชิงดำหัวหน้าพรรค

กำหนดชี้ขาด 9 ก.ค.นี้ ขั้วอำนาจปัจจุบันเฉลิมชัยดันเดชอิศม์เป็นหัวหน้าพรรคเอาชัยชนะเป็นเลขาฯ ชูจุดขาย "ร่วมรัฐบาล" ไม่ว่าใครเป็นนายกฯ ขณะที่ฝ่ายผู้เฒ่านำโดยชวนชูอภิสิทธิ์รีเทิร์น ตั้งธงเป็น "ฝ่ายค้าน" หวังโชว์จุดแข็งในอดีตเป็นจุดขายในอนาคต ฟื้นฟูพรรคกู้ศรัทธาจากชาวบ้าน ฝ่ายใดฝั่งไหนจะเข้าวินสุดท้ายก็หนักหมด เพราะพรรคสีฟ้าอยู่ในช่วงตกต่ำขาลงสุดขีด จะไปต่อยังไงในพายุส้ม-แดง

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของพรรคสีฟ้า “ประชาธิปัตย์” สถาบันการเมืองเก่าแก่สุดของไทย 77 ปีบนเส้นทางการเมือง นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 6 เม.ย. 2489 สืบเนื่องมาจนถึงวันนี้ประชาธิปัตย์ หากหัวหน้าพรรคนำลูกพรรคพ่ายแพ้การเลือกตั้งหรือไม่เป็นไปตามตามเป้าหมายที่วางไว้ จะต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการ “ลาออก” ที่นำพรรคไม่ประสบความสำเร็จพบกับความล้มเหลว เลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 ที่ผ่านมาก็เช่นกัน “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคคนที่ 8 นำทัพสีฟ้าได้อันดับ ที่ 6 จากพรรคการเมืองทั้งหมด กวาดส.ส.มาได้แค่ 25 คน แบ่งเป็นส.ส.เขต 22 คน ( 2,231,142 คะแนน) ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3 คน ( 925,349 คะแนน) ซึ่งถือว่าน้อยกว่าการเลือกตั้ง 4 ปีที่แล้วในยุค “อ.มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคเสียอีก ที่การเลือกตั้งคราวนั้นเมื่อ 24 มี.ค.2562 ประชาธิปัตย์มาอันดับ 4 ได้ส.ส.มาแค่ 53 คน ก็ถือว่าต่ำมากแล้ว

แต่มารอบนี้จุรินทร์พาพรรคสีฟ้าตกต่ำกว่ายุคอภิสิทธิ์อีกได้น้อยลงไปกว่าครึ่ง ทำให้จุรินทร์ต้องประกาศไขก๊อกจากหัวหน้าพรรคสีฟ้าแบบเจ็บช้ำตั้งแต่ช่วงดึกวันเลือกตั้งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อส.ส.และสมาชิกทุกคน ด้วยเหตุนี้พรรคสีฟ้าจึงอยู่ในภาวะขาดหัวขาดหางเสือที่จะไปต่อ จุรินทร์กับกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันต้องทำหน้าที่รักษาการจนกว่าจะมีหัวหน้าพรรคคนใหม่และกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ชุดใหม่มาทำหน้าที่ 77 ปีที่ผ่านมาประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 8 คน เลขาธิการพรรค 15 คน ในจำนวนนี้มีหัวหน้าพรรค 4 คน เท่านั้นที่สามารถผงาดขึ้นเป็นนายกฯได้สำเร็จ ประกอบด้วย คนแรก หัวหน้าพรรคคนที่ 1 พ.ต.ควง อภัยวงศ์ เป็นนายกฯคนที่ 4 คนที่สอง หัวหน้าพรรคคนที่ 2 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็น นายกฯคนที่ 6 คนที่สาม หัวหน้าพรรคคนที่ 5 ชวน หลีกภัย เป็นนายกฯคนที่ 20 คนที่สี่ หัวหน้าพรรคคนที่ 7 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯคนที่ 27

ชั่วโมงนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นยุคที่พรรคสีฟ้าตกต่ำสุดขีด ไม่ต้องไปนับความร้อนแรงของฝ่ายส้มล้มเจ้า มองตัวเองดูตัวเองก็จะพบกับความจริง ได้ส.ส.ลดลงอย่างน่าใจหาย ส.ส.เขตลดลงเหลือแค่ 22 คนเท่านั้น ในจำนวนมาจากภาคใต้ 19 คน ที่เหลืออีก 3 คนได้จากแม่ฮ่องสอน สกลนคร อุบลราชธานี ที่อนาจใจยิ่งกว่านั้นในเมืองหลวง พรรคสีฟ้าสูญพันธ์ติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2    แปดปีเต็มๆที่พรรคไม่ได้ความไว้วางใจจากพี่น้องเมืองกรุง ทั้งๆที่แต่ก่อนเป็นพรรคขวัญใจมหาชน เป็นพรรคยอดนิยมของคนกรุงเทพเช่นเดียวกับเพื่อไทย ทั้งหมดคืองานหนักที่หัวหน้าพรรคสีฟ้าคนที่ 9 กับ กก.บห.ชุดใหม่ต้องลงมาตีโจทย์นี้ให้แตก ทำยังไงถึงจะนำพรรคสีฟ้ากลับมาเป็นพรรคขวัญใจของคนไทยให้ได้

9 ก.ค.คือวันที่พรรคกำหนดให้มีการเลือกตั้งหัวหน้าและกก.บห.ชุดใหม่ เบื้องต้นมีชื่อแคนดิเดตโผล่มา 4 ราย ได้แก่ 1. “นายกฯชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้ 2. “มาดามเดียร์” น.ส.วทันยา บุนนาค 3. “ตั๊น” น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร และ 4. อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ รองเลขาธิการพรรค โดยทั้งหมดเรียกว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่คนในพรรคมองว่าต้องเอามากอบกู้วิกฤตพรรค อย่างไรก็ตามในส่วนของอดีต ส.ส.และ บรรผู้อาวุโสของพรรคส่วนใหญ่ ในจำนวนนี้มี นายหัวชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ต่างเห็นตรงกันว่าผู้ที่เหมาะสมจะมากอบกู้ฟื้นฟูพรรคในตอนนี้มีเพียงหนึ่งเดียว และคนๆนั้นก็คืออภิสิทธิ์ คนอื่นไม่น่าจะมีบารมีและอำนาจพอโดยเฉพาะในช่วงที่การเมืองกำลังเชี่ยวกราก ฝ่ายส้มล้มเจ้ากำลังมาแรง กระแสประชาธิปไตยกำลังเฟื่องฟู ไม่มีใครจะเหมาะสมในการกู้พระแม่ธรณีบีบมวยผมมากกว่าเดอะมาร์คอีกแล้ว

แต่ในพรรคหลังอภิสิทธิ์ออกไป แม้ยามนี้จุรินทร์จะถอยห่างออกไปแล้ว แต่เงาของ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน แม่บ้านพรรค เจ้าพ่อ 3 อ่าวแห่งเมืองประจวบฯ ก็ยังมีบทบาทสูงยิ่งอยู่ แม้ตัวเองจะต้องอำลาวงการจะต้องออกจากตำแหน่งเลขาฯพรรค หลังจากที่เคยประกาษิตถ้าเลือกตั้งคราวนี้ได้ส.ส.น้อยกว่าคราวก่อน คือน้อยกว่า 53 คน จะลาออกจากตำแหน่งเลขาฯพรรค จะเลิกเล่นการเมือง ตอนนี้เฉลิมชัยก็พยายามหาทางลงอยู่แต่เป็นการหาทางลงในลักษณะที่ต้องการวาง “ทายาท” ทางการเมืองไว้อยู่ในพรรคสีฟ้าต่อไป จึงไม่แปลกที่จะมีข่าวแกนนำพรรคสีฟ้าเดินเกมส์คุมพรรคต่อดังกระหึ่มในหน้าสื่อ วงในระบุว่าเฉลิมชัยมีส.ส.ในมือราว 17 คน ที่พร้อมหนุนขั้วนี้ให้กุมอำนาจต่อ เบื้องต้นจะมีการชูนายกฯชาย ขาใหญ่สงขลา ขั้วใหม่ภาคใต้ขึ้นเป็นตัวชูโรงชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค ส่วนเลขาธิการพรรคก็จะดันชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ขึ้นเป็นแม่บ้านพรรค อย่าลืมว่าประชาธิปัตย์ตอนนี้เหมือนคนไม่มีแรง ขั้วเก่าอำนาจเดิมก็โรยราเต็มที ขั้วใหม่ที่เป็นแกนนำพรรคอยู่ตอนนี้ก็คือก๊วนเสี่ยต่อ ที่เหลือก็เป็นพวกสอบตก เป็นสมาชิกแต่ไม่มีพลัง เงินก็น้อยคะแนนก็ไม่มีเก้าอี้ก็ไม่มา

สงครามในพรรคสีฟ้าตอนนี้ก็เหมือนหนังจีนที่เราเคยดู ผู้เฒ่าในพรรคโรยราต้องห่ำหั่นต่อสู้กับเลือดใหม่ไฟแรง    ฝ่ายผู้เฒ่าก็มี “ชวน-บัญญัติ” เป็นแกนนำ ฝ่ายเลือดใหม่ก็มี 3 ประสานอย่าง “เฉลิมชัย-เดชอิศม์-ชัยชนะ” ตอนนี้ฝ่ายผู้เฒ่ามีทางเดียวที่จะรอดที่จะกู้พรรคกลับขึ้นมาผงาดในยุทธจักร   คือ ต้องไปตามพระเอกหัวหน้าพรรคเก่าอย่างอภิสิทธิ์มากอบกู้พรรค ขี้หมูขี้หมาอภิสิทธิ์ก็มีคุณสมบัติ บู๊ บุ๋น ครบเครื่องเก๋าเกมส์กว่าคนอื่นเยอะ ชั่วโมงนี้ไม่มีใครที่จะทำให้พรรคการเมืองอื่นครั่นคร้ามหากขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคสีฟ้าเท่ากับอภิสิทธิ์  ไม่แปลกที่จะปรากฎภาพชุมนุมเหล่ายอดยุทธสีฟ้ากันอีกครั้ง อาทิ ชวน อภิสิทธิ์ คุณหญิงกัลยา เกียรติ พนิช ศิริโชค ฯลฯ ในงานวันเกิดของ ” ติ๊งต่าง ” นางกาญจนี วัลยะเสวี เจ้าของไฮโซสปอร์ตคลับ แกนนำกลุ่ม​ชาวไทยหัวใจรักสงบ ที่เป็นแม่ยกเบอร์ต้นๆ ของประชาธิปัตย์ ที่งานนี้เจ้าตัวนอกจากจะอัพรูปในงานให้คนเห็นแล้ว ยังขึ้น FB แฝงนัยยะเรื่องเลือกหัวหน้าพรรคสีฟ้าคนใหม่ว่า ใกล้ถึงวันเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่แล้ว สมาชิกพรรคก็ได้แต่หวังว่า 1.จะมีการปฏิรูปพรรคให้กลับมาเป็นประชาธิปัตย์ที่มีอุดมการณ์ ทำเพื่อประชาชน 2.จะต้องไม่ไปเกาะกับพรรคการเมืองใด เพียงเพื่อให้ตำแหน่ง หากยังคิดจะไปร่วมรบ.(ทั้งๆที่พรรคมีปัญหา) นั่นแสดงว่ากลุ่มคนที่คิดอย่างนี้คิดถึงแต่ประโยชน์ตน #สมาชิกพรรคจะไม่ยอมพวกคุณอีกต่อไป 3.สมาชิกต้องการหัวหน้าพรรคที่มีคุณภาพ มีวิสัยทัศน์มาปฏิรูปพรรค #อย่าตกเป็นเบี้ยล่างของพรรคการเมืองใด

อภิสิทธิ์มีทุกอย่างครบ  มันสมองหาตัวจับยาก  เหลี่ยมคมทางการเมือง  จุดยืนประชาธิปไตยหนักแน่น  ฝีปากกล้าหน้าคม   รวมพลรอบนี้ก็ชัดเจนว่าเป็นการส่งสัญญาณเปิดหน้าเปิดตัวดันอภิสิทธิ์กลับมาชิงหัวหน้าพรรคแน่นอน แต่ก็คงไม่ง่ายที่จะกลับมาคราวนี้ ตอนนี้ในพรรคสีฟ้ามีสองขั้วให้เลือก ขั้วเฉลิมชัยชูเดชอิศม์มีจุดขายเอาพรรคสีฟ้าเข้าร่วมรัฐบาลจะกับเพื่อไทยหรือกับก้าวไกลก็ไม่สน แต่จะต้องเป็นรัฐบาลต่อให้ได้ไม่ว่านายกฯจะเป็นพิธา เศรษฐา หรือพล.อ.ประวิตร  ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวจะพา 15 ส.ส.ไปซบรัฐบาลส้มล้มเจ้าเป็นข่าวฮือฮามาแล้ว    กับขั้วผู้เฒ่าฝ่ายลุงชวนที่ชูอภิสิทธิ์ขายแนวคิดอนุรักษ์นิยม ไม่ไปเป็นรัฐบาลขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านเอาจุดแข็งของตัวเองมาฟื้นศรัทธาจากชาวบ้าน สองฝ่ายประลองกำลังแย่งชิงอำนาจในวันพรรคตกต่ำ จากเคยมีส.ส.เป็นร้อย จากเคยเป็นเบอร์หนึ่งเบอร์สอง ผู้นำในยุทธจักร บัดนี้มีสถานะเป็นได้แค่ “ผู้ตาม” กับ “ลูกหาบ” ทางการเมือง งานใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ใครจะถือธงนำในค่ายสีฟ้า แต่ทำยังไงถึงจะกอบกู้ฟื้นฟูพรรค ให้เติบโตท่ามกลางพายุส้มโหมกระหน่ำพายุลมสีแดงกำลังถาโถมช่วงชิงอำนาจคืน    ศัตรูที่แท้จริงของประชาธิปัตย์ไม่ใช่คนใน  แต่คือสายตรงข้ามไม่ว่าส้มหรือแดง   สายลมสีฟ้าจะไปยืนอยู่ตรงไหนจะขายอะไรกับคนส่วนใหญ่ในวันที่การเมืองไทยเดินไปไกลแล้ว
/////////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น