การเมืองไทยชั่วโมงนี้เรื่องร้อนแรงที่สุดก็คือการจัดตั้งรัฐบาลระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทยว่าจะเดินไปรอดหรือปล่าว “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้เป็นนายกฯคนที่ 30 ตามที่ประกาศไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ตกลงประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นของฝ่ายใด ส้มล้มเจ้าหรือแดงทุนนิยมสามานย์ เกมชิงอำนาจระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทยก็คงต้องยืดยาวไปอีกสักพักจนกว่าจะสุดปลายทางว่าตกลงใครได้เป็นรัฐบาล จะอยู่ด้วยกันหรือแตกแยกออกจากกัน นอกเหนือจากเรื่องส้มกับแดงฟัดกันแล้ว การเมืองอีกมุมอีกฝากที่ต้องจับตาคือเกมชิงอำนาจในพรรคสะตอ ค่ายสีฟ้าประชาธิปัตย์ที่ปีนี้คราวนี้รอบนี้เดือดสุดๆ และอาจถึงวันเวลาที่ต้องถ่ายเลือดเปลี่ยนแปลงพรรคกันแบบจริงๆจังๆ ที่อาจจะกลายเป็นชะตากรรมอันแสนเศร้าของคนในพรรคสีฟ้า
ต้องบอกว่าศึกในพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมรอบนี้ร้อนแรงและหนักหน่วงมากที่สุดในรอบหลายปี คล้อยหลัง “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นำพรรคพ่ายแพ้ย่อยยับในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา จากสถาบันทางการเมือง จากพรรคที่เคยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ที่หนึ่งหรือที่สองในวงการมาตลอด จากพรรคส.สร้อยกว่าคน มาถึงยุคหัวหน้าพรรคคนที่ 8 ผลการเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 ประชาธิปัตย์ได้ส.ส.ลดลงมาแบบน่าใจหายมากเพราะเหลือผู้แทนแค่ 25 คน แบ่งเป็น ส.ส.เขต 22 คน บัญชีรายชื่อ 3 คน ภาคใต้ที่เคยเป็นฐานที่มั่นหลักรอบนี้ได้ส.ส.มาแค่ 19 คนจาก 58 คน ที่เหลือทั่วประเทศมีผู้แทนเขตอีก 342 คน แต่อนาจแท้พรรคสีฟ้าได้รับเลือกตั้งเพิ่มมาอีกแค่ 3 คน คือ สมบัติ ยะสินธุ์ แม่ฮ่องสอน เขต 2 ชาตรี หล้าพรหม สกลนคร เขต 2 วุฒิพงษ์ นามบุตร อุบลราชธานี เขต 2 กทม.สูญพันธ์ติดต่อกันเป็นสมัยที่สองไม่ได้ส.ส.แม้แต่คนเดียว ทั้งๆที่เคยเป็นพรรคยอดนิยมขวัญใจคนกรุงเเท้ๆ คะแนนพรรคทั่วประเทศได้ไปแค่ 923,349 คะแนน ถือเป็นยุคที่ประชาธิปัตย์ต่ำเตี้ยเรี่ยดินสุดๆ ยุค “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ถือว่าต่ำมากแล้วได้ส.ส.มาแค่ 53 คน แต่มายุคจุรินทร์เรียกว่าเตี้ยติดดินเลยก็ว่าได้
อย่างที่รู้ธรรมเนียมพรรคสีฟ้าใครเป็นหัวหน้านำพรรคแพ้เลือกตั้งไม่เป็นไปตามเป้าต้องลาออก จุรินทร์ก็ไม่พ้นวังวนเรื่องนี้ เพียงแต่รอบนี้การเปลี่ยนแปลงในพรรคสีฟ้าอาจไม่ใช่แค่ลมแรงหรือพายุ แต่อาจเป็นระดับไต้ฝุ่นที่พัดรากเหง้าคนเก่าแก่ไปทั้งหมดก็เป็นได้ แย่างที่รู้ก่อนหน้านี้ 3 แกนนำของพรรคในช่วงที่ผ่านมาคือ “จุรินทร์-เฉลิมชัย-นิพนธ์” ตอนนี้ทั้งจุรินทร์และนิพนธ์ถอยหลังออกไป แต่คนที่มีบทบาทสุดๆและกำลังเดินเกมฮุบพรรคชิงอำนาจสีฟ้ามาอยู่ในมือก็คือ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน เจ้าพ่อเมือง 3 อ่าว ผู้มีอิทธิพลตัวจริงเสียงจริงในพรรคสีฟ้าขณะนี้ เฉลิมชัยเกิด 7 มี.ค.2508 ที่อ.ปราณบุรี ปัจจุบันอายุ 58 ย่าง 59 ขึ้นเป็นเลขาฯพรรคพร้อมจุรินทร์เมื่อ 15 พ.ค.2562 อดีตเคยเป็นรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคกลาง ขึ้นเป็นเสนาบดีครั้งแรกสมัยอภิสิทธิ์ในตำแหน่ง “ไตรเทพ1” เป็นรมว.แรงงานอยู่ปีเศษ ตั้งแต่ 6 มิ.ย. 2553 ถึง 9 ส.ค. 2554 ก่อนจะผงาดมาเป็น “พญานาค 1” คุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่ 10 มิ.ย.2562 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เป็นคนตัวใหญ่ ใจกว้าง ร่างสมาร์ท นักเลงการเมือง คอนเนกชั่นกว้างไกล และเป็นสายเปย์ที่แท้ทรูในพรรคสีฟ้าและยุทธจักรการเมืองทุกคนรู้จักและรับรู้กันดี
ก่อนหน้านี้ในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมาถูกจุรินทร์ขยับตั้งเป็นประธานการเลือกตั้งพรรคสีฟ้า มีนิพนธ์เป็นผอ.การเลือกตั้ง ประกาศกร้าวที่บ้านพักว่าถ้าการเลือกตั้งรอบนี้ได้ส.ส.น้อยกว่าคราวก่อน คือไม่ถึง 53 คน จะลาออก จะเลิกเล่นการเมืองทันที จนถึงวันนี้ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว 44 วัน จุรินทร์กับนิพนธ์เฟดไปหมดหลังพาพรรคพ่ายแพ้ย่อยยับหมดรูป แต่เฉลิมชัยยังคง “สู้อยู่” และ “อยู่สู้” ในพรรคต่อไป ก่อนหน้านี้ในช่วงที่พิธาตั้งรัฐบาลใหม่ ประกาศ 8 พรรค 312 คนเดินหน้าตั้งรัฐบาล แต่เสียงไม่พอเป็นนายกฯ เพราะขาดอีก 64 เสียงกว่าจะถึง 376 คน มากกว่ากึ่งหนึ่งของสองสภาที่จะขึ้นเป็นนายกฯได้ หาเสียงจากส.ว.ก็ไม่ได้เพราะมีความคิดล้มเจ้าเปลี่ยนการปกครองประเทศ เหลียวหน้าแลหลังพรรคการเมืองอื่น ทั้งพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ภูมิใจไทย ก็ดันไปประกาศ “มีเรา ไม่มีลุง” แถมไปด้อยค่าพรรคเสี่ยหนู ถึงเวลาพรรคเทวดาจึงไร้เพื่อนไม่มีใครคบหมด ช่วงที่ฝ่ายส้มล้มเจ้าอยากได้เสียงแบบสุดๆ ก็ปรากฎข่าวในทำนองพรรคสีฟ้าเตรียมนำส.ส.17 คนเข้าร่วมรัฐบาลเป็นนั่งร้านให้พิธาขึ้นนายกฯ ข่าวว่าแกนนำ 17 คนที่จะทิ้งอุดมการณ์พรรคฉีกจุดยืนประชาธิปัตย์ที่มีมานาน 77 ปี ที่ทุกคนรับรู้กันดีว่าพรรคนี้ ” รักชาติ เทิดทูนสถาบัน ยึดมั่นประชาธิปไตย” ก็คือเฉลิมชัยนี้แหละ ที่มีข่าวมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังดีลลับสลับขั้วในครั้งนี้ และเผลออนาคตจะทำให้ประชาธิปัตย์สร้างปรากฎการณ์จับมือเป็นรัฐบาลกับเพื่อไทย ทั้งๆที่อดีตยืนอยู่ตรงข้ามทำสงครามเป็นศัตรูกันมาตลอด ความจริงก่อนหน้านี้ในพรรคสีฟ้าก็มีข่าวลือมีข่าววงในมีการคุยกันมาตลอดว่า พรรคสีฟ้ามีการคุยดีลลับจับขั้วตั้งรัฐบาลใหม่กับเพื่อไทยไว้นานแล้ว สมการดังกล่าวถูกพูดถึงก่อนการเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 มานานนม ข่าวว่าแกนนำประชาธิปัตย์มีการคุยหารือลับๆกับแกนนำเพื่อไทยและพลังประชารัฐมาตลอดถึงความเป็นไปได้เรื่องสูตรจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ฝ่ายแดงจะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน
เพื่อไทยมีการทำข้อตกลงแบบลับๆกับพรรคลุงป้อม พรรคเสี่ยหนู พรรคสีฟ้า ย้ายข้างสลับขั้วกันตั้งรัฐบาลบนพื้นฐานหากเพื่อไทยได้ที่ 1 ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์จะมีการดึง 3-4 พรรคขั้วรัฐบาลเดิมมาผสมพันธุ์ ตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ปรองดอง ภายใต้ข้อตกลงนี้ทุกพรรคจะต้องช่วยเหลือพรรคแดง 3 เรื่องเท่าที่ทำได้ หนึ่งคือคดีความของ “เสี่ยโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ที่มีติดตัวอีรุงตุงนัง ช่วยได้แค่ไหนก็ตามแต่ๆขอให้ช่วยเต็มที่ สองคือพลิกสูตรเลือกตั้งจากบัตรใบเดียว 350 เขต 150 ปาร์ตี้ลิสต์มาเป็นบัตรสองใบ เขต 400 บัญชีรายชื่อ 100 ใช้สูตรหาร 100 และ สามเอื้ออำนวยความสะดวกในการกลับบ้านของโทนี่พ่อแดงแห่งนครดูไบเดินทางสู่สยามประเทศอย่างปลอดภัยไร้กังวล ทุกคนเข้าใจข้อตกลงเรื่องนี้เป็นอย่างดี ตอนนี้ 1-2 เดินหน้าไปแล้ว ข้อ 3 กำลังจะตามมา แม้เพื่อไทยจะไม่ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เพราะดันไปเจอกำแพงส้มขวางทาง แต่โอกาสตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของเพื่อไทยก็ยังมีอยู่ ถ้าพิธาไม่ผ่านโหวตนายกฯก้าวไกลไม่อาจตั้งรัฐบาลได้ เพื่อไทยจะพลิกเกมกลับมาเป็นรัฐบาลแน่นอน ส่วนใครจะเป็นนายกฯระหว่าง “ลุงป้อม-เศรษฐา” ก็ค่อยไปลุ้นกัน แต่ภายใต้การนำของรัฐบาลเพื่อไทย จะมี 17 ส.ส.ประชาธิปัตย์ใต้ปีกเจ้าพ่อสามอ่าวอย่างเฉลิมชัยอยู่ร่วมด้วยอย่างแน่นอน อย่าได้แปลกใจที่ข่าว 17 ส.ส.พรรคสีฟ้าจะไปอยู่กับเพื่อไทยจะดังกระหึ่มและมีโอกาสเป็นจริงสูงยิ่ง หากประชาธิปัตย์ยังอยู่ภายใต้อุ้งมือของเฉลิมชัย ชั่วโมงนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้หมด แม้กระทั่งการ “ล้างไพ่-ล้างพรรค” เปลี่ยนสถาบันการเมืองแบบที่ไม่เคยเกิดมาก่อนก็อาจเป็นไปได้ ถอดรหัสจากที่ “นายกฯชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เฉลิมชัยเตรียมดันเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ก็พอจะเห็นเค้าลางชัด ” คิดว่าน่าจะเอาคนที่ใหม่ๆ ความคิดและความเห็นใหม่ๆ เพราะทุกวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากแล้ว เรารู้ตัวเที่ยวนี้ว่าเราควรปรับแบบ 360 องศาเลย” แตกหักแค่ไหน พรุ่งนี้จะมาเฉลย จับตาประชาธิปัตย์แตกหัก เผยแผนยึดพรรค FC พรรคสีฟ้าฟังแล้วอาจหนาวเลยทีเดียว ชิงหัวหน้าพรรคคนที่ 9 วันที่ 9 ก.ค.2566 ประดาบเลือดสาด ระหว่าง “ขั้วผู้เฒ่า” กับ “ขั้วเจ้าพ่อสามอ่าว” ใครจะเข้าวิน
///////////////////