“บิ๊กตู่” ชื่นชมการค้าไทย-จีนเติบโตต่อเนื่อง เพิ่มช่องทางตลาดระหว่างประเทศ

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีการค้าไทย-จีน เติบโตต่อเนื่อง ชื่นชมความสำเร็จขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าในมณฑลซานตงของจีน เพิ่มช่องทางตลาดระหว่างประเทศ

28 มิ.ย.2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับความร่วมมือทางการค้าของไทย – จีนที่เติบโตต่อเนื่อง โดยได้ร่วมกันจัดงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน (ซานตง) – ไทย (China (Shandong) – Thailand Business Co-operation and Matchmaking Conference) สะท้อนพัฒนาการทางการค้าระหว่างสองประเทศ พร้อมขยายโอกาสทางธุรกิจและอุตสาหกรรมทุกมิติ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มณฑลซานตง ถือเป็นมณฑลที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดมณฑลหนึ่งของจีน มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและข้อได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ต่าง ๆ เช่น มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของจีน มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ครบทั้ง 41 ประเภทของจีน มีช่องทางโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นจุดตัดของเส้นทางสายไหมทางบกและทางทะเล ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจการท่าเรือและการขนส่ง รวมทั้งมีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) สามารถรองรับการขยายความร่วมมือกับประเทศสมาชิก RCEP ในด้านต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม

 

 

 

โดยล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา หน่วยงานทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำมณฑลซานตง (CCPIT) คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) หอการค้าไทย-จีน และสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีนประจำประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน (ซานตง) – ไทย โดยมีบริษัทจากมณฑลซานตงและไทยจำนวนกว่า 400 บริษัท เข้าร่วม เกิดการเจรจาธุรกิจแบบทวิภาคีในที่จัดงานกว่า 300 คู่ และมีการลงนามความร่วมมือมากกว่า 10 ฉบับ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานส่งเสริมการค้า และวิสาหกิจ

โดยข้อมูลจากหอการค้าไทย–จีน ระบุว่า คณะผู้แทนด้านเศรษฐกิจและการค้าของซานตงที่เข้าร่วมการประชุมฯ ดังกล่าว ประกอบด้วยวิสาหกิจในมณฑลซานตง จำนวนกว่า 100 บริษัท โดยมี 22 บริษัทในกลุ่มจัดซื้อผลิตภัณฑ์และความร่วมมือด้านการลงทุนที่มีศักยภาพสูงในการเปิดตลาดและมีเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีความตั้งใจชัดเจนในการร่วมลงทุนกับบริษัทของไทย แบ่งตามประเภทได้ 8 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มอุปกรณ์เครื่องกลและไฟฟ้าและอุปกรณ์เสริม กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มยางล้อและชิ้นส่วนรถยนต์ กลุ่มสินค้าเกษตร กลุ่มอาหารและเครื่องจักรแปรรูป กลุ่มอุตสาหกรรมเบาและสิ่งทอ กลุ่มสุขภาพและการแพทย์ และกลุ่มเคมีภัณฑ์และ e-Commerce ซึ่งล้วนมีศักยภาพทางการค้าและสามารถต่อยอดไปยังภูมิภาคอื่นๆ ในอาเซียนได้

 

 

“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าความร่วมมือและเวทีทางการค้าระหว่างกันจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจได้อย่างรอบด้าน โดยเป็นการเปิดพื้นที่ให้พบปะหารือ หรือจับคู่ทางธุรกิจได้ตรงตามความต้องการของผู้ลงทุนหรือผู้ประกอบการในแต่ละภาคส่วนอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันไทยมีความร่วมมืออย่างกว้างขวางกับจีน ทั้งด้านอุตสาหกรรม พาณิชย์ เกษตร เทคโนโลยี พลังงาน และการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนความร่วมมือของภาคธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับอุตสาหกรรม ยกระดับผู้ประกอบการของไทย” นายอนุชาฯ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น