ประชุมเศรษฐกิจโลกที่จีน-จีนกล่าวหาสหรัฐและอียู อ้างเรื่องลดความเสี่ยงของเศรษฐกิจ ด้วยการลดการพึ่งพาจีนเป็นเพียงข้ออ้าง พร้อมเรียกร้องการพัฒนาไปด้วยกัน
นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้ขึ้นกล่าว ในฐานะประธานในพิธีเปิดการประชุม World Economic Forum ที่จัดขึ้นที่เมืองเทียนจิน ทางตอนเหนือของประเทศวานนี้ ซึ่งมีผู้นำจากนิวซีแลนด์ มองโกเลีย เวียดนาม และบาร์เบโดส รวมถึงคณะผู้แทนชุดใหญ่จากซาอุดิอาระเบียเข้าร่วม เขาได้ตอกกลับนโยบายของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่มุ่งลดการพึ่งพาจีนว่า เป็นแค่ข้ออ้าง
หลี่กล่าวว่า ในตะวันตก บางคนพูดถึงสิ่งที่เรียกว่าตัดลดการพึ่งพาและลดเสี่ยง ซึ่งแนวคิดทั้งสองนี้ เป็นข้อเสนอที่ผิด เนื่องจากการพัฒนาของเศรษฐกิจในยุคโลกาภิวัฒน์นั้น ทำให้เศรษฐกิจโลกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้ทั้งคุณและผมต่างเกี่ยวโยงกัน ดังนั้นเศรษฐกิจของหลายประเทศจึงต่างต้องผสมผสาน พึ่งพากัน เพื่อประสบความสำเร็จ และพัฒนาไปด้วยกัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย
ทั้งนี้การประชุม World Economic Forum หรือที่เรียกกันติดปากว่า Summer Davos ได้เริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ จนถึงวันพฤหัสฯ ซึ่งเป็นการจัดประชุมครั้งแรกหลังจากห่างหายไปนาน 3 ปี จากการแพร่ระบาดของโควิด
ในเดือนมกราคม นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลย์เยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวถึงแนวทางของสหภาพยุโรปต่อจีนว่าเป็นการลดความเสี่ยงมากกว่าการแยกตัว เนื่องจากประเทศสมาชิกยังคงพยายามทำงานและทำการค้ากับจีน ส่วนสหรัฐ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังคงใช้นโยบายที่แข็งกร้าวกับจีน รวมถึงการห้ามส่งออกเซมิคอนดักเตอร์คุณภาพสูงไปให้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวยืนยันในระหว่างการเยือนปักกิ่งว่า สหรัฐไม่ได้ต้องการควบคุมเศรษฐกิจของจีน แต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่จัดหาเทคโนโลยีให้จีน ที่จะนำมาใช้ตอบโต้สหรัฐได้
นอกจากนี้นายหลี่ยังกล่าวยืนยันว่า เศรษฐกิจจีนจะโตตามเป้าที่ตั้งไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ร้อยละ 5 ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการโตต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากกฎการคุมโควิดที่เข้มงวด ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจ ขณะนี้จีนกำลังต่อสู้กับการฟื้นตัวหลังโควิด-19 ที่ช้าลง และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสำคัญ 2 รายการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และกำลังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอสังหาริมทรัพย์