ประเด็นร้อนกรณีพรรคประชาธิปัตย์จัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่ 9 กรกฎาคม โดยไฮท์ไลท์น่าจะอยู่ที่การช่วงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่กำลังคุกรุ่นอย่างหนักระหว่าง 2 กลุ่มอำนาจ โดยกลุ่มแรกเป็นกลุ่มของนายชวนหลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายนิพนธ์ บุญญามณี ที่ต้องการผลักดันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เพื่อกอบกู้สถานการณ์พรรคที่ตกต่ำ ขณะที่อีกกลุ่มคือนายเฉลิม ชัยศรีอ่อน เลขาธิการพรรคที่มีความพยายามผลักดันนายเดชอิศม์ ขาวขำ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเป็นผู้ท้าชิง
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ก่อนหน้านี้นายเฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในทำนองว่า ยังไม่มีใครเสนอตัว ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายเดชอิศม์ เป็นตัวเต็งนั้น ใครมีคุณสมบัติได้หมด แต่ตอนนี้ยังไม่มีข่าว ส่วนที่ออกไปเป็นแค่ข่าวลือ ข่าวมั่ว เรืองนี้ขอให้ที่ประชุมใหญ่เขาเลือกกันมติประชาธิปไตย แต่ยืนยันว่า ไม่มีล็อคโหวต นอกจากนี้นายเฉลิมชัยยังปฏิเสธว่า ส.ส.เขตทั้งหมดขึ้นกับเลขาธิการพรรค แต่หาก ส.ส.เหล่านั้นจะนับถือและเคารพก็ถือเป็นสิทธิ์ของเขา แต่ถ้าเขาจะไม่นับถือ หรือไม่เคารพเราก็เป็นสิทธิ์ของเขาเช่นกัน
คำสัมภาษณ์ดังกล่าวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าศึกเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จากนี้ไปจะเข้มข้นดุเดือดอย่างแน่นอน โดยเฉพาะท่าทีของนายเฉลิมชัย แม้จะออกมาปฏิเสธในทุก ๆ เรื่อง แต่หากจับภาษากายจะรู้ว่า นายเฉลิมชัยคือผู้เล่นตัวจริง และเป็นผู้กุมอำนาจภายในพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกลุ่ม ส.ส.เขตที่ให้การสนับสนุน
อย่างไรก็ตามเมื่อย้อนไปในช่วงก่อนการเลือกตั้ง นายเฉลิมชัยเคยประกาศจุดยืนชัดเจนว่า จะวางมือจากพรรคประชาธิปัตย์และเลิกเล่นการเมืองอย่างแน่นอน แต่มาถึงเวลานี้นายเฉลิมชัยหลงลืมคำมั่นดังกล่าวเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งท็อปนิวส์ขอย้อนคำพูดของนายเฉลิมชัยที่ประกาศจะวางมือทางการเมืองดังนี้
-14 เม.ย.2565 นายเฉลิมชัย ประกาศว่า “วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เรามี ส.ส.จำนวน 51 คน และคาดว่าปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะมี ส.ส.มากกว่านี้ หากพรรคไม่ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ผมเองจะกลับมาประจวบฯ และจะเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต
-14 ส.ค.2565 นายเฉลิมชัย ยืนยันซ้ำอีกว่า “ผมไม่บอกว่าจะได้กี่เขต แต่วันที่พรรคมีวิกฤต ผมประกาศไว้ชัดเจนแล้ว รอบนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่ำกว่า 52 ที่ ผมเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต เลิกเล่นนะ ไม่ใช่หยุดเล่น เลิกคือหันหลังเดินออกไปเลย”
-30 พ.ค.66 นายเฉลิมชัยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงการเลือกหัวหน้าพรรค โดยเฉพาะในส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคยังเป็นคนเดิมหรือไม่ว่า “ไม่หรอก ผมหยุดอยู่แล้ว” แต่ใครจะมาปรึกษาก็ทำได้ และถ้าไม่มาปรึกษาก็จะอยู่บ้าน