ข่าวใหญ่การเมืองนอกเหนือจากการลุ้นชิงดำตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันอังคารที่ 4 ก.ค.266 แล้ว การช่วงชิงอำนาจในพรรคสีฟ้าประชาธิปัตย์เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมหารบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ก็น่าลุ้นน่าติดตามยิ่งนัก ล่าสุดพรรคมีการประกาศวัน ว. เวลา น. ในการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2566 ออกมาแล้ว ในวันที่ 9 ก.ค.2566 นี้ เวลา 08.30 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เขตหลักสี่ พร้อมแต่งตั้งสามารถ ราชพลสิทธิ์ เป็นประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งกก.บห.ชุดใหม่ ในพรรคตอนนี้ถือว่านับถอยหลังรอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่อาจจะกลายเป็น “ครั้งใหญ่” ของพรรคก็เป็นได้ โดยมีขั้วอำนาจเก่ากับขั้วอำนาจใหม่ชิงจังหวะคุมอำนาจกัน
อย่างที่รู้ในการชิงดำเลือกหัวหน้าพรรคใหม่คราวนี้ ดูทรงแล้วน่าจะมีแค่ 2 ขั้วเท่านั้นที่้ต่อสู้ช่วงชิงกัน แม้จะมีความพยายามนการเสนอชื่อคนใหม่ๆให้เข้ามาเป็น “ทางเลือก” ของพรรค อาทิ “ดร.เอ้” สุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรค “ตั้น” จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ทายาทสิงห์ดาวรุ่งฝ่ายส.ส.หญิง “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค ซ้อใหญ่ค่ายเนชั่นยักษ์ใหญ่สื่อไทย หรือแม้แต่ “ดร.บิล” อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ลูกรักนายหัวชวน แต่ทั้งหมดก็ยังอ่อนพรรษา บารมีไม่ถึง ชั่วโมงบินคงไม่พอ โดยเฉพาะในช่วงที่การเมืองกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน การเมืองภาพใหญ่ก็กำลังชิงจังหวะตั้งรัฐบาลกันอยู่ การเมืองในพรรคก็แตกแยกแบ่งออกมาเป็นสองขั้ว บรรดาคนรุ่นใหม่ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่น่า จะทนแรงเสียดทานจากการเมืองทั้ง “ใน” และ “นอก” พรรคได้ ที่สำคัญดูเหมือนว่าขั้วอำนาจใหญ่ในพรรคสีฟ้าน่าจะวาง “คน ” ที่เป็นตัวแทนกันไว้แล้วว่าจะส่งใครเป็น “คู่ชิง-คู่เทียบ” ลุ้นตำแหน่งหัวหน้าประชาธิปัตย์ในรอบนี้ ฝ่ายขั้วอำนาจปัจจุบันนำทีมโดยเจ้าพ่อสามอ่าว หัวขบวนคือ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ รักษาการเลขาธิการพรรค มีขุนพลสำคัญคือ ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ขั้วนี้ชู “นายกฯชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค คนโตสงขลาเป็นผู้ท้าชิงหัวหน้าพรรคคนใหม่ ขณะที่ขั้วอำนาจเก่าทีมผู้อาวุโสของพรรค มีชวน หลีกภัยเป็นหัวขบวน มี บัญญัติ บรรทัดฐาน และผู้อาวุโสของพรรคส่วนใหญ่อยู่สายนี้หมด แนวทางขอรียูเนี่ยนดึง “อ.มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯคนที่ 27 อดีตหัวหน้าพรรคคนที่ 7 กลับมาปัดฝุ่นใหม่ ล่าสุดต่างฝ่ายต่างยังอุบไต๋กันอยู่ แต่เชื่อแน่ว่าสองฝั่งจะผลักดันสองคนนี้แหละเป็นคู่ชิงหัวหน้าพรรคสีฟ้าคนที่ 9 ในวันที่ 9 เดือนก.ค.นี้
ล่าสุดท่าทีของทั้ง 2 ฝ่ายนั้น ฝั่งเฉลิมชัยออกมายืนกรานไม่มีล็อคโหวต ไม่มีใบสั่งให้ส.ส.ของพรรคเลือกใครแต่อย่างใด ตรงนี้ขอให้ที่ประชุมใหญ่เลือกกันด้วยมติประชาธิปไตย แถมท้ายด้วยการออกมาสวนอภิสิทธิ์แบบสุดเจ็บ กรณีที่ออกมาพูดว่าการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคไม่สำคัญเท่ากับเอกภาพในพรรค ที่เสี่ยต่อบอกว่าตัวเองก็เรียกร้องเรื่องนี้ในพรรคมานาน 4 ปีแล้ว แถมเกทับกลับไปว่าการเลือกหัวหน้าพรรคที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ ทุกอย่างก็เป็นไปตามข้อบังคับพรรคที่มีมากว่า 10 ปี และแก้ไขในยุคอภิสิทธิ์นั้นแหละ ข้างฝ่ายเดชอิศม์ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในลักษณะสงวนท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ทำนองว่า ในพรรคมีคนเก่งมีความรู้ความสามารถเหมาะสมมากกว่าตนหลายคน แต่ก็ทิ้งปริศนาท้ายประโยคแบบชวนคิดในเชิงถึงเวลาล้างไพ่ล้างพรรคแล้ว ” คิดว่าน่าจะเอาคนที่ใหม่ๆ ความคิดและความเห็นใหม่ๆ เพราะทุกวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากแล้ว เรารู้ตัวเที่ยวนี้ว่าเราควรปรับแบบ 360 องศาเลย”
ข้างฝ่ายขั้วอำนาจเก่าสายนายหัวชวนฟากอภิสิทธิ์แม้ยังไม่ออกตัวเรื่องนี้แบบเต็มๆ แต่ล่าสุดกรณีที่ให้ศิริโชค โสภา อดีตส.ส.สงขลา วอลเปเปอร์ข้างกายอภิสิทธิ์ ออกมาโพสต์ภาพเฟซบุ๊คภาพแกนนำพรรคสีฟ้า ถ่ายรูปร่วมเฟรมระหว่างกินเลี้ยงงานวันเกิด “เจ๊ติ้งต่าง” นางกาญจนี วัลยะเสวี แม่ยกปชป. ที่บ้านพักแถวสุขุมวิท โดยมีคนสำคัญของพรรคสีฟ้าหลายคน อาทิ ชวน อภิสิทธิ์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เกียรติ สิทธีอมร พนิต วิกิตเศรษฐ์ วทันยา บุนนาค เชาว์ มีขวด ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ฯลฯ ตรงนี้ก็ส่งสัญญาณส่งนัยยะระดมพลประกาศสู้ศึกให้กับอภิสิทธิ์ในครั้งนี้แน่นอน เพราะคล้อยหลังงานเจ๊ติ้งต่างก็อัพเฟซบุ๊คประกาศเลยว่า ” ใกล้ถึงวันเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่แล้ว สมาชิกพรรคก็ได้แต่หวังว่า 1.จะมีการปฏิรูปพรรคให้กลับมาเป็นประชาธิปัตย์ที่มีอุดมการณ์ ทำเพื่อประชาชน 2.จะต้องไม่ไปเกาะกับพรรคการเมืองใด เพียงเพื่อให้ตำแหน่ง หากยังคิดจะไปร่วมรบ.(ทั้งๆที่พรรคมีปัญหา) นั่นแสดงว่ากลุ่มคนที่คิดอย่างนี้คิดถึงแต่ประโยชน์ตน #สมาชิกพรรคจะไม่ยอมพวกคุณอีกต่อไป 3.สมาชิกต้องการหัวหน้าพรรคที่มีคุณภาพ มีวิสัยทัศน์มาปฏิรูปพรรค #อย่าตกเป็นเบี้ยล่างของพรรคการเมืองใด” ก็ชัดเจนว่าต้องการแซะใครและต้องการส่งความหมายแบบใดถึงสมาชิกพรรคให้ตัดสินอนาคตของตัวเองในวันที่ 9 ก.ค.นี้
สำหรับองค์ประชุมในการเลือก กก.บห. และหัวหน้าพรรค ชุดใหม่นั้น เบื้องต้นพรรคได้กำหนดองค์ประชุมไว้ 374 คน ประกอบด้วย กก.บห. ชุดรักษาการ สมาชิกพรรคที่เป็นอดีตหัวหน้าพรรค อดีตเลขาธิการพรรค ส.ส. ชุดปัจจุบัน 25 คน สมาชิกพรรคที่เป็นรัฐมนตรี 2 คน อดีตรัฐมนตรี 19 คน อดีต ส.ส. ที่ยังเป็นสมาชิกพรรค 85 คน ผู้บริหารท้องถิ่นที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค 1 คน สมาชิกสภาท้องถิ่นที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค 1 คน สาขาพรรค 20 คน ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด 172 คน และอื่นๆอีก 20 คน แต่ในจำนวนนี้คะแนนของส.ส. 25 คนจะมีความสำคัญที่สุด ฝ่ายเฉลิมชัยตอนนี้เป็นต่อหลายขุมเพราะล่าสุดกุมเสียงส.ส.ไว้ถึง 17 จาก 25 คน ที่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นส.ส.เขตที่เสี่ยต่ออุปถัมน์ค้ำชูช่วยเหลือเกื้อหนุนกันมาตลอด เนื่องจากที่ผ่านมาพรรคไม่ได้ดูแลคนเหล่านี้เลย เลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา หัวจ่ายพรรคอุดตันเดินเครื่องแบบกะปริดกระปรอยติดๆขัดๆไม่เต็มที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ก็ได้เสี่ยต่อนี้แหละหยอดจาระบีขัดหัวเทียนให้ จึงไม่แปลกที่จะมีไลน์หลุดยอมรับกลายๆในทำนองว่าส.ส. 17 คน มอบฉันทามติให้เสี่ยต่อดำเนินการแทนตัวเองทั้งหมดไม่ว่าเรื่องอะไร ทั้งย้ายขั้วทั้งเรื่องทิศทางต่างๆในพรรค อย่างที่เคยเล่าให้ฟังไปก่อนหน้านี้เรื่องดีลับเพื่อไทยกับขั้วรัฐบาลปัจจุบัน ข่าวว่าแกนนำพรรคสีฟ้าที่เป็นตัวตั้งตัวตีหาทางออกให้พรรคในอนาคตเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือเฉลิมชัยนี้แหละที่เป็นคนดีลกับเพื่อไทย บารมีของเสี่ยต่อกว้างไกล นักเลงการเมือง รู้จักทุกพรรครักทุกคน สนิท “เสี่ยโอ๋”ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาฯภูมิใจไทย แนบแน่น “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า น้องรักลุงป้อมแห่งพลังประชารัฐ แถมเป็นเพื่อนกับประเสริฐ จันทรรวงทอง แม่บ้านเพื่อไทย เรื่องพลิกขั้วไหนเลยจะยาก เรื่องนี้ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ อย่าได้แปลกใจหากข่าวเรื่อง 17 ส.ส.ปชป.จะย้ายขั้วสลับข้างไปอยู่กับเพื่อไทยจะหลุดออกมาแบบมีความเป็นไปได้สูงยิ่ง เพราะเอาเข้าจริงมันไม่ยากเลย จับตาดูถ้ายึดพรรคเสร็จ ปชป.ย้ายข้างแน่
ในพรรคตอนนี้ก็ชัดเจนว่าเลือกตั้งหัวหน้าปชป. 9 ก.ค.อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ การต่อสู้จะถูกบีบให้เหลือแค่ 2 มุมเท่านั้น มุมแดงชวนนำส่งอภิสิทธิ์ขายจุดยืนอนุรักษ์นิยมประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านล้านเปอร์เซ็นเดินหน้าใช้ “จุดแข็ง-จุดเด่น” ของตัวเองในอดีตกลับมากอบกู้ฟื้นฟูพรรค ขณะที่มุมน้ำเงินเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าค่ายขอส่งมวยพะบู๊เมืองสงขลาอย่างเดชอิสม์เข้าช่วงชิง แม้จะมีชื่อถูกกกต.แขวนเพราะถูกร้องคัดค้านการเลือกตั้ง แต่มั่นใจหลุดบ่วงความผิดในมือมี 17 ส.ส.เขต เป็นตัวแปรสำคัญเป็นกองหนุนทรงพลังยิ่ง เป้าหมายค่ายนี้ชัด “ยึดพรรค-ย้ายขั้ว” เอาความอยู่รอดเป็นที่ตั้ง อุดมการณ์-จุดยืน เก็บเข้าลิ้นชักไปก่อน แม้จะต้องรวมพลังกับศัตรูตลอดกาลอย่างเพื่อไทยก็จำเป็น แตกหักกันแน่ชัดต่อสู้ประดาบกันเลือดสาดแน่นอน เพราะต่างฝ่ายต่างก็แพ้ไม่ได้ ชวนพ่ายอภิสิทธิ์แพ้ก็คงหมดโอกาสคัมแบ๊กกลับพรรคสีฟ้าส่วนบรรดาผู้เฒ่าก็อาจถึงขั้นโดนแขวนขึ้นหิ้งถูกยึดอำนาจหมด แต่ถ้าเฉลิมชัยเพลี่ยงพล้ำเดชอิศม์ยับเยินในพรรคก็คงไม่มีที่ยืนให้เจ้าพ่อสามอ่าวกับคนใหญ่บ่อยางและบรรดาพวกพ้อง ธรรมเนียมประชาธิปัตย์วัฒนธรรมพรรคสะตอ ” คนชนะกุมอำนาจงามสง่าในพรรค – ผู้แพ้ต้องจากไปไร้ที่ยืน” เป็นแบบนี้มาตลอดทุกยุคทุกสมัย 9 ก.ค.2566 นี้ก็ไม่พ้นวัฏจักรนี้
////////////////////