“หมอชลน่าน” เสียงอ่อน เก้าอี้ประธานสภาฯแค่ขอไม่ได้แข่ง เปรยถูกคลุมถุงชนอยากลาออกพรรคร่วมทำไม่ได้

9 มิ.ย.2566 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรหลังพรรคก้าวไกลนัดหารืออย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า มีการนัดหารือกันแล้วระหว่างพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทยในช่วงเช้า วันที่ 2 กรกฎาคม พร้อมกับการประชุมหัวหน้าพรรค 8 พรรคร่วมในช่วงบ่าย มั่นใจว่า การเจรจา จะคุยกันจนได้ข้อสรุปที่ดี เมื่อถามถึงสูตรที่มีการเสนอขึ้นมาใหม่ คือ 15+1 และ 13+1 นายภูมิธรรม ระบุว่า ยังไม่เคยได้ยินสูตรนี้เลย ขอยืนยันในสูตร 14+1 เป็นจุดเริ่มต้นในการพูดคุยกัน เราเสนอไปแบบนั้น และยังไม่เคยได้รับคำตอบที่เป็นทางการชัดเจนกลับมา จึงต้องหารือกันก่อน นายแพทย์ชลน่าน กล่าวเสริมว่า เราเข้าใจตัวเองดีว่าเราเป็นพรรคอันดับสอง และเราเคารพพรรคอันดับหนึ่งตลอดเวลา ข้อเสนอที่เราเสนอไป คือให้พรรคอันดับ 1 พิจารณา

“เราเคารพสิทธิตลอดเวลา เราร้องขอไปว่าท่านจะพิจารณาให้หรือไม่ ไม่ใช่การยื้อแย่งตำแหน่ง ไม่ใช่การบีบบังคับกัน ในวงเจรจาเรารู้ถึงสิทธิ์ของตัวเองดี แต่ตอนนี้เราขอประธานสภาฯ เพื่อดุลยภาพในการทำงาน ไม่ใช่การยื้อแย่ง และไม่ได้หักหลังประชาชน จะให้หรือไม่เราขอตำแหน่งเป็นทางการ ตามหลักการเท่านั้นเอง” ด้านนายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า เราเสนอโดยการพูดคุยกัน แต่ยังไม่ได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการ แต่คำตอบที่ได้ล้วนเป็นคำตอบจากความเห็นรายบุคคลหรือความเห็นส่วนบุคคล

ข่าวที่น่าสนใจ

นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า การเจรจาที่เอาหลักพื้นฐานเดียวกันคือเอาพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จากทั้ง 25 ล้านเสียงที่เลือกทั้งสองพรรค เป็นหลักการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตย หากยึดสิ่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้น จะมีข้อสรุปที่ดีแน่นอน สิทธิของพรรคอับดับ 1 หากขอแล้วไม่ให้ เราก็ต้องมาพิจารณาต่อว่าจะเอาอย่างไร แต่ยืนยันว่าหลักการคือการเป็นรัฐบางของฝั่งประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า การที่พรรคก้าวไกลเปิดตัวนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. พิษณุโลกเป็นแคนดิเดตประธานสภาผู้แทนราษฎร จะทำให้พรรคเพื่อไทยเสียเปรียบในการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานสภาหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ถือว่าอยู่ในดุลพินิจของประชาชน แต่พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้เสนอชื่อใคร เพราะเคารพในหลักการการหารือร่วมกัน หากไม่ชัดเจนก็ไม่ควรเสนอชื่อให้เป็นประเด็นปัญหา และเกิดความไม่พอใจในผู้สนับสนุนของทั้งสองพรรค แต่ก็เป็นสิทธิของพรรคก้าวไกลในการเสนอชื่อ ซึ่งทางเพื่อไทยก็มีบุคคลที่มีความพร้อมในการเป็นประธานสภาฯ อยู่หลายท่าน  เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยเคาะรายชื่อ นายแพทย์ชลน่าน ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคทั้ง 2 พรรคควรได้ตำแหน่งในการทำงานเพื่อความสมดุลกัน เพื่อทำงานด้วยกันได้อย่างดี แต่ยังไม่ใช่ข้อสรุป ซึ่งท้ายที่สุดยังไม่สามารถบอกได้ ขึ้นอยู่ที่การเจรจา และคณะกรรมการบริการพรรคว่าจะเป็นใคร เพราะพรรคเพื่อไทยมีบุคลากรที่เหมาะสมหลายคน ก็ต้องดูว่าใครเหมาะสมที่สุด

ขณะที่นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคก้าวไกลจะเสนออะไรในฐานะพรรคอันดับ 1 สามารถทำได้โดยชอบ แต่เราในฐานะพรรคอันดับ 2 เราก็ร่วมแถลงสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาล เราค่อนข้างระมัดระวังในการเสนออะไรลงไป การที่เราเสนอตำแหน่งประสภาฯ นั้น ไม่ใช่แค่ทัวร์ลง แต่ทุกอย่างมาลงที่เพื่อไทยหมดเลย การเสนอชื่อตำแหน่งประธานสภาฯ ของเพื่อไทยไป โดยการเสนอทั้งที่ยังไม่ได้รับคำตอบ หากเราเสนอชื่อใครออกไปประกบกับพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยจะถูกประณามมากกว่านี้ และถูกมองว่าเป็นการแข่งทันที “เราขอ ไม่ได้แข่ง ซึ่งเป็นคนละความหมายกันเลยเราขอให้คุณอนุญาตให้เราหรือไม่ คุณจะให้เราหรือเปล่า และเป็นสิทธิ์ของพรรคอันดับหนึ่งในการตัดสินใจ เราจะได้กลับมาพิจารณาว่าจะทำอย่างไร หากไม่ให้ และกลับคิดว่าจะทำงานแบบไหน”

เมื่อถามย้ำว่า การกลับมาพิจารณาหมายถึง การทบทวนออกจากพรรคร่วมหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า “เราถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน แม้เราอยากออกไป แต่เราออกไปไม่ได้ เน้นนะครับ เราออกไปไม่ได้ แม้เป็นสิทธิของเราในการออกไปด้วย แต่ถูกพี่น้องประชาชน 25 ล้านเสียงมัดเรากับก้าวไกล ให้ติดกัน เปรียบเสมือนพ่อแม่เราจับเราที่เป็นลูกจับคลุมถุงชน ให้มาแต่งงานกัน เราไม่มีสิทธิปฏิเสธ เพราะฉะนั้น เสียงของประชาชน 25 ล้านคน สำคัญที่สุด เราคำนึงถึงจุดนี้เป็นหลักในการเจรจาพูดคุย และการนำเสนอทุกเรื่อง เมื่อก้าวไกลเขาไม่ให้ เราก็ต้องมาพิจารณาว่า เขาไม่ให้ เราก็ไม่ควรจะต้องรับ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น