“ผอ.การท่าอากาศยานดอนเมือง” แจงปมทางเลื่อนดูดขาผู้โดยสาร เร่งหาสาเหตุ ยืนยันพร้อมรักษา-เยียวยาเต็มที

ผอ.การท่าอากาศยานดอนเมือง เร่งหาสาเหตุทางเลื่อนดูดขาผู้โดยสารหญิง ยืนยันดูแลค่ารักษาพยาบาลและการเยียวยาเต็มที่ พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยเชิญหน่วยงานนอกร่วมตรวจสอบ

จากกรณี เมื่อเวลา 08.30 น. เกิดอุบัติเหตุกับผู้โดยสารขาซ้ายถูกทางเลื่อนดูดเข้าไปจนทำให้ขาซ้ายขาด ก่อนนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลภูมิพล ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจะเห็นภาพในระยะไกล เมื่อเวลา 08.30 น. ผู้โดยสารเพศหญิง ซึ่งกำลังจะเดินทางไปยัง จ.นครศรีธรรมราช ทางเดิน South Corridor ระหว่าง Pier 4 – Pier 5 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

ต่อมาผู้บริหารท่าอากาศบยานดอนเมือง ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและสั่งการหาสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยท่าอากาศยานดอนเมือง ได้ทำการปิดการใช้ทางเลื่อนนี้เป็นการชั่วคราว และเร่งนำทีมวิศวกรเข้าสำรวจหาสาเหตุโดยละเอียด และตรวจสอบความปลอดภัย จากนั้นผู้บริหารท่าอากาศยานดอนเมือง ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะรับผิดชอบดูแลค่ารักษาและค่าชดเชยต่างๆ อย่างเต็มที่ พร้อมกับเดินทางเข้าเยี่ยมผู้ป่วยเพื่อติดตามการรักษาจากคณะแพทย์โรงพยาบาลภูมิพล

กระทั่งเวลา 15.00 น. นายการันต์ ธนกุลจีรพัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง และ นายชยาศิส บำรุงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายไฟฟ้าและเครื่องกล ร่วมกันแถลงข่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงเวลา 08.27 น. เกิดเหตุ นางสุพรนี กิตติรัตนา อายุ 57 ปี ประสบอุบัติเหตุรุนแรงที่ปลายทางเลื่อน ระหว่าง South Corridor ระหว่าง Pier 4 – Pier 5 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 ทำให้ขาซ้ายตั้งแต่ใต้เข่าลงไปติดอยู่ในทางเลื่อนถึงขั้นขาขาด เบื้องต้นได้รีบนำตัวผู้โดยสารส่งโรงพยาบาลภูมิพลทันที แต่ทางผู้โดยสารมีความประสงค์จะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งทางทีมแพทย์ชุดแรกของโรงพยาบาลภูมิพลแจ้งว่า “ขาไม่สามารถต่อได้” และผู้ป่วยเสียเลือดมาก จึงให้เลือดก่อน แต่ทางแพทย์ชุดที่ 2 ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ยืนยันว่า จะพยายามรักษาอย่างเต็มที่ เบื้องต้นจากการดูแลสภาพจิตใจของผู้โดยสาร พบว่า ผู้โดยสารค่อนข้างเข้มแข็ง

ข่าวที่น่าสนใจ

นายการันต์ เปิดเผยอีกว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อเท็จจริง และได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความชัดเจนให้มากที่สุด โดยจะใช้ทีมงานชุดนอกร่วมตรวจสอบด้วย คือ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยร่วมตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและปลอดภัยว่า อุปกรณ์ตัวนี้เกิดความผิดพลาดจากอะไร ซึ่งอุปกรณ์ทางเลื่อนมีการตรวจเช็คทั้งรายวัน / รายเดือน / ราย 3 เดือน และรายปี โดยบริษัทต้นทางที่ทำการติดตั้ง คือ “ฮิตาชิเจแปน” ซึ่งมีบริษัท “สยามฮิตาชิ” เป็นผู้ตรวจเช็คซ่อมบำรุง เป็นการบริการหลังการขายของประเทศญี่ปุ่นโดยตรง จึงมีความเชี่ยวชาญและตรวจเช็คอย่างรอบด้าน โดยยืนยันว่า ทางเลื่อนสามารถใช้งานได้หากมีการตรวจเช็คบำรุงตามรอบ และเปลี่ยนอะไหล่ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางฮิตาชิเจแปน ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว

สำหรับทางเลื่อนถูกติดตั้งใช้งานมาตั้งแต่ 2539 หรือ ประมาณ 27 ปีแล้ว ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ รวมถึงหวี ไม่มีการชำรุดเลยก่อนเกิดเหตุ เพราะฉะนั้นจะต้องมีการสืบสวนให้ละเอียดก่อน เบื้องต้นครั้งล่าสุด คือ วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งตามปกติแล้วถ้ารองหวีหักติดกันสองซี่ จะมีการเปลี่ยนทันที แต่จากภาพที่ปรากฎในสื่อที่เห็นว่ามีร่องหวีหักหลายซี่ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เกิดจากสาเหตุใด

ขณะที่การตรวจสอบภาพวงจรปิดที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเป็นภาพระยะไกล ซึ่งต้องขอดูรายละเอียด และสืบสวนก่อนว่าเกิดจากอะไรกันแน่ / จึงยังไม่ สามารถตอบได้ว่า มีการสะดุดของผู้โดยสาร หรือการสะดุดของตัวสายพานทางเลื่อน แต่จากตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบล้อของกระเป๋าของผู้โดยสารติดอยู่ใต้ทางเลื่อนถึง 2 ล้อ และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ดดยทางเลื่อนมีทั้งหมด 20 ตัว เป็นของใหม่ 6 ตัว และเป็นของเก่า 14 ตัว ขณะนี้ได้ยุติการใช้งานชั่วคราวแล้ว ซึ่งทางเลื่อนนี้ไม่ได้มีเซ็นเซอร์รุ่นใหม่เหมือนกับสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเทคนิคในเรื่องอุปกรณ์เซฟตี้ จะเป็นการเช็คความตึงของโซ่ ถ้ามีอะไรไปขืน ตัวเซฟตี้จะตัดการทำงานทันที ต่างกับแบบใหม่ที่ตัวเซนเซอร์ใต้หวี หากมีอะไรมากระทบ เซนเซอร์ก็จะตัดทันที แต่ขณะเกิดเหตุเซ็นเซอร์ตัวนี้ ทำงาน แต่ทำงานช้า จึงต้องกลับไปตรวจสอบก่อนว่าเพราะอะไร

เมื่อถามถึงประเด็นทั้งเลื่อนจุดนี้คล้ายกับที่เกิดเหตุเมื่อปี 2562 หรือไม่ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ระบุว่า เหตุการณ์นั้นเป็นบันไดเลื่อน ไม่ใช่ทางเลื่อน ซึ่งเดิมทีทางท่าอากาศยานดอนเมือง มีแผนที่จะเปลี่ยนทางเลื่อนในปีงบประมาณ 2568 แต่เมื่อเหตุเกิดแบบนี้ จะต้องของบฉุกเฉิน เป็นงบประมาณเร่งด่วนในปี 2567 เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ส่วนหลังจากเกิดเหตุได้มีการพูดคุยและสอบถามกับตัวผู้โดยสารแล้ว แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะผู้โดยสารยังอยู่ในสภาวะที่ยังไม่พร้อมให้ข้อมูล แต่ทางท่าอากาศยานดอนเมืองได้พูดคุยกับญาติและจัดผู้ประสานงานใกล้ชิดตลอดเวลา รวมถึงดูแลค่ารักษาพยาบาลอย่างดีที่สุด

ขณะที่มาตรการในการดูแลและเยียวยาผู้โดยสารหลังจากนี้ จะขอพิจารณาก่อนว่า จะชดเชยได้เท่าไหร่ แต่เบื้องต้นที่ได้พูดคุยกับญาติผู้บาดเจ็บ ยังไม่มีท่าที่เรียกร้องอะไร ซึ่งหลังจากนี้ทางท่าอากาศยานดอนเมืองจะกลับไปทบทวนให้รัดกุมมากขึ้น และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งหลังเกิดเหตุนี้ โดยยืนยันว่าจะช่วยเหลือค่าพยาบาลและชดเชยให้กับผู้โดยสารอย่างถึงที่สุด และขอให้เชื่อมั่นทางท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นและแก้ไขให้ดีที่สุด จะไม่ทำ ให้มีเหตุการณ์อุบัติเหตุเป็นครั้งที่ 2 ทั้งนี้มีรายงานว่ากล้องวงจรปิดบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุมีสามตัว คือ จุดเริ่มต้น จุดกลาง และจุดสุดทางเลื่อน แต่ปรากฏว่ากล้องหมุนไปจับภาพมุมอื่น และหันมาอีกทีตอนที่ผู้โดยสารหญิงล้มลงไปแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คึกคักสุดๆ แห่เที่ยวตามรอย "ลิซ่า" ในซีรีส์ The White Lotus 3 ทำยอดจองโรงแรมเกาะสมุยพุ่ง
ผู้ลี้ภัยแอลจีเรียไล่แทงตำรวจในฝรั่งเศส
เต่าทะเลกว่า 6 แสนตัวแห่วางไข่ที่ชายหาดอินเดีย
ฮามาสปล่อย 6 ตัวประกันสุดท้ายภายใต้ข้อตกลงเฟสแรก
‘Super AI Engineer Season 5’ รวมพลังรัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ปั้นบุคลากร AI เสริมขีดความสามารถแข่งขันไทย
"ดร.ปณิธาน" ยกพัทยาโมเดล แก้ปัญหา "ชาวอิสราเอล" ล้นเมืองปาย แนะหน่วยมั่นคงบังคับใช้กม.ใกล้ชิด
"อดีตสว.สมชาย" แฉโพย ฮั้วเลือกสว. ชี้เป็นหลักฐาน ดีเอสไอ เร่งนำลากไส้ตัวการใหญ่
‘ทักษิณ’ ปลื้มลงพื้นที่นราธิวาส ในรอบ 19 ปี ปชช.รอต้อนรับ
นายกฯ รับรายงาน ตร.ไทย-กัมพูชา ร่วมมือทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต ช่วยเหยื่อคนไทยนับร้อย หลุดพ้น
“เทพไท” เชื่อ 44 อดีตสส.ก้าวไกล ลงชื่อรื้อ แก้ 112 ถูกตัดสิทธิ์ กระทบหนักยิ่งกว่าถูกยุบพรรค

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น