ศึกชิงประธานฯระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้ง่าย ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่าพรรคก้าวไกลจะเสนอชื่อ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล สัดส่วนภาคเหนือ ดำรงตำแหนงดังกล่าว ขณะที่พรรคเพื่อไทยยืนยันชัดเจนว่าพรรคต้องได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งจากความขัดแย้งดังกล่าวทำให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลต้องล้มการเจราเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา รวมถึงต้องเลื่อนการประชุมของ 8 พรรคการเมืองจากวันที่ 29 มิถุนายนไปเป็นวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
จากความไม่ลงตัวที่เกิดขึ้นระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยบ่งบอกสถานการณ์ชัดเจนว่า ตำแหน่งประธานสภาฯจะไม่มีวันลงตัวอย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีความพยายามลากยาวไปถึงวันที่ 2 กรกฎาคม ซึ่งถือเป็นวันเส้นตายสุดท้ายก่อนจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมสภาฯอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 จากนั้นจะตามมาด้วยการเลือกตำแหน่งประธานสภาฯในวันถัดไปตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดพรรคเพื่อไทยได้มีการเสนอสูตร 15+1 ประกอบไปด้วยตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ 15 ตำแหน่งให้กับพรรคก้าวไกล ส่วนพรรคเพื่อไทยจะยอมลดสัดส่วนด้วยการใช้สูตร 13+1 คือประธานสภาฯ และรัฐมนตรี 13 ตำแหน่ง