ศาลสั่งจำคุก “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” 1,155 ปี คดีฉ้อโกงประชาชน พร้อมชดใช้ค่าเสียหายอ่วม

ศาลสั่งจำคุก “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” 1,155 ปี คดีฉ้อโกงประชาชน พร้อมชดใช้ค่าเสียหายอ่วม

3 ก.ค.2566 ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีที่นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อดีตประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน นักธุรกิจพันล้าน กับพวกทั้งบุคคลและนิติบุคคล ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กรณีเมื่อปี 2563-2664 นายประสิทธิ์กับพวกร่วมกันเปิดบริษัทและชักชวนประชาชนมาร่วมลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมเพื่อมาปล่อยให้เช่าเก็งกำไร โดยจะให้ผลตอบแทนร้อยละ 40-50 ต่อปี จนมีประชาชนหลงเชื่อร่วมลงทุนจำนวนมาก แต่กลับไม่นำเงินจากผู้เสียหายไปลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม จึงเป็นเพียงอุบายระดมทุนจากผู้เสียหาย สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์รับฟังได้ว่า นายประสิทธิ์ ดำเนินธุรกิจโดยรู้หรือควรรู้ว่าเป็นธุรกิจที่ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนได้ตามที่โฆษณา แต่ยังโฆษณาชักชวนผู้เสียหายมาลงทุน ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ถือว่าบริษัท วีเลิฟยัวแบ็ก (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท เหนือโลก จำกัด และนายประสิทธิ์ จำเลยที่ 1, 3, 4 ร่วมกับทุจริตหลอกลวง มีความผิดตามฟ้อง แต่เป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบาท ให้ลงโทษข้อหาหนักสุด คือ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ให้ปรับ 321 กระทง ๆ ละ 500,000 บาท รวมปรับจำเลย 3 ราย ๆ ละกว่า 145 ล้านบาท และจำคุกนายประสิทธิ์ กระทงละ 5 ปี รวม 1,155 ปี แต่ตามกฎหมายให้ลงโทษสูงสุด 20 ปี และให้จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาทคืนให้ผู้เสียหาย พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี

 

ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 6 ราย ไม่มีหลักฐานว่าโฆษณาชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุน โดยจำเลยบางส่วนเป็นเพียงลูกจ้างที่ถูกนายประสิทธิ์ขอให้เป็นกรรมการบริษัท และได้มีการยื่นใบลาออกไปแล้ว ขณะที่บางคนเป็นเพียงร้านที่ผู้เสียหายมาซื้อทอง เพื่อนำไปลงทุนกับนายประสิทธิ์ ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์

 

อย่างไรก็ตาม อธิบดีอัยการฯ ได้ทำความเห็นแย้งเสนอว่าจำเลยทั้ง 9 ราย ร่วมกันกระทำความผิด โดยร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เป็นตัวการร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเชื่อมโยงกับนายประสิทธิ์และบริษัท เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ จึงไม่จำเป็นที่จำเลยแต่ละรายจะต้องกระทำผิดต่อผู้เสียหายแต่ละคนด้วยตนเองก็ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น