"กองทุนผู้สูงอายุ 2566" กรมกิจการผู้สูงอายุ เปิดเกณฑ์ใหม่ขอกู้ยืมเงินประกอบอาชีพของกองทุนผู้สูงอายุ เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยทางด้านเพจเฟซบุ๊ก รัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล ได้ระบุข้อมูลว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ แจ้งหลักเกณฑ์ใหม่ในการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพของกองทุนผู้สูงอายุ เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป ดังนี้
คุณสมบัติของผู้กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ
- มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านเงินทุนประกอบอาชีพ (จากเดิม มีความจำเป็นขอรับการสนับสนุนเงินกู้ยืมประกอบอาชีพ)
- มีความสามารถในการประกอบอาชีพ
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ คนเสมืนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ (จากเดิม มีสภาพร่างกายแข็งแรงประกอบอาชีพได้)
- มีปัจจัยในการประกอบอาชีพ
- มีสถานที่ในการประกอบอาชีพในจังหวัดเดียวกันกับที่ได้ยื่นคำร้องขอกู้ยืมไว้
- ไม่เป็นผู้กู้ หรือผู้ค้ำของกองทุนผู้สูงอายุ
- คู่สมรส หรือบุคคลซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส ต้องไม่เป็นผู้ค้างชำระเงินกองทุนผู้สูงอายุ (กำหนดเพิ่มเติม)
คุณสมบัติของผู้ค้ำประกัน กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ
- เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย และมีอายุ ไม่เกิน 57 ปีบริบูรณ์ (จากเดิม มีอายุไม่เกิน 59 ปีบริบูรณ์)
- มีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่จังหวัดเดียวกับผู้ขอกู้ยืม
- เป็นผู้มีรายได้หรือเงินเดือนประจำไม่น้อยกว่า 9,000 บาท (จากเดิม เป็นผู้มีรายได้หรือเงินเดือนประจำ)
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ (กำหนดเพิ่มเติม)
- ไม่เป็นผู้ค้ำประกันหนี้ผู้สูงอายุบุคคลอื่น
- ไม่เป็นคู่สมรส หรือบุคคลซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกับผู้กู้ (กำหนดเพิ่มเติม)
ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่สนใจกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพและมีคุณสมบุติตามเกณฑ์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากกองทุนผู้สูงอายุ โทร.0-2354-6100 หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทั่วประเทศ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : รัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง