วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณี เยาวชนหญิงอายุ 16 ปีได้รับอิทธิพลทางความคิด ในเรื่องเสรีภาพการแต่งกายชุดไปรเวทแทนชุดนักเรียนเนื่องจากถูกทำให้เข้าใจผิดว่าชุดนักเรียน คือ การกดทับของอำนาจนิยมจนกลายเป็นการละเมิดกฎกติกาของโรงเรียน กฎกติกาของสังคม เสี่ยงต่อการเสียอนาคตและมีแนวโน้มที่จะขยายผลกลายเป็นประเด็น ดราม่าทางการเมืองของฝ่ายเห็นด้วยและเห็นต่าง
“อี้ แทนคุณ” ย้อนเจ็บ “ก้าวไกล” หยุดปั่นหัวเด็กปมเครื่องแบบนร. หลังใส่ชุดขาวยิ้มร่าเข้าสภาฯ
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยตนมองว่าการโจมตีเรื่องเครื่องแบบและการแสดงความเคารพต่อสถาบันเป็นการใช้เด็กเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้คะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วพรรคก้าวไกลเองก็มีเครื่องแบบของพรรคในการรณรงค์ หาเสียงเลือกตั้งและเมื่อได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ใส่ชุดเครื่องแบบปกติขาวโดยพร้อมเพียง ถ่ายรูปยิ้มแย้มแจ่มใสดังปรากฏในโซเชียลมีเดีย โดยไม่มีใครปฏิเสธการกดทับอำนาจนิยมหรือใส่ชุดไปรเวทไปหรือปฏิเสธการเข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาดังกล่าวแต่อย่างใด จึงถือเป็นเรื่องที่ดีที่เมื่อเป็นส.ส.แล้วพรรคก้าวไกลจะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี รักและเทิดทูนสถาบันด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและแสดงความเคารพ ต่อในหลวงและพระราชินีซึ่งถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน
“ควรหยุดปลุกปั่นให้เยาวชนเกลียดชังสถาบัน เกลียดชังชุดเครื่องแบบและต่อต้านกฎระเบียบ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีแต่เยาวชนหรือคนที่ไปร่วมชุมนุมเท่านั้นที่ต้องถูกดำเนินคดีเพราะหลงเชื่อการปลุกปั่นของพรรคแต่บรรดานักการเมืองกลับไม่มีใครถูกดำเนินคดีเลย จึงอยากฝากเตือนไปยังนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลให้คิดให้ดีว่าจะยินยอมตกเป็นเหยื่อให้กับการสร้างวาทกรรมแตกแยกอย่างนี้ต่อไปอีกหรือไม่” นายแทนคุณ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง